วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร

ben1

เมื่อกล่าวถึงพระอุโบสถหินอ่อนสีขวบริสุทธิ์สวยงามแห่งเดียวในประเทศไทย คงทราบกันแน่นอนว่าพระอุโบสถแห่งนี้อยู่ในวัดเบญจมบพิตร เพราะเป็นวัดที่มีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั้งในหมู่ชาวไทยและชาวต่างประเทศ ถึงความงดงามทางด้านสถาปัตยกรรมของพระอุโบสถหินอ่อนนอกจากนี้ภายในวัดยังมีสิ่งสวยงาอีกมากมายที่ควรรู้จักอีกด้วย เรามาทราบประวัติความเป็นมาของวัดเบญจมบพิตร แต่เดิมเป็นเพียงวัดเล็ก ๆ มีชื่อว่า “ วัดแหลม ” หรืออีกชื่อหนึ่งว่า “ วัดไทรทอง ” ไม่มีหลักฐานปรากฏว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด วัดนี้ได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

เนื่องจากพระองค์ทรงสร้างพระราชวังดุสิตขึ้นในบริเวณวัดดุสิต และได้ตัดถนนผ่านวัดร้างอีกวัดหนึ่งซึ่งตามประเพณีต้องมีการสร้างวัดขึ้นทดแทนแต่การสร้างวัดใหม่ขึ้นนั้นยากต่อการดแลรักษาพระองค์จึงโปรดให้รวบรวมเงินมาบูรณะวัดเดิมจะดีกว่า วัดแลมเป็นวัดที่โปรดให้สถาปนาขึ้นใหม่และพระราชทานนามว่า “ วัดเบญจมบพิตร ”
หมายถึงวัดของพระเจ้าแผ่นดินรัชกาลที่ ๕ พร้อมกับทรงเพิ่มสร้อยนามว่า “ ดุสิตวนาราม ” เพื่อให้คล้องกับชื่อพระราชวังดุสิตที่สร้างขึ้น
ราบประวัติความเป็นมาของวัดแล้วคราวนี้เรามาเดินชมสถาปัตยกรรมที่สวยงามของวัดไปพร้อม ๆ กัน
พระอุโบสถ พระอุโบสถของวัดเบญจมบพิตรได้ชื่อว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามและสมบูรณ์แบบอย่างหาที่ติไม่ได้ตามลักษณะของศิลปะไทย ผู้ออกแบบการสร้างพระอุโบสถหลังนี้คือ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์ ตัวพระอุโบสถทั้งหลังสร้างด้วยหนอ่อนสีขาว ๔ ชั้น มีพระระเบียง ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ที่ออกแบบได้งดงามรับกันทุกชิ้น หลังคามุงด้วยกระเบื้องกาบูเคลือบสีเหลือง ภายในพระอุโบสถ บนเพดานประดับดาวกระจาย ๒๓๒ ดวง ดาวใหญ่ระย้า ๑๑ ดวง พระประธานคือ พระพุทะชินราชจำลอง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย จัดว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีลักษณะงดงามมากองค์หนึ่ง ซึ่งรัชกาลที่ ๕ โปรดให้จำลองมาจากพระพุทธชินราชองค์จริงที่จังหวัดพิษณุโลก

พระระเบียง มีลักษณะเป็นมุขกระสันสร้างต่อจากพระอุโบสถ พื้นระเบียงและเสากลมทำด้วย
หินอ่อน บนเพดานประดับดาวเช่นเดียวกับในพระอุโบสถ หน้าบันจำหลักลวดลายตรากระทรวงต่าง ๆ ใน
สมัยรัชกาลที่ ๕ รวม ๑๐กระทรวง ที่พระระเบียงนี้มีพระพุทธรูปปางและสมัยต่าง ๆ เรียงรายอยู่
โดยรอบรวมทั้งพระพุทธรูปปางลีลาสมัยสุโขทัย ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางลีลาที่ได้ชื่อว่างดงามมาก
ที่สุดในประเทศไทย พระที่นั่งทรงผนวช เป็นกุฏิหมู่ ๔ หลัง ๒ ชั้น ซึ่งรัชกาลที่ ๕ ทรงใช้เป็นที่ประทับ
เมื่อคราวเสด็จออกผนวช ภายในพระที่นั่งได้อัญเชิญพระแท่นบรรทมขณะทรงผนวช เครื่องลายคราม
พระบรมรูปปิดทอง และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ พระราชจริยาวัตร พระราชประวัติ
และขนบธรรมเนียมประเพณีในสมัยรัชกาลที่ ๕ ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
เพื่อให้ผู้ที่สนใจสามารถเข้าไปศึกษาหาความรู้ได้ พระวิหารสมเด็จ สมเด็จพระนางเจ้าสาวถาผ่องศรี
โปรดให้สร้างขึ้น เป็นตึก ๒ ชั้น หลังครจัตุรมุข ประตูหน้าต่างเขียนลายรดน้ำ
หลังคามุงกระเบื้องเคลือบสี ภายในใช้เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณปางและสมัยต่าง ๆ
และตู้พระธรรมลายรดน้ำอันงดงาม ปัจจุบันนี้เป็นส่วนหนึ่งของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสำหรับแสดง
พระพุทธรูปปางต่าง ๆ

ทุกคนคงรู้จักวัดเบญจมบพิตรกันดีแล้วใช่ไหม แต่ถ้าได้ไปเห็นความสวยงามของวัดด้วยตา
ของตนเองแล้วจะประทับใจกับความสวยงามของวัดไปอีกนานทีเดียว

ขอขอบคุณ http://utcc2.utcc.ac.th/

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .