วัดไชยศรี ความงดงาม ตำนานคู่ชาวอีสาน

แหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีและวัดวาอารามประจำท้องถิ่นต่างๆ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักเดินทางบางกลุ่มชอบที่จะเข้าไปสัมผัส วันนี้ พาเดินทางกันไปยังถิ่นอีสาน เพื่อทำความรู้จักกับ สิม ที่ภาษาอีสานโบราณ แปลว่า โบสถ์ มาจากคำว่า สีมา หมายถึง เขตที่พระสงฆ์ใช้ประชุมทำสังฆกรรมบรรพชาและอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์ ที่ สิม วัดไชยศรี จ.ขอนแก่น

สิม วัดไชยศรี ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 8 บ้านสาวะถี ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ห่างจากตัวเมืองขอนแก่นประมาณ 22 กิโลเมตร เป็นสิมเก่าแก่ที่มีอายุกว่า 100 ปี โดยสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2408 เดิมเป็นอาคารแบบสิมอีสานโบราณ ภายหลังได้ซ่อมเสริมผนังให้สูงขึ้นและทำหลังคาทรงไทยมี ฮูปแต้ม(จิตรกรรมฝาผนัง) เขียนทั้งผนังด้านในและด้านนอกสี่ด้านผนังด้านในเขียนภาพอดีตพระพุทธเจ้า เรื่องเวสสันดรชาดก ซึ่งด้านในห้ามสุภาพสตรีเข้า ผนังด้านนอกเขียนภาพนรกเจ็ดขุมเรื่องสินไซ ซึ่งฮูปแต้มทั้งหมดยังคงความสวยงามมาจนถึงปัจจุบัน ถึงแม้จมีบางส่วนเลือนหายไปตามกาลเวลาแต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นฮูปแต้มที่มีความชัดเจนเป็นอย่างมาก

จุดเด่นของ ฮูปแต้ม วัดไชยศรี คือจะมีการเขียนภาพเต็มผนังไม่เหลือที่ว่าง สะดุดตาด้วยภาพคนที่มีขนาดทั้งใหญ่และเล็กต่างกันกระจายอยู่ทั่วซึ่งส่วนใหญ่จะมีร่างกายไม่สมสัดส่วน เกือบทุกภาพแสดงท่าทางเคลื่อนไหวโลดโผน มีการจัดองค์ประกอบของภาพทั่วบริเวณสิมอย่างเป็นสัดส่วนจนออกมาสวยงามแปลกตา สอบถามผู้รู้ได้ความว่าเป็นฝีมือการวาดของ นายทอง ทิพย์ชา ช่างพื้นบ้านชาวมหาสารคาม และเพื่อให้ฮูปแต้มแห่งนี้คงความสวยงามให้คนรุ่นหลังได้เชยชม ทางกรมศิลปากรได้เข้ามาต่อเติมปีกด้านข้างของโบสถ์ให้เพื่อไว้บังแดด บังฝน สิม วัดไชยศรี นับเป็นโบราณสถานสำคัญแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ควรอนุรักษ์ให้ เยาวชน นักเรียน นักศึกษา และผู้ที่สนใจ ได้เข้ามาชมกันมากๆ

โดยฮูปแต้มด้านนอกที่เล่าเรื่อง นรกเจ็ดขุมเรื่องสินไซ มีความเป็นมาที่น่าสนใจและสามารถเล่าต่อให้ผู้เข้าเยี่ยมชมรับฟังเพื่อความเพลิดเพลินได้คือ ต้นกำเนิดของนิทานสินไซ หรือสังข์สินชัย เป็นวรรณกรรมที่เขียนขึ้นโดยปราชญ์แห่งอาณาจักรล้านช้างชื่อท้าวปางคำซึ่งมีข้อสันนิฐานบางตำนานว่าเป็นเจ้าอยู่เมืองหนองบัวลำภู ครั้งหนึ่งได้เดินทางไปคล้องช้างแถบจำปาศักดิ์ และได้พบกับนางเภาลูกสาวเจ้าเมืองจำปาศักดิ์ ทั้งสองได้เกิดชอบพอรักใคร่จึงลักลอบได้เสียกัน แต่ต่อมาเจ้าปางคำได้เดินทางกลับถิ่นฐาน นางเภาโกรธแค้น จึงสาปแช่งหากหญิงใดลักลอบสมสู่กับชายแล้วท้องโดยไม่มีพ่อให้หญิงนั้นตั้งเครื่องเซ่นสรวงพลีกรรมสังเวยไม่เช่นนั้นบ้านเมืองจะแห้งแล้ง ท้าวปางคำเมื่อกลับมาจากจำปาศักดิ์แล้วจึงได้เขียนวรรณกรรมเรื่องสินไซ หรือ สังข์ศิลป์ชัยขึ้น

นักท่องเที่ยวหลายคนอาจสงสัยว่าถึงแม้เวลาจะผ่านมานานแสนนานแต่ทำสิม วัดไชยศรี ยังคงความสมบูรณ์ไว้ได้ สาเหตุมาจากเมื่อมีการชำรุดทรุดโทรมก็จะมีการซ่อมแซมตามประสาพื้นบ้านมาโดยตลอด จนวันหนึ่งเมื่อถึงคราวทรุดโทรมอย่างหนัก กรมศิลปากรจึงเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมให้เหมือนจริงแต่ดั้งเดิมมากที่สุด เว้นแต่รูปทรงหลังคาสิมที่เปลี่ยนไป พระพุทธรูปองค์ประธานยังเป็นองค์เดิม ที่สวยงามด้วยศิลปะพื้นบ้านอีสาน เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านท้องถิ่นมากว่า 100 ปี ซึ่งที่ภาคอีสานไม่ได้มีเพียงสิม วัดไชยศรีเท่านั้นที่ยังคงความงดงามโดดเด่น แต่ยังมีอีกหลายสิมที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ เช่น สิมวัดมัชฌิมวิทยาราม สิมวัดสนวนวารีพัฒนาราม อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น สิมวัดสระทอง อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น เป็นต้น

ขอขอบคุณ http://www.dailynews.co.th/

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .