Archive for the ‘วัดในนครราชสีมา’ Category

ไหว้พระ ที่อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี

watsorraphong01

มูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ มักจะเรียกกันติดปากว่าวัดสรพงศ์ แต่จริงๆ แล้วที่นี่ไม่ใช่วัด ไม่มีพระสงฆ์ สร้างขึ้นด้วยแรงศรัทธาของคุณสรพงศ์ ชาตรี หรือ พิทยา เทียมเศวต เริ่มเมื่อประมาณปี 2541 เพื่อเป็นที่ตั้งสมเด็จพุทธาจารย์ โต พรหมรังสี ที่ใหญ่ที่สุดในโลก(ไม่รู้ว่าใหญ่ที่สุดในโลกอยู่หรือเปล่าเพราะที่วัดตาลเจ็ดยอดที่ประจวบก็มีหลวงพ่อโตที่ใหญ่ที่สุดในโลกเหมือนกัน) ถึงตอนนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จสมบูรณ์ 100 % แต่ก็ยังมองเห็นความสวยงาม ที่มีการสร้างอย่างประณีตทั้งสิ่งก่อสร้างและภูมิทัศน์โดยรอบ

เข้าไปก็รู้สึกได้ถึงความร่มรื่นและความสวยงามในการจัดสวนภายในอุทยานฯ มีที่จอดรถกว้างขวาง

เห็นบัวแล้วนึกถึงคำสอนของพระพุืืืทธเจ้าเรื่องบัวสี่เหล่า ซึ่งเปรียบบุคคลเหมือนบัว 4 จำพวก
หนึ่ง บัวที่โพล่พ้นน้ำพร้อมจะบานเมื่อถูกแสงอาทิตย์ คือคนที่สติปัญญาเฉลียวฉลาด ฟังธรรมแล้วเข้าใจในเวลารวดเร็ว สอง บัวที่ปริ่มน้ำจะบานในวันถัดไป คือคนที่สติปัญญาปานกลางต้องได้รับการฝึกฝนเพิ่มเติมถึงจะเข้าใจธรรม สาม ดอกบัวที่อยู่ใต้น้ำที่จะค่อยๆ โพล่ขึ้นและบานไ้ด้ในวันหนึ่ง คือคนที่สติปัญญาน้อยต้องฝึกฝนเพิ่มเติม ขยันหมั่นเพียรและไม่ย่อท้อก็จะสามารถเข้าใจธรรมได้ในสักวันหนึ่ง สี่ บัวที่อยู่ใต้โคลนตมไม่มีทางโพล่ขึ้นมา รังจะเป็นอาหารของเต่าปลา คือคนที่ไร้สติปัญญา ได้ฟังธรรมก็ไม่เข้าใจความหมาย อีกทั้งยังขาดศรัทธาไร้ความเพียร

ขอขอบคุณ http://bombik.com/

อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

poto01

สวัสดีครับเพื่อนๆพี่ๆทุกคน วันนี้เราทีมงาน จะพาทุกคนเดินทางสู่ดินแดนบูรพาจารย์ภาคอีสานกันนะครับ ในครั้งนี้เมืองไทยดอทคอม ได้มีโอกาสเดินทางไปยัง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อแวะนมัสการองค์สมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังโฆษิตารามองค์ที่ถือว่าใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ โดยคุณสรพงษ์ ชาตรี สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาต่อองค์ท่าน ณ อุทยานลานบุญมหาวิหาร โดยจัดสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลกเสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2543 ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ เขตอำเภอสีคิ้ว บนที่ดินประมาณ 150 ไร่ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 45 กิโลเมตร

ภาพบรรยากาศที่เพื่อนๆได้เห็นนี้ ก็เป็นภาพวิหารขององค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ซึ่งภายในมีรูปหล่อขององค์สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) องค์ใหญ่ที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ภายใน ซึ่งมีหน้าตัก กว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว สูง 13 เมตร หนัก 61 ตัน ค่าก่อสร้าง 9 ล้านบาทเศษ และได้จัดสร้างมหาวิหารเป็นแบบกุฎาคาร (เรือนยอดเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป) ขึ้นถวายอีกทั้งยังจัดภูมิทัศน์ส่วนต่างๆตามความเหมาะสม อาทิ สระน้ำ สวนหิน มีโรงทานที่จัดบริการด้านของอาหารและห้องน้ำห้องสุขาฟรี เพื่อบริการลูกหลานหลวงปู่ที่มานมัสการและเมนูพิเศษที่ใครๆไปโรงทานของทางมูลนิธิหลวงปู่โต ต้องสั่งมารับประทาน คือ ราดหน้า ซึ่งอร่อยมากๆครับ

ขอขอบคุณ http://www.muangthai.com/

อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

1321710655

อุทยานแห่งนี้ หรือ ที่หลายๆคนเรียกชื่อที่นี่ว่า วัดสรพงษ์ จนติดปาก
กัน ก็เพราะ คุณสรพงษ์ ชาตรี ได้สร้างขึ้นด้วยความศรัทธาต่อองค์ท่าน
โดยจัดสร้างรูปหล่อเหมือนองค์จริงของท่าน ให้องค์ใหญ่ที่สุดในโลก
เสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2543

มหาวิหารประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี)

● สถานที่ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา
ห่างอำเภอสี่คิ้ว มาประมาณ ๒ กิโลเมตร หรือ ก่อนถึงโคราช
ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร

● อุทยานแห่งนี้ ประกอบด้วย สิ่งก่อสร้างที่ใกล้แล้วเสร็จ
อยู่ ๓ หลัง คือ…..

๑. มหาวิหารเป็นแบบกุฎาคาร (เรือนยอดเจดีย์) ให้เป็นที่
ประดิษฐานรูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังษี) แห่ง
วัดระฆังโฆษิตาราม

Read more »

ประวัติมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์

คุณสรพงศ์ ชาตรี เป็นพุทธมามกะ ผู้ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง ดำรงตนอยู่ในทาน ศีล ภาวนา ซึ่งได้ปฎิบัติธรรมกับพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่ ซึ่งพระอาจารย์ได้แนะนำคุณสรพงศ์ ชาตรี ให้ไปอธิษฐานจิตขอพรบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ แล้วการงานทุกอย่างที่กังวลอยู่จะสำเร็จดังประสงค์ทุกประการ เพราะหลวงปู่โต มีลูกหลานเป็นเทพบุตรเทพธิดา จะได้พากันมากราบไหว้บูชาสักการะและช่วยให้งานนั้นๆ สำเร็จดังปรารถนา

คุณสรพงศ์ ชาตรีจึงได้ไปอธิษฐานจิต ขอบารมีตามที่พระอาจารย์แนะนำ พร้อมทั้งจะจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ จึงไปปรึกษาหลวงพ่อพระครูปลัดนุตร์ รัตนวิชโย ซึ่งปฎิบัติธรรมอยู่ที่วัดปักแม่ลาย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งท่านแนะนำให้จัดสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก จึงคิดถึงพิธีการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่โต โดยศึกษาประวัติคุณความดีที่ปรากฏเป็นประวัติศาสตร์ 3 ส่วน 3 สถาน คือ ดีปฐม ดีมัธยม และ ดีอุดมๆ ได้แก่ ดีส่วนยอด อันหมายถึง การบริหารจัดการส่วนบุคคล และส่วนรวมอย่างยอดเยี่ยม จึงจัดพิธีเททองหล่อส่วนศรีษะที่วัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ต่อมาดีส่วนมัธยม หมายถึงการศึกษาสัพพวิทยาอันเป็นไปในส่วนปริยัติ

ปฎิบัติที่แจ้งชัด จึงได้ประกอบพิธีเททองหล่อส่วนองค์หลวงปู่ที่วัดบางขุนพรหม และดีส่วนปฐม หมายถึงดีเริ่มแรก คือมีปุพเพกตบุญญตาที่บริบูรณ์พร้อมทั้งผู้ให้กำเนิดและวงศาคณาญาติ ซึ่งทำให้สำเร็จประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ จึงประกอบพิธีเททองหล่อส่วนเท้าตั้งแต่สะเอวลงมา ที่วัดเกตุไชยโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง รวม 3 ส่วน 127 ชิ้น แล้วนำส่วนนั้นๆ มาประกอบเป็นองค์หลวงปู่ เสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2543

Read more »

มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมสี)

มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ มูลนิธิหลวงพ่อโต หรือ วัดที่คุณสรพงศ์ ชาตรี สร้าง แต่คุณสรพงษ์ บอกว่าไม่ใช่วัด เป็นมูลนิธิ แต่บุคคลทั่วไปจะเรียกกันแบบเข้าใจง่ายๆว่า วัดหลวงพ่อโต อำเภอสีคิ้ว ซึ่งที่นี่เดิมคือ วัดโนนกุ่ม ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ(ทางหลวง หมายเลข 2 )อำเภอสีคิ้ว ห่างจากตัวเมืองนครราชสีมา ประมาณ 42 กิโลเมตร หากเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ไปนครราชสีมาจะผ่าน และเห็นได้อย่างชัดเจนเพราะ สะดุดตาในความสวยงามของอาคารที่ก่อสร้างและการตกแต่งสถานที่โดยรอบ ตั้งแต่สวนหย่อมไม้ตะข่อยดัดในเกาะกลางถนนมิตรภาพตรงกับบริเวณมูลนิธิฯเลยทีเดียว

ที่มูลนิธิหลวงพ่อโต อ.สี่คิ้ว จ.นครราชสีมา เป็นที่ ประดิษฐานรูปหล่อทองเหลืองรมดำ หลวงพ่อโต (สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี) ที่มีขนาดใหญ่มาก โดยผู้ที่ก่อตั้ง คือ คุณสรพงษ์ ชาตรี ดาราภาพยนตร์ชื่อดังในประเทศไทย ผู้ที่มาที่นี่นอกจากจะได้สักการะ ขอพรจาก หลวงพ่อโต แล้ว ยังได้สัมผัสกับสิ่งก่อสร้างที่งดงามและสวนหย่อมที่ตกแต่งไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เขียวขจีสบายตา นอกจากนั้นที่นี่ยังมีโรงอาหารหรือโรงทานให้รับประทานโดยเฉพาะลาดหน้า และจะบริจาคเงินเพื่อชำระหนี้สงฆ์ก็ได้ ตามกำลังศรัทธา

ขอขอบคุณ http://pr.prd.go.th

มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา

มหาวิหารองค์หลวงพ่อโต-37มหาวิหารองค์หลวงพ่อโต-36

” ลูกเอ๋ย ก่อนจะเที่ยวไปขอบารมีหลวงพ่อองค์ใด เจ้าจะต้องมีทุนของตัวเอง คือบารมีของตนลงทุนไปก่อน เมื่อบารมีของเจ้าไม่พอ จึงค่อยยืมบารมีคนอื่นมาช่วย มิฉะนั้นเจ้าจะเอาตัวไม่รอด เพราะนี้สินในบุญบารมี ที่เที่ยวไปขอยืมมาจนพ้นตัว เมื่อทำบุญทำกุศลได้บารมีมา ก็ต้องเอาไปผ่อนใช้หนี้เขาจนหมด ไม่มีอะไรเหลือติดตัว แล้วเจ้าจะมีอะไรไว้ในภพหน้า หมั่นสร้างบารมีไว้ แล้วฟ้าดินจะช่วยเจ้า
จงจำไว้นะ เมื่อยังไม่ถึงเวลา เทพเจ้าองค์ใดจะคิดช่วยเจ้าไม่ได้ ครั้นเมื่อถึงเวลา ทั่วฟ้าจบดินก็ต้านเจ้าไม่อยู่ จงอย่าไปเร่งเทวดาฟ้าดิน เมื่อบุญเราไม่เคยสร้างไว้เลย จะมีใครที่ไหนมาช่วยเจ้า ”

เป็นคำเทศนาของหลวงพ่อโตที่ให้ไว้ในนิมิตหลังจากที่ท่านล่วงลับไปแล้วร้อยกว่าปี เชื่อว่าหลาย ๆ ท่านคงเคยได้ยินคำเทศนานี้ จึงเป็นที่มาของการทำความดี ควรทำอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ

“วัดหลวงพ่อโต” หรือที่มักจะเรียกกันว่า “วัดสรพงษ์” ที่แห่งนี่ไม่มีพระจำพรรษา เนื่องจากไม่ใช่วัด แต่เป็น “มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตา บารมี” โดยมีคุณสรพงษ์ ชาตรี และคุณดวงเดือน จิไธสงค์ เป็นประธานก่อสร้าง ด้วยมุ่งหวังให้ผู้ที่เคารพศรัทธาได้มีโอกาสกราบนมัสการ “รูปหล่อสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)”ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อีกทั้งยังเป็นมูลนิธิเพื่อช่วยเหลือบุคคลผู้ด้อยโอกาสด้วย

Read more »

อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)

27

ถ้าเอ่ยชื่อ อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) คงมีน้อยคนนักที่จะรู้จัก แต่ถ้าบอกว่า “วัดสรพงษ์” หลาย ๆ คนคงร้อง “อ๋อ” กันเลยทีเดียว

วัดสรพงษ์ หรือ อุทยานมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) นี่ตั้งอยู่ที่อำเภอสี่คิ้ว จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งถือได้ว่าเป็นประตูสู่อีสานกันเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้มิใช่วัด และไม่มีพระจำพรรษาอยู่ แต่ถูกสร้างขึ้นด้วยความศรัทธาต่อ พระพุฒาจารย์ โต ของพระเอกตลอดกาล สรพงษ์ ชาตรี

เริ่มทำการก่อสร้างมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการบำเพ็ญประโยชน์ ช่วยเหลือสังคม และเป็นมูลนิธิเพื่อส่งเสริมการเรียนการสอนของเด็กด้อยโอกาส

นอกจากนี้คุณสรพงษ์ ชาตรี ได้เป็นผู้สร้างรูปจำลองของพระพุฒาจารย์โต พรมหารังสีขนาดใหญ่ หล่อด้วยทองเหลืองจำนวน 61 ตัน มีความสูงกว่าตึก 2 ชั้น ในการก่อสร้างต้องทำการหล่อแยกชิ้นส่วนกันถึง 127 ส่วนและนำมาประกอบกันเป็นองค์พระพุฒาจารย์โต องค์ใหญ่

โดยประดิษฐานไว้ในวิหารกลางมูลนิธิท่ามกลางสวนสวยที่ตั้งอยู่รายรอบตัววิหาร เพื่อสร้างความร่มรื่น และความแช่มชื่นหัวใจให้แก่ผู้ที่ผ่านมาพบเห็นหรือผู้ที่ต้องการมาสักการะบูชา

นอกจากนี้ยังสร้างโรงทานไว้บริการผู้ที่ผ่านไปมาและมาบำเพ็ญกุศล โดยอาหารในโรงทานแห่งนี้ถือเป็นอาหารขึ้นชื่อที่ผู้ที่เข้ามาในอุทยานฯ จะพลาดไม่ได้ที่จะมาแวะชิม “ราดหน้าชาววัง” ที่มีรสชาดที่ผู้ได้ผ่านมาชิมจะลืมไม่ลงเลยทีเดียว

ขอขอบคุณ http://www.oknation.net/

 

วัดถ้ำไตรรัตน์ (ถ้ำแก้วสารพัดนึก)

t3

วัดถ้ำไตรรัตน์ ตั้งอยู่ที่ บริเวณ กม.ที่ 161 ต.หนองน้ำแดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ภายในวัดมีถ้ำศักดิ์สิทธิ์เรียกว่า “ถ้ำแก้วสารพัดนึก” ถ้ำแก้วสารพัดนึก ถูกค้นพบเมื่อ วันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2513 โดย พระเทพสุทธาจารย์ (โชติ คุณสัมปันโน) ในอดีตเป็นสานที่พำนักของเกจิอาจารย์หลายท่านได้แก่ หลวงปู่ดุล อตุโล, หลวงปู่โชติ, คุณสัมปันโน, หลวงพ่อเพิ่ม บารมี ปัจจุบันมูลนิธิลุประสงค์ ร่วมกับวัดถ้ำไตรรัตน์ ได้พัฒนาถ้ำนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ภายในถ้ำประดิษฐานพระเจดีย์ทองคำ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูป หลวงพ่อแก้วสารพัดนึก ความงามของปาหินงอกหินย้อยภายในถ้ำ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปางต่างๆ นอกจากนี้ยังมีโครงกระดูกฤษี ซึ่งมีอายุกว่า 4,000ปี พิพิธภัณฑ์หินและโรงภาพยนตร์ถ้ำเป็นโรงภาพยนตร์ธรรม และเป็นที่รวบรวมหินต่างๆ

ขอขอhttp://nongnumdang.go.th/

วัดถ้ำไตรรัตน์

20111120_3_1321778425_496602

ถ้ำแก้วสารพัดนึก หรือ วัดถ้ำไตรรัตน์ ตั้งอยู่ที่ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีท่านเจ้าอาวาสที่เคารพนับถือ “หลวงพ่อเพิ่ม” ได้ใช้ถ้ำนี้เป็นที่ปฎิบัติธรรม และต่อมาได้พัฒนาถ้ำนี้ให้เป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมถ้ำเป็นจำนวนมาก อดีตภายในถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ถ้ำและโครงกระดูกฤาษีโบราณ 4000 ปี ภายในถ้ำมีถ้ำเพชร ถ้ำฤาษี ถ้ำพญานาค ถ้ำพญาจงอาง ถ้ำค้างคาว และโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ภายในถ้ำแห่งเดียวในโลก

ถ้าพูดถึงเมืองปากช่อง โคราชแล้วล่ะก็ทุกคนก็คงจันึกถึงอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่หรือไม่ก็ฟาร์มโชคชัย แต่วันนี้ผมมีทริปดีๆอีกทริปมาเล่าสู่กันฟังครับ “ถ้ำแก้วสารพัดนึก หรือวัดถ้ำไตรรัตน์” ถ้ำนี้มีประวัติความเป็นมาประมาณว่าเป็นที่อาศัยของมนุษย์ถ้ำหรือบรรพบุรุษ ของเราในอดีต และยังมีโครงกระดูกฤาษีโบราณ 4000 ปี ภายในถ้ำฟังแล้วขนลุกครับเพราะก่อนเข้าไปเค้าบอกว่าใช้เวลาเยี่ยมชม ประมาณ1ชม.นานเหมือนกันจะโดนผีหลอกรึปล่าวเนี่ย..แต่พอเข้าไปในถ้ำเห็นหิน งอกหินย้อยเต็มไปหมดไม่น่าเชื่อครับว่าธรรมชาติเป็นผู้สร้างหินเหล่านี้ขึ้น มาสวยงามเอามากๆและเราก็ไม่ได้เดินเล่นมั่วๆไปแต่ไกด์ตัวเล็ก ๆ พาเราเดินชมพร้อมกับอธิบายถึงถ้ำที่มีอยู่หลายถ้ำเด็กที่นี่ที่มาเป็นไกด์ เป็นเด็กท้องถิ่นที่นี่ครับเก่งมากๆเลย น้องเค้าบอกว่าที่นี่มีถ้ำเพชร ถ้ำฤาษี ถ้ำพญานาค ถ้ำพญาจงอาง ถ้ำค้างคาว แต่ละถ้ำก็มีจุดเด่นที่น่าสนใจต่างกันออกไปเช่นถ้ำเพชรจะมีหินงอกและเกล็ด ติดตามหินเหมือนเพชรส่องแสงแวววาวไกด์ตัวเล็กบอกว่าสามารถเอามือไปลูบแล้ว เอาเกล็ดที่หลุดติดมือมากลับไปได้จะมีโชคลาภ..เท่านั้นแหละถูกันใหญ่(ตาม ประสาคนไทย)และอีกถ้ำ ถ้ำฤาษีก็จะโครงกระดูกพระฤาษี 4000 ปี ไกด์เด็กแนะนำให้ ท่องนะโม 3จบแล้วอธิษฐานขอพร ได้ 3 ประการแล้วคำอธิฐานจะสมปราถนาทุกประการ ที่เหลือมาเที่ยวชมกันเองนะครับอธิบายคงเป็นวันแน่ๆ Read more »

ถ้ำไตรรัตน์

pic1200707144609

ถ้ำที่ผมจะพาเพื่อนๆ ไปเที่ยวในวันนี้อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ไกล นั่งรถเพียงชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงตัวเมืองปากช่องระหว่าง กม.ที่ 161 เลยฟาร์มโชคชัยเพียง 1 กม. เลยไปหน่อยก็จะเจอจุดกลับรถที่ 2 เพื่อวกเข้าสู่วัดถ้ำไตรรัตน์ วัดที่มี “ถ้ำแก้วสารพัดนึก” ซึ่งเป็นถ้ำที่มนุษย์วานรสมัยโบราณใช้อาศัยอยู่จริง และเป็นที่ที่เราจะเที่ยวชมกันครับ

จ่ายเงินค่าเข้าชม คนละ 40 บาทสำหรับผู้ใหญ่ส่วนเด็กก็ 20 ลดลั่นตามขนาดลงไปครับ ส่วนผมแม้จะเข้าขั้นผู้ใหญ่แล้วก็ยังควักแบงก์ 20 จ่ายเพียงใบเดียวสาเหตุเพราะมองยังไงๆ หน้าก็บ่งบอกว่าเด็กอยู่วันยังค่ำ ไม่ต้องเสียดายกับเงินเพียงเล็กน้อยเพราะภายในอุโมงค์ทางเข้ามืดตื๋อนั้นเพื่อนๆ จะพบกับความสวยงาม ความรู้ ความพิศวงถึง 5 โซนด้วยกัน โดยผ่านประสาทสัมผัสทางตา และเสียงจากไกด์ผู้บรรยายอายุน้อยๆ เรียกว่าคุ้มจนขาลากเลยทีเดียว แต่ครั้งนี้เพื่อจุดประกายความรู้ให้แตกฉาน ผมขอเลือกไกด์เป็นผู้ใหญ่มาบรรยายให้เพื่อนๆ ดีกว่าครับ (มีไกด์เด็กและผู้ใหญ่ หากเลือกบริการไกด์รุ่นเยาว์เพื่อนๆ จะได้รับการแนะนำแต่ละจุดเพียงคร่าวๆ แต่ไกด์อาวุโสจะช่วยให้เรารู้เรื่องจนแตกฉายเลยทีเดียว เลือกเอาครับว่าต้องการท่องเที่ยวแบบสดใส หรือแบบหนักแน่น)

เดินเข้ามาโซนแรกเป็นห้องโถงกว้างตรงกลางมีพระพุทธรูปสีทองสององค์วางตระง่านงามตาเมื่อต้องแสงสีเหลืองจากหลอดไฟ ทำให้รัศมีเจิดจรัสยิ่งนัก ระหว่างกลางของพระพุทธรูปอายุหลายร้อยปีทั้งคู่ มีหินงอกที่นับว่าแปลกเพราะมันงอกจากพื้นขึ้นสู่เบื้องบนเป็นเวลากว่า 60 ปี มิหนำซ้ำยิ่งงอก รูปร่างหน้าตามันก็มีเค้าเหมือนคนยิ่งขึ้น นับเป็นสิ่งอัศจรรย์อันดับแรกที่ได้พบเป็นเหมือนการกระตุ้นต่อมในสมองให้เบ่งบาน

Read more »

ถ้ำแก้วสารพัดนึก(ถ้ำไตรรัตน์) อาศรมกระดูกฤาษีพันปี

SAMSUNG ELECTRONICS

ถ้ำแก้วสารพัดนึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ถ.นครราชสีมา-กทม ซ้ายมือ
อยู่ก่อนถึงฟาร์มโชคชัย 1 กม. เป็นถ้ำที่มีความสวยงาม แบ่งเป็นหลายห้อง
เป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ถ้ำและโครงกระดูกฤาษีโบราณ 4000 ปี ภายในถ้ำ
มีถ้ำเพชร ถ้ำฤาษี ถ้ำพญานาค ถ้ำพญาจงอาง ถ้ำค้างคาว และโรงภาพยนตร์
ที่ตั้งอยู่ภายในถ้ำแห่งเดียวในโลก ก่อนจะเข้าไปชมภายในถ้ำ ซื้อบัตรเข้าชม
คนละ 30 บาท ใช้เวลาเข้าชมประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง จะมีไกด์เยาวชนเด็กๆ
หรือไกด์ผู้ใหญ่ นำทางพร้อมบอกเล่าข้อมูลความเป็นมาตำนานเรื่องราวต่างๆ
พอเริ่มก้าวย่างเข้าสู่ภายในถ้ำก็รู้สึกถึงความเย็นชื้น และตำนานความลึกลับ
ที่ชวนให้อยากรู้อยากเห็นกราบพระพุทธรูปเพื่อเป็นสิริมงคลคุ้มครองปลอดภัย

ถ้ำปลาทอง เป็นหินงอกที่ย้อยลงมาลักษณะคล้ายปลาทอง มีสีสรรสวยงาม
มีตาปลาด้วย สีที่สวยงามนี้ไม่ใช่สิ่งมหัศจรรย์ เป็นฝีมือของนักเรียนช่างศิลป์
ที่ขออนุญาติแต่งเติมสีสรร ให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น..(ดีหรือไม่ นา..อืมม.?)

Read more »

ถ้ำแก้วสารพัดนึก(ถ้ำไตรรัตน์)

เมื่อเข้ามาถึงที่วัดแล้ว ได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อชำระค่าเข้าชมถ้ำคนละ 50บาท ค่าไกด์
นำเที่ยว 30 บาท ซึ่งเป็นไกด์เด็กชาวบ้านในชุมชนที่มาหารายได้พิเศษ ไอเย็นจากในถ้ำแผ่
ออก มาถึงข้างนอก เชื้อเชิญให้อยากรีบเข้าไปข้างในเร็วๆ ภายในถ้ำใหญ่โตแห่งนี้แบ่ง
ย่อยเป็น 3ถ้ำ คือ ถ้ำพระพุทธรังสี ถ้ำธรรมรังษี และถ้ำสังฆรังสี (นี่เองเป็นที่มาของชื่อ
วัดถ้ำไตรรัตน์)

เดินเข้ามาโซนแรกจะเป็น ถ้ำสังฆรังสีหรือถ้ำแก้วสารพัดนึก เป็นห้องโถงกว้าง เมื่อขึ้น
บันไดไปก็จะพบกับนางตะเคียนแกะจากไม้คอยต้อนรับอยู่ซ้ายและขวา ต่อมาพบกับ
พระพุทธรูปศิลาแลงเก่าแก่ประดิษฐานคู่กับพระเจดีย์ทองคำบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ
ที่อัญเชิญมาจากอินเดียและศรีลังกา ไกด์เด็กก็บอกให้เราอธิษฐานขอพรได้ 3ข้อ แล้ว
วนลงบันไดอีกทางหนึ่ง

ถัดไปทางซ้ายมือ เดินลงไปไม่กี่ก้าวก็ถึง ถ้ำเพชร ทางลงเป็นซอกหินแคบๆ ลาดชันลด
หลั่นลงมา ไกด์จะส่องไฟฉายไปที่ผนังถ้ำให้เห็นหินงอกหินย้อยเป็นเกล็ดเพชรแต่ไม่ใช่
เพชร ไกด์บอกให้เราลูบเกร็ดเพชรใส่ลงในกระเป๋าถือได้ เชื่อว่าจะทำให้มีทรัพย์สมบัติ
มากมาย
Read more »

“ถ้ำแก้วสารพัดนึก” ถ้ำงามแดนอีสาน

Image

แก้วสารพัดนึก(หากมีจริง) อาจสามารถเนรมิตสิ่งที่เราขอสิ่งที่เราต้องการได้ แต่สำหรับ ตะวันออกเฉียงเหนือ “ถ้ำแก้วสารพัดนึก” (MAGIC CAVE LAND)ที่ ปากช่อง โคราชนั้น แม้ไม่สามารถขอสิ่งที่หวังได้ แต่สามารถเที่ยวชมความงามได้อย่างเพลิดเพลิน

ถ้ำแก้วสารพัดนึก ถูกค้นพบเมื่อ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2513 โดยพระเทพสุทธาจารย์(โชติ คุณสัมปันโน)ในอดีตเคยเป็นสถานที่พำนักของเกจิอาจารย์หลายท่าน ได้แก่ หลวงปู่ดูลย์ อตุโล, หลวงปู่โชติ คุณสัมปันโน, หลวงพ่อเพิ่ม บารมี เป็นต้น ปัจจุบัน มูลนิธิลุประสงค์ ร่วมกับวัดถ้ำไตรรัตน์ ได้พัฒนาถ้ำแห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ถ้ำแก้วสารพัดนึก แบ่งออกเป็น 5 โซนด้วยกัน

โซน 1 : “ถ้ำแก้วสารพัดนึก” ปากทางเข้าของถ้ำ เป็นประดิษฐ์สถานของพระเจดีย์ทองคำ ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระพุทธรูปหลวงพ่อแก้วสารพัดนึก รวมถึงถ้ำเพชรและผาแผน ที่มีหินงอกหินย้อยอันสวยงาม เรียกชื่อตามลักษณะและจินตนาการ อาทิ เพชรน้ำค้าง เพชรกุหลาบ เพชรแมงกะพรุนไฟยักษ์ เป็นต้น ในโซนที่ 1 ยังมี “บ่อมังกรบิน” ที่เป็นหินดูคล้ายมังกรบินตัวใหญ่ และภาพวาดบนหินรูปปลาทองอีกด้วย

Read more »

วัดถ้ำไตรรัตน์

ตั้งอยู่ที่วัดถ้ำไตรรัตน์ ถนนมิตรภาพ กิโลเมตรที่ 161 (ห่างจากฟาร์มโชคชัย 1 กิโลเมตร ตำบลหนองน้ำแดง อำเภอปากช่อง ถ้ำแห่งนี้ถือว่าเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์และในอดีตเคยเป็นสถานที่พำนักของเกจิอาจารย์หลายท่าน อาทิเช่น หลวงปู่ดูลย์ อตุโล , หลวงปู่โชติ คุณสัมปันโน , หลวงพ่อเพิ่ม บารมี โรงการพัฒนาและปรับปรุงถ้ำโดย มูลนิธิลุประสงค์ ร่วมกับ วัดถ้ำไตรรัตน์ได้พัฒนาถ้ำเป็นแหล่งท่องเที่ยวนี้ ได้แบ่งโซนต่างๆ ในถ้ำ ออกเป็น 5 โซนใหญ่ๆ ดังนี้
โซนที่ 1 ซึ่งเป็นทางเข้าถ้ำ เรียกว่า “ถ้ำแก้วสารพัดนึก”
โซนที่ 2 “ถ้ำพระพุทธ”
โซนที่ 3 “โครงกระดูกพระฤาษี”
โซนที่ 4 “ประตูมังกร”
โซนที่ 5. “พิพิธภัณฑ์หินและโรงภาพยนตร์ถ้ำ”
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.00 – 19.00 น. ค่าเข้าชมถ้ำ 50 – 80 บาท /คน เพื่อเป็นค่าบำรุงและสาธารณูปโภค , ค่ายุวมัคคุเทศก์ 30 บาท / 1 กลุ่ม หากมาเป็นหมู่คณะกรุณาติดต่อล่วงหน้าโทร. 08 9445 6896, 08 1649 0824, 08 3369 5109

ขอขอบคุณ http://thai.tourismthailand.org/

ถ้ำแก้วสารพัดนึก(วัดถ้ำไตรรัตน์)

20111120_3_1321778424_456064

ถ้ำแก้วสารพัดนึก หรือ วัดถ้ำไตรรัตน์ ตั้งอยู่ที่ตำบลพญาเย็น อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา มีท่านเจ้าอาวาสที่เคารพนับถือ “หลวงพ่อเพิ่ม” ได้ใช้ถ้ำนี้เป็นที่ปฎิบัติธรรม และต่อมาได้พัฒนาถ้ำนี้ให้เป็นแหล่งสถานที่ท่องเที่ยว ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปเที่ยวชมถ้ำเป็นจำนวนมาก อดีตภายในถ้ำเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ถ้ำและโครงกระดูกฤาษีโบราณ 4000 ปี ภายในถ้ำมีถ้ำเพชร ถ้ำฤาษี ถ้ำพญานาค ถ้ำพญาจงอาง ถ้ำค้างคาว และโรงภาพยนตร์ที่ตั้งอยู่ภายในถ้ำแห่งเดียวในโลก

ขอขอบคุณ http://www.painaidii.com/

. . . . . . .
. . . . . . .