Archive for the ‘วัดในฉะเชิงเทรา’ Category

วัดปากน้ำโจ้โล้ สวยงามตระการตา unseenโบสถ์สีทอง

วัดปากน้ำโจ้โล้ หรือที่รู้จักกันดีในชื่อของ วัดโบสถ์สีทอง เนื่องจากโบสถ์ของวัดมีสีทองทั้งหลัง ทั้งภายนอกและภายใน เป็นจุดเด่นแก่ผู้พบเห็น

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างตลาดน้ำบางคล้า และวัดค้างคาวแม่ไก่ (วัดโพธิ์บางคล้า) เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่น่าสนใจ และเป็น unseen อีกแห่งของเมืองแปดริ้วจริงๆ

ด้านในตัวโบสถ์นั้นก็มีสีเหลืองทองเหมือนกับด้านนอก รวมทั้งข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ก็จะเน้นสีของทองคำเช่นกัน ทำให้ดูล้ำค่าน่าสักการะากยิ่งขึ้น

ภายใต้ฐานองค์พระประธานในโบสถ์ได้เปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาลอดใต้ฐานพระเพื่อความเป็นศิริมงคลอีกด้วย

สถานที่ตั้ง.. ต.ปากน้ำ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

ขอขอบคุณ http://www.sawasdee-padriew.com/

โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้

watpaknam1

โบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้ ตั้งอยู่ อ. บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ชมพระอุโบสถหนึ่งเดียวในประเทศไทย ที่ทาสี ทองทั้งหลัง ไม่ว่าจะเป็น ภาพในหรือหรือนอกตัวอุโบสถ์ ที่งดงามตระการตาเป็น อย่างมาก และภายนอกวัด ก็มี เรือโบราณ ในสมัยก่อนที่อยู่ในยุค สมเด็จพระจ้าตากสิน โชว์ไว้อีด้วย นอกจากนี้ภายในอุโบสถ ยังสามารถลอด ใต้ฐานพระประธานได้เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกด้วย แต่เดิม วัดปากน้ำโจ้โล้ เป็นสำนักสงฆ์ ในอดีตบริเวณนี้เป็น ที่ ตั้งของ ทัพพม่า ซึ่งยกทัพบกทัพเรือไปปะทะกับกองทัพสมเด็จพระเจ้าตากสิน ต่อมาสมเด็จ พระเจ้าตากสิน มหาราชทรงมีชัย จึงโปรดฯ ให้สร้างเจดีย์ไว้เป็นอนุสรณ์ ปัจจุบันได้มีการสร้างอุโบสถหลังใหม่เป็นสีทองทั้งหลัง

การเดินทางโบสถ์สีทอง วัดปากน้ำโจ้โล้
1. โดยรถส่วนตัว
จากตลาดน้ำบางคล้าเลี้ยวซ้าย ไปทางเดียงกับร้านอาหาร่มไม้สายธาร ขับตรงไปเรื่อยๆ จะเห็น
โรงเรียนปากน้ำโจ้โล้ วัดจะอยู่ตรงข้ามกัน
2.โดยรถสาธารณะ
นั่งรถโดยสารจากตัวเมืองแปดริ้วขึ้นที่สถานีขนส่ง จะมีรถโดยสารไปถึงตลาดน้ำบางคล้า เมื่อถึงตลาดน้ำสามารถ เหมารถโดยสารท้องถิ่น หรือมอเตอร์ไซต์ไป

ขอขอบคุณ http://www.paiduaykan.com/

สถานที่ท่องเที่ยววัดปากน้ำ ฉะเชิงเทรา

เดิมเป็นสำนักสงฆ์ อยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าวัดมีคลองไหลผ่านมารวมกับแม่น้ำบางปะกง สร้างมาประมาณ ๒๐๐ ปี พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่า ซึ่งมีทั้งทัพบก และทัพเรือ ได้ต่อสู้และพ่ายแพ้ทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้น ณ ที่แห่งนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์ เจดีย์นั้นอยู่ที่อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แต่ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงไปหมด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 กรมศิลปากรจึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม

สิ่งที่น่าสนใจในวัดปากน้ำโจ้โล้
อุโบสถสีทองทั้งหลัง (ปัจจุบันกำลังสร้างกำแพงแก้ว และซุ้มประตูสีทอง)
ศาลาการเปรียญไม้หลังใหญ่แบบเก่า มีช่อฟ้าใบระกาหางหงส์
เรือโบราณในยุคสมเด็จพระเจ้าตากสิน

สถานที่ท่องเที่ยวใกล้เคียง
ตลาดน้ำบางคล้า
วัดโพธิ์บางคล้า (ค้างคาวแม่ไก่)
อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช

ขอขอบคุณ http://www.touronthai.com/

ประวัติวัดปากน้ำ

1345634493

สร้างขึ้นในระหว่างปี พ.ศ. 2310 – 2325 สมัยพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นศิลป สมัยรัตนโกสินทร์กับอยุธยา รูปทรงจตุรมุก่ออิฐฉาบปูน หลังคาจั่วมุงด้วยกระเบื้องเกร็ดเต่าทำจากดินเผามีหน้าต่างหนึ่งช่อง มีประตูสองช่องเหนือขอบประตูสองด้านประดับด้วยถ้วยชามสังคโลกเรียงกันเป็น รูปทรงกลม หน้าจั่วเป็นพื้นเรียบกระเบื้องชายหลังคาเชื่อมด้วยปูน ตัววิหารมีกำแพงล้อมรอบพร้อมมุงหลังคาและมีพระพุทธรูปปางมารวิชัยทำด้วยปูน ประดิษฐานไว้โดยรอบจำนวน 8 องค์ส่วนภายในวิหารมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ 1 องค์ต่อมาหลังคมวิหารและกำแพงได้ชำรุดและพังลง

ในปี พ.ศ. 2485 มีผู้ใจบุญได้ซ่อมหลังคาใหม่โดยมุงด้วยกระเบื้องเกล็ดเต่าเคลือบสี หน้าบันจั่วทิศตะวันตกเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประดับด้วยลายเครือเถาหน้าบันจั่วด้านประตูปั้นเป็นรูปดอกบัว 5ดอก ประดับแจกันหลังคาประดับด้วยช่อฟ้ารูปหัวพญานาค มีใบระกา และต่อมาหลังคาและนาคปั้นก็พังเกิดความชำรุดเสียหายอีกทางอำเภอบางคล้าได้ ร่วมกับประชาชนบริจาคทรัพย์เพื่อช่วยซ่อมแซมขึ้นในปี พ.ศ. 2541เป็นการอนุรักษ์ของเดิมเอาไว้เพื่อเป็นมรดกของชาติโดยได้ทำการซ่อมหลังคาโครงสร้างใหม่หมด ตั้งเสาเสริมความเข้มแข็ง 4 ด้าน รวม 8ด้าน ฉาบผนังภายในโดยก่ออิฐฉาบปูนทุกด้าน เปลี่ยนฝ้าเพดาน เปลี่ยนโคมไฟปูพื้นใหม่ด้วยหินอ่อน และปูศิลาแลงโดยรอบวิหารทั้ง 4ด้านและทางวัดได้ดำเนินการประดับตกแต่งเครื่องบนตัวนาคและลวดลายหน้าบันเพื่อทรงคุณค่าทางศิลปกรรมและมรดกทางวัฒนธรรม

ขอขอบคุณ http://www.painaidii.com/

มนเสน่ห์บางคล้า สักการะวัดปากน้ำโจ้โล้ วัดโพธิ์ วัดเสม็ดเหนือ และวัดสมานรัตนาราม

อำเภอบางคล้า เป็นอำเภอใหญ่อำเภอหนึ่ง เดิมแบ่งเขตการปกครองเป็นสองอำเภอ คือ อำเภอหัวไทรและอำเภอบางคล้า จนถึงปี พ.ศ. 2447 สมเด็จพระบรมวงศ์เธอกรมพระยาดำรงราชานุภาพกราบ บังคมทูลให้มีพระบรมราชโองการยุบอำเภอหัวไทรลง อำเภอบางคล้าเดิมตั้งอยู่ที่วัดใหม่บางคล้า ตำบลบางสวนในปัจจุบัน ต่อมาทางราชการเห็นว่าที่ตั้งที่ว่าการอำเภอไม่อยู่ในบริเวณศูนย์กลาง จึงย้ายมาอยู่ที่ตำบลเตาสุราซึ่งเป็นที่ตั้งที่ว่าการอำเภอในปัจจุบัน

มาดูแผนที่เที่ยวภายในอำเภอบางคล้ากันค่ะ มีสถานที่เที่ยวเยอะแยะเลยค่ะ ไม่ได้เฉพาะ 4 วัด ที่จะนำเสนอนะค่ะ ยังมีตลาดน้ำบางคล้า คุ้มวิมานดิน สวนปาล์มฟาร์มนก และอื่นๆ อีกมากมายเลยค่ะ รับรองว่า แค่วันเดียวก็เที่ยวครบในอำเภอบางคล้า

1345632941

Read more »

วัดสมานรัตนาราม

wat-saman

ไปไหว้พระขอพรพระพิฆเนศปางเสวยสุของค์สีชมพูที่ใหญ่ที่สุดในประเทศที่วัดสมาน จังหวัดฉะเชิงเทราวันนี้ผมจะมารีวิวให้เพื่อน ๆ ได้เดินทางไปพร้อม ๆ กันและเป็นวิธีที่ง่ายและประหยัดที่สุด เริ่มต้นด้วยจุดเริ่มต้นที่คิวรถตู้ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครับที่นี่จะมีคิวรถตู้ที่เดินทางไปฉะเชิงเทราเพียงแค่แจ้งเค้าว่าเราอยากไปฉะเชิงเทรา บอกว่าลงขนส่งจังหวัดฉะเชิงเทรา ค่ารถตู้คนละ 100 บาท แค่หนึ่งชั่วโมงเราก็ถึงขนส่งแล้วหรือใครที่จะแวะไหว้หลวงพ่อโสธรที่วัดโสธรวรารามวรวิหารก่อนก็ได้แล้วค่อยต่อสองแถวไปยังขนส่งก็ยังทันหากจะต่อรถจากที่วัดหลวงพ่อโสธรเลยจะไม่มีรถสองแถวผ่านไปยังวัดสมานโดยตรงอาจจะต้องเหมารถไปราคาก็แพงอยู่เหมือนกัน ทางที่ดีแนะนำนั่งสองแถวไปที่ขนส่งดีกว่าเพราะจะมีคิวรถไปยังวัดสมานอยู่ที่นั้น

ภายในเป็นที่ประดิษฐานของพระพิฆเนศปางเสวยสุข องค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประชาชนส่วนใหญ่นิยมมาสักการบูชา พร้อมทั้งกระซิบข้างหูของหนู ที่ตั้งอยู่ด้านหน้า เพื่อฝากคำขอต่าง ๆ นำไปบอกต่อพระพิฆเนศและมีพิพิธภัณฑ์ภายในวัด เป็นที่รวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับวัดและพระพิฆเนศให้นักท่องเที่ยวได้ทราบกันอีกด้วยซึ่งพิพิธภัณฑ์จะอยู่ใต้ฐานของพระพิฆเนศ นอกจากนี้ยังมีเจ้าแม่กวนอิมปางประทานบุตรองค์ใหญี่ที่สุดในโลกที่จะประทานพรให้กับทุกคนที่มาสักการะและองค์พระราหู ช้างสามเศียร และเทพต่าง ๆ อีกมากมายเพื่อน ๆ ต้องไปขอพรกันให้ได้นะครับและที่วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ยังมีที่จอดรถห้องน้ำสะดวกสบายอีกด้วย

ขอขอบคุณ http://www.tourthailands.com/

10 สิ่งศักดิ์สิทธิ์แปดริ้ว วัดสมานรัตนาราม ขอพรพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในไทย

p1923sueaditpdsa1be7o2411hn5

คนไทยเรานับถือพระพิฆเนศ เป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ และความสำเร็จ ทางด้านการศึกษาเล่าเรียน, ตำแหน่งหน้าที่การงาน, การเงิน, ความรัก, ปัดเป่าอุปสรรคทุกข์ภัย หรือแก้ไขปัญหาต่างๆ ค่ะ และวันนี้เราก็จะพาไปขอพรพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ “วัดสมานรัตนาราม” จ.ฉะเชิงเทรา ค่ะ

วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ระหว่างอำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน ริมแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ค่ะ จากกรุงเทพฯ มาไม่ไกลเพียงแค่ประมาณชั่วโมงกว่าๆ เท่านั้นเอง สำหรับที่วัดสมานรัตนารามนี้เป็นวัดที่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ถึง 10 แห่งด้วยกันที่ผู้คนนิยมมาขอพร และทำบุญค่ะ คือ หลวงพ่อโต พระประธานในอุโบสถหลังใหม่, หลวงพ่อองค์ดำ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์, หลวงพ่อประทานพร, พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานบุตร, พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข, พระพิฆเนศ ปางปาฏิหาริย์ ๑๐๘ กร, ช้างเอราวัณ, พระราหู, พระพรหม และจระเข้โหราเทพารักษ์

Read more »

วัดสมานรัตนาราม

20131002_46_1380705690_58717

วัดสมานรัตนาราม เป็นวัดที่มีประชาชนชาวหลั่งไหลกันมานมัสการ กราบไหว้เพื่อวิงวอนให้เทพเจ้าคุ้มครองดวงชะตา เหมือนเป็นการฝากดวง เพื่อสะเดาะเคราะห์ ช่วยให้ร้ายกลายเป็นดี จากหนักกลายเป็นเบา และยังเป็นวัดที่มีองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง
เดินทางจากถนนรามอินทรา ออกมีนบุรี ก่อนถึงมีนบุรีเลี้ยวซ้ายไปจังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตุป้ายบอกทางเมื่อจะเข้า แปดริ้วเลี้ยว ซ้ายบนสะพาน (ตรงไปจะไปชลบุรี ) ไปเรื่อยๆเลยไฟแดงชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตรง ไปถึงสี่แยกไฟแดงแยกคอมเพล็กเลี้ยวซ้าย ไปทางบางคล้า ตั้งไมล์กม. จะถึงปากทางวัดจุกเฌอ เลี้ยวช้าย เข้าไปอีกประมาณกิโล จะมีทางเบี่ยงขวาสังเกตป้าย(ถ้าเลยจะเข้าวัดจุกเฌอให้ถอยกลับ) วิ่งข้ามสะพานชี่ง เป็นเขื่อนทดน้ำจะสูง สักนิดลงสะพานวิ่งต่อไปอีกประมาณ1กม.จะถึงปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม

ขอขอบคุณ http://www.painaidii.com

พระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา องค์พระพิฆเณศ วัดสมาน จ.ฉะเชิงเทรา

P1050883-e1356516347740

พระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา องค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข ที่ วัดสมานรัตนาราม ถือเป็นปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง

วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมาน)
ที่ตั้ง วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมาน) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง บ้านหมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางแก้ว (ตำบลไผ่เสวกเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง มีเนื้อที่ตามหน้าโฉนดที่ตั้งวัด ๒๖ ไร่ ๓ งาน ๕๐ ตารางวา (ภายหลังปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้ทำการรวบรวมผู้มีจิตศรัทธา จัดซื้อที่ถวายวัด จำนวน ๑๔ ไร่ ๑ งาน ๓๖ ตารางวา)

เป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยว ตลอดถึงพ่อค้าประชาชน และนักแสวงบุญทั้งหลาย ทั่วทุกสารทิศหลั่งไหลกันเข้าทำบุญที่วัดไม่ขาดสายเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ หรือวันสำคัญทา พระพุทธศาสนาจะมีพุทธศาสนิกชนเข้ามาที่วัดนี้จำนวนนับหมื่นคนทีเดียว

Read more »

ไหว้พระพิฆเนศที่วัดสมานรัตนาราม

Prapikanet

เส้นทางการไปไหว้พระพิฆเนศปางเสวยสุขที่วัดสมานรัตนาราม ครั้งแรกเห็นป้ายบอกทางตอนขับรถไปไหว้หลวงพ่อพระพุทธโสธร บอกได้เลยเป็นปางที่สวยงามมาก องค์ท่านเป็นสีชมพู น่าจะองค์ใหญ่มาก ก็ยังคิดว่าถ้ามีโอกาสจะไปไหว้พระพิฆเนศด้วย และแล้วด้วยบุญพาไปก็มีโอกาสไปไหว้พระพิฆเนศจนได้ ตามที่ได้เคยแนะนำสิงหาพาแม่เที่ยวฉะเชิงเทราไปแล้ว ก็มีพูดถึงวัดสมานรัตนาราม วัดที่มีองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดความสูง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร เนื้อชมพู ลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงบนฐาน พระหัตถ์ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว โดยรอบฐานจะมีพระพิฆเนศทั้ง 32 ปาง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง โดยมีถึง 3 อำเภอที่สามารถมองเห็นได้ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน

วัดสมานรัตนาราม หรือวัดใหม่ขุนสมาน ตั้งอยู่อำเภอเมือง ของฉะเชิงเทรา ลักษณะที่ตั้งของวัด ถ้าไปส่องดูจาก Google earth จะเห็นได้ว่า เหมือนเป็นเกาะที่มีแม่น้ำบางปะกงล้อมรอบ ทางฮวงจุ้ยเขาเรียกว่า ถุงเงินถุงทอง ก็จัดว่าเป็นทำเลที่ดี

Read more »

วัดสมานรัตนาราม

วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว (ตำบลไผ่เสวกเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง มีเนื้อที่ ตามหน้าโฉนดที่ตั้งวัด 26 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา (ที่ดินนอกวัดไม่มี) ตามคำบอกเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้นเล่าสืบกันต่อกันมาว่ามีครอบครัวหนึ่งอยู่ในฐานะมั่นคง เป็นคหบดีมีคนเคารพนับถือ คือครอบครัวท่านขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย) เมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาทั้ง 2 ของท่านขุนสมานจีนประชา นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (เพิ่มนคร) พร้อมด้วย นางยี่สุ่น วิริยะพานิช (ผู้เป็นน้องสาว ต่อมาภายหลังได้สร้างพระปรางค์ขึ้นหน้าโบสถ์ ปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นอยู่) มีความศรัทธาคิดจะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีผู้ล่วงลับ จึงได้ดำเนินการสร้างวัด ปรากฏตามหลักฐาน เมื่อ พ.ศ.2422 (ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จทางชลมารค์ผ่านมาได้ทรงแวะเยี่ยมวัดและได้มีชาวบ้านผู้หนึ่ง ชื่อนายเหว่า โพนสุวรรณ์ นำนกกวักเผือกถวาย ณ ที่วัดแห่งนี้ด้วย)

เมื่อสร้างวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงได้ตั้งชื่อวัดว่า วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร เป็นวัดราษฎ์ คณะสงฆ์ปกครองวัดสมัยนั้นเป็นฝ่ายมหานิกาย แต่ปกครองไม่นานนักผู้สร้างวัดได้ถวายพระในคณะธรรมยุต มีพระครูศิริปัญญามุนี (อ่อน เทวนิโพ) เป็นประธานสงฆ์ในการรับถวายนี้

Read more »

พระพิฆเนศองค์ใหญ่ วัดสมานรัตนาราม จังหวัดฉะเชิงเทรา

1c33c85ee0841d18d03302c4411d5125

วัดสมานรัตนาราม วัดที่ผู้คนไม่มีผู้รู้จัก ได้พบกับพระหนุ่มองค์หนึ่งมาบวชที่วัดนี้ ด้วยความตั้งใจที่จะพัฒนาวัดอันเป็นบ้านเกิดให้เจริญเป็นที่รู้จักของคนทั่ว ไป เป็นเวลาสิบกว่าปีความตั้งใจที่จะทำ ทำให้วัดพัฒนาจนเป็นที่รู้จัก เพราะท่านได้สละแรงกายแรงใจ และสติปัญญา เกินกว่าวัยของท่านมากยิ่งนัก ท่านก็คือ พระครูธรรมธรไพรัตน์ ปัญญาธโร พระนักพัฒนาอันทรงคุณค่านั่นเอง

วิธีเดินทาง
รถส่วนตัว
จากถนนรามอินทรา ออกมีนบุรี ก่อนถึงมีนบุรีเลี้ยวซ้ายไปจังหวัดฉะเชิงเทรา สังเกตุป้ายบอกทางเมื่อจะเข้า แปดริ้วเลี้ยว ซ้ายบนสะพาน (ตรงไปจะไปชลบุรี ) ไปเรื่อยๆเลยไฟแดงชิดขวาขึ้นสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง ตรง ไปถึงสี่แยกไฟแดงแยกคอมเพล็กเลี้ยวซ้าย ไปทางบางคล้า ตั้งไมล์กม. จะถึงปากทางวัดจุกเฌอ เลี้ยวช้าย เข้าไปอีกประมาณกิโล จะมีทางเบี่ยงขวาสังเกตป้าย(ถ้าเลยจะเข้าวัดจุกเฌอให้ถอยกลับ) วิ่งข้ามสะพานชี่ง เป็นเขื่อนทดน้ำจะสูง สักนิดลงสะพานวิ่งต่อไปอีกประมาณ1กม.จะถึงปากทางเข้าวัดสมานรัตนาราม
** พอถึงฉะเชิงเทราแล้วป้ายบอกทางไปวัดสมานรัตนารามเยอะมากๆครับ ไม่หลงแน่

ขอขอบคุณ http://galakung.com/

“ประวัติวัดสมานรัตนาราม”

ii

ปัจจุบันเมื่อกล่าวถึง “วัดสมานรัตนาราม” ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยว ตลอดถึงพ่อค้าประชาชน และนักแสวงบุญทั้งหลายเข้าทำบุญที่วัดไม่ขาดสายเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ซึ่งสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาในวัดนี้ นอกจากความสงบร่มรื่น และทิวทัศน์ที่สวยงามภายในวัดแล้ว เป้าหมายของผู้คนที่เดินทางมาที่วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ คือ องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทรงไว้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และสามารถประสิทธิ์ประสาทพรแก่ผู้ที่มากราบสักการะให้สำเร็จผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ

ส่วนประวัติการสร้างวัดสมานรัตนารามนั้น พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้เล่าให้ฟังว่า ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่เล่าสืบกันต่อกันมา เดิมที ณ ตำบลบางแก้วแห่งนี้ มีขุนท่านหนึ่ง เป็นคหบดีผู้มีฐานะฐานะมั่นคงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ขุนท่านนี้มีนามว่า ขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย สืบสมาน) ท่านขุนมีน้องสาว 1 คน คือ นางยี่สุ่น วิริยะพาณิชย และมีภรรยา 2 คน คือ นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (เพิ่มนคร) Read more »

ไปไหว้พระพิฆเนศวรปางนอน ณ วัดสมานรัตนาราม

keys184_1293160267

พระพิฆนเศวร เป็นเทพที่มีผู้คนนับถือและเคารพมากที่สุด และเป็นที่ทราบกันดีว่า พระพิฆเนศวร มีหลายปาง ซึ่งส่วนใหญ่จะบูชาปางตามสายงานอาชีพของตน แต่วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปสักการบูชา “องค์พระพิฆเนศวรปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ณ วัดสมานรัตนาราม ริมแม่น้ำบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กัน…ถ้าพร้อมแล้วตามเราไปเลย

องค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข ที่ วัดสมานรัตนาราม ถือเป็นปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง ซึ่งบริเวณใกล้ ๆ กันมี องค์พระพิฆเนศวรปางยืน สร้างที่ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลบางตลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา และ องค์พระพิฆเนศวรปางนั่ง สร้าง ณ เชิงภูเขา วัดเขาแดง ตำบลสาลิกา จังหวัดนครนายก ให้ได้ไปกราบไหว้อีกด้วย

สำหรับ องค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข หมายถึง ความสุขสบาย ความสุขบริบูรณ์มั่งคั่งพร้อมทุกด้าน รื่นรมย์ ไร้ทุกข์ ไร้ความเศร้าหมอง อิ่มหนำ สำราญ มีกินมีโชคลาภ จะนำความสุขสบายมาสู่ผู้บูชา ซึ่งมีเนื้อชมพู มีขนาดความสูง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร ลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงบนฐาน พระหัตถ์บนด้านขวาทรงเชือกบ่วงบาศน์ ที่ทรงใช้ในการนำพามนุษย์ไปสู่เส้นทางแห่งธรรมะ และหลุดพ้นพร้อมทรงขจัดอุปสรรคในระหว่างทาง พระหัตถ์บนซ้ายทรงเชือกขอสับ ที่ใช้ในการป้องกันและพันฝ่าความยากลำบาก พระหัตถ์ขวาล่างทรงงาที่หักครึ่ง เป็นสัญญลักษณ์แห่งความเสียสละ พระหัตถ์ขวาด้านบนถือดอกบัว

Read more »

ประวัติวัดสมานรัตนาราม

วัดสมานรัตนาราม ปัจจุบันตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีที่ดินตามหน้าโฉนด ที่ตั้งวัดทั้งหมด 26 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา

ในอดีตก่อนที่จะมาเป็นวัดแห่งนี้ มีเรื่องเล่าสืบกันต่อกันมาตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้น มีครอบครัวหนึ่งเป็นคหบดีอยู่ในฐานะมั่นคง เป็นที่เคารพนับหน้าถือตาของคนในระแวกนั้นคือ ครอบครัวของท่านขุนสมานจีนประชา(เดิมชื่อจ๋าย) สกุลของท่านขุนสมานจีนประชาคือ “สืบสมาน” ท่านขุนมีภรรยา 2 คนคือ นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (สกุลเก่า-เพิ่มนคร)

เมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่กรรม ภรรยาทั้ง 2คนของท่านขุนสมานจีนประชา พร้อมด้วยนางยี่สุ่น วิริยะพานิช มีความศรัทธาคิดจะสร้างวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีผู้ล่วงลับจึงได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นมา ซึ่งมีปรากฏตามหลักฐาน เมื่อ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.๕) ทรงเสด็จทางชลมารค์ผ่านมา ได้ทรงแวะเยี่ยมวัดแห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และได้มีชาวบ้านผู้หนึ่งชื่อ นายเหว่า โพนสุวรรณ์ นำนกกวักเผือกถวาย ณ ที่วัดแห่งนี้ด้วย

Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .