การก่อสร้างครั้งปรับปรุงวัดไตรมิตร

wtraimit06

หลังการก่อสร้างกุฏิสงฆ์ ในครั้งนั้นได้วางผังการก่อสร้างให้กุฏิอยู่เป็นแถวเป็นแนว ไม่สับสน ปนเป ให้มีจำนวนห้องที่อยู่อาศัยพอทั้งพระภิกษุสามเณรและศิษย์วัด ตลอดกระทั่งให้มีห้องน้ำห้องส้วมพร้อม และได้วางกุฏิให้เพียงพอต่อพระภิกษุประมาณ ๗๐ – ๘๐ รูปเท่านั้น ฉะนั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๘๐ จึงได้สร้างกุฏิคอนกรีตเสริมเหล็ก ๒ ชั้น จำนวน ๑๔ หลัง ขึ้นแทนกุฏิที่ได้ทำการรื้อถอนไปนั้น ศาลาการเปรียญของวัดเป็นศาลาไม้มีสภาพที่ชำรุดทรุดโทรมลงอย่างมาก จวนจะพังมิพังแหล่ คณะกรรมการได้จัดการรื้อถอนแล้วได้สร้างศาลาการเปรียญเป็นศาลาคอนกรีต ๒ ชั้น ขึ้นแทนของเก่า ศาลารายที่ใช้เป็นโรงเรียนสอนบาลีและนักธรรมนั้น มีสภาพเก่าคร่ำคร่า ซวนเซ ก็ได้ทำการรื้อถอนออก แล้วสร้างเป็นตึกคอนกรีต ๒ ชั้นขึ้นแทน สำหรับใช้เป็นโรงเรียนพระปริยัติธรรมเพื่อเล่าเรียนบาลีและนักธรรม เตาเผาศพของเก่าได้รื้อออกแล้ว สร้างเตาเผาแบบทันสมัยขึ้น

การก่อสร้างโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย

โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยกับวัดไตรมิตรวิทยารามนั้น มีความสัมพันธ์อย่างแน่นแฟ้นกันมานาน กล่าวได้ว่าอดีตเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยาราม เป็นบุรพาจารย์ของโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย ด้วยโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัย มีกำเนิดขึ้นจากดำริของพระสมุห์กล่อม เจ้าอาวาสวัดสามจีนใต้รูปที่ ๒ ซึ่งต่อมาได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระครูสัญญาบัตรมีราชทินนามว่า พระครูวิริยานุกิจการี เป็นผู้จัดตั้ง ดังที่ได้ปรากฏในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ ๑๓ แผ่นที่ ๒๔ วันที่ ๑๓ กันยายน รัตนโกสินทร์ศก ๑๑๕ หน้า ๒๒๕– ๒๒๖ ดังนี้

“ด้วยพระสมุห์กล่อม เจ้าอธิการวัดสามจีนใต้ผู้อุปการะ ได้รวบรวมกุลบุตรมาประชุมเล่าเรียนหนังสือไทยตั้งเป็นโรงเรียนขึ้น ให้พระพร้อมซึ่งสอบไล่ได้ประกาศนียบัตรประโยค ๒ พระสอนผู้สอบไล่ได้ประกาศนียบัตรประโยค ๑ เป็นอาจารย์สอน เปิดโรงเรียนสอนมาตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ร.ศ. ๑๑๕ (พ.ศ. ๒๕๓๐) มีนักเรียนมาเล่าเรียน ๓๔ คน และบอกรายงานมาลงทะเบียนในกรมศึกษาธิการ พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ากิตติยากรวรลักษณ์ อธิบดีกรมศึกษาธิการ มีรับสั่งให้กองไปตรวจ ได้ความตามบอกนั้น ทรงอนุญาตให้พระสมุห์กล่อมเป็นผู้อุปการะ ให้พระพร้อมและพระสอนเป็นอาจารย์ตามประสงค์แล้ว

ในชั้นต้นนี้กรมศึกษาธิการได้อุดหนุนแบบเรียนให้ ๑ จบ ตามธรรมเนียมโรงเรียนนี้นับว่าเป็นโรงเรียนมูลสามัญเชลยศักดิ์ ขึ้นในกรมศึกษาธิการอีกโรงเรียนหนึ่ง ด้วยอำนาจแห่งความอนุเคราะห์ของพระสมุห์กล่อม พระพร้อม และพระสอนนั้น ให้โรงเรียนนี้ จงตั้งอยู่สิ้นกาลนานเทอญ ฯ”

ต่อมาเมื่อ รองอำมาตย์ตรีสนิท เทวินทรภักติ ครูใหญ่โรงเรียนมัธยมวัดสามจีน ได้ปรึกษาตกลงกับท่านเจ้าอาวาสวัดสามจีนในครั้งนั้นว่า เห็นสมควรปรับปรุงสุขลักษณะบริเวณวัดและโรงเรียนในคราวเดียวกัน หลังจากที่ได้ทำการปรับปรุงพื้นที่เรียบร้อยแล้วจึงได้สร้างอาคารเรียนขึ้นเป็นอาคารตึก ๓ ชั้น เป็นตึกมีมุขยื่นและมีปีกตึกออกมาทางซ้ายของตัวอาคาร เป็นอาคารเรียนหลังแรกที่สร้างด้วยคอนกรีตสูงถึง ๓ สร้างด้วยเงินของวัด จำนวน ๑๕,๐๐๐ บาท และเงินงบประมาณของทางราชการอีก ๒,๕๐๐ บาท พร้อมตึกวิทยาศาสตร์อีกหนึ่งหลัง นับได้ว่าโรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยได้มีกำเนิดจากอดีตบุรพาจารย์ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดสามจีนใต้โดยแท้ และท่านเจ้าอาวาสวัดนี้รูปต่อ ๆ มาก็ได้ให้ความอุปถัมภ์แก่โรงเรียนไตรมิตรวิทยาลัยทุกรูป

ขอขอบคุณ http://www.wattraimitr-withayaram.com/

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .