วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม เขตดุสิต จ.กรุงเทพฯ

วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม กล่าวได้ว่าเป็นวัดที่มีความสวยงามมากที่สุดวัดหนึ่งของประเทศไทยเลยก็ว่าได้ และเป็นวัดประจำรัชกาลที่ 5 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงเป็นอีกหนึ่งวัดที่ทางทีมงานท่องเที่ยวดอทคอม (www.Thongteaw.com) ของเราไม่อาจมองข้ามไปได้ จึงได้เก็บรวบรวมภาพความประทับใจต่าง ๆ เพื่อมาเล่าต่อไป
วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม หรือ บางท่านเรียกสั้น ๆ ว่า วัดเบญฯ ได้ถูกสร้างขึ้นจากพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ที่เป็นเอกอัครศาสนูปถัมภก เพื่อให้เป็นการแสดงแบบอย่างของช่างฝีมือไทยโบราณ รวมถึงเป็นพิพิธภัณฑ์ที่รวบรวมพระพุทธรูปโบราณในสมัยต่าง ๆ กันมากมาย และเป็นที่พัฒนาการศึกษาของเหล่าภิกษุสงฆ์ เป็นต้น สิ่งที่น่าสนใจภายในวัดเบญจมบพิตรนั้น เริ่มตั้งแต่

พระอุโบสถ (ทำจากหินอ่อนอิตาลีที่เดียวในประเทศไทย) ที่สร้างเป็นแบบจตุรมุข ภายในเป็นที่ประดิษฐาน “พระพุทธชินราช” (พระประธานของพระอุโบสถ ที่จำลองมาจากพระพุทธชินราช ที่วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ จังหวัดพิษณุโลก ได้ชื่อว่าเป็นพระพุทธรูปที่งดงามที่สุด) นอกจากนี้ด้านนอกพระอุโบสถมีพระระเบียงโอบรอบด้านหลัง ด้านหน้าพระอุโบสถเป็นกำแพงแก้ว เสามุมกำแพงเป็นรูปดอกบัวตูม ด้านหลังเป็นรูปเสมาธรรมจักร ภายในกำแพงแก้วพื้นปูด้วยหินแกรนิตสีชมพูอ่อน และสีเทา (กล่าวมาถึงตรงนี้ครั้งสมัยที่ยังเป็นเด็กได้เคยมาทัศนศึกษากับทางโรงเรียน มัคคุเทศก์ผู้นำทีมของเราบอกว่า หากใครเป็นคนดีเดินเท้าเปล่าบนพื้นหินอ่อนกลางแดดเปรี้ยงจะไม่ร้อนเท้า นักเรียนตอนนั้นลองกันใหญ่ แต่ไม่มีใครบอกว่าร้อนเท้าหรือเปล่า แต่ส่วนตัวคิดอยู่ในใจ ทำไมเราร้อนเท้า!!!) ส่วนองค์พระอุโบสถนั้นประดับด้วยแผ่นหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ มีเสาและสิงห์เฝ้าอยู่ที่ประตู และบริเวณพระระเบียงนั้นเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสมัยและปางต่าง ๆ มากมายตลอดพระระเบียงทุกด้าน เช่น พระพุทธปางที่ทุกท่านรู้จักเป็นอย่างดี ปางลีลา (ที่มีพุทธลักษณะที่งดงาม) ปางทุกรกิริยา ปางสมาธิ ปางห้ามญาติ เป็นต้น ส่วนด้านนอกกำแพงแก้วบริเวณหน้าพระอุโบสถทุกท่านจะได้เห็นศาลาเล็ก ๆ มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสี 2 หลัง บริเวณหน้าบันของทั้งสองหลังจากมีสัญลักษณ์ และคำจารึกปรากฏอยู่

ส่วนถัดไปที่จะกล่าวถึงคือ พระวิหารสมเด็จ (ส.ผ.) เป็นตึกจตุรมุข 2 ชั้น ด้านหน้าบันไดมีราชสีห์เฝ้าอยู่ ภายในเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณสมัยต่าง ๆ และเครื่องลายครามจีน (ส่วนนี้ทีมงานไม่ได้เข้าไปชม) จากนั้นจึงได้ชมศาลาสี่สมเด็จ เป็นศาลาจตุรมุข บันไดปูหินอ่อนและประดับด้วยสิงห์ศิลาสร้างขึ้นจากทุนทรัพย์ของสมเด็จเจ้าฟ้า 4พระองค์ ปัจจุบันใช้เป็นหอกลอง มีกลองที่น่าสนใจและแปลกเนื่องจากยาวและใหญ่มาก (กลองหลวง หรือกลองอืด) โดยจอมพลเจ้าพระยาสุรศักดิ์มนตรี นำมาถวายรัชกาลที่ 5 จึงพระราชทานมาไว้ที่วัดนี้

จากนั้นไม่ไกลจากศาลาสี่สมเด็จ ท่านจะพบกับคูน้ำที่มีสะพานเป็นระยะ ๆ เป็นสะพานเหล็กหล่อโครงทำจากประเทศอตาลีพื้นเป็นคอนกรีต โค้งข้ามคลอง มีทั้งหมด 3 แห่ง คือสะพานพระรูป สะพานถ้วย และสะพานงา โดยที่ริมน้ำนั้นมีศาลาทรงไทย 2 หลัง เรียก ศาลาตรีมุขสะพานน้ำ มุงกระเบื้องเคลือบสี บันไดแยกลงไปทั้งสองข้าง และยังมี “หอระฆังบวรวงศ์” หอระฆังทรงไทย หลังคาลดหลั่น มุงกระเบื้องเคลือบสี ผนังหอระฆังประกบด้วยหินอ่อน หน้าบันทั้งสี่ทิศ จำหลักลายไทย รูปพระลักษณ์ทรงหนุมาน พระนารายณ์ทรงปืน เป็นต้น สำหรับวัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามนั้นยังมีสิ่งที่น่าสนใจอีกหลายแห่งแต่เนื่องจากบางส่วนอยู่ในระหว่างบูรณะจึงมิได้กล่าวถึง (ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรทีมงานเราไปเยี่ยมชมวัดทีไร ไม่ว่าจะต่างจังหวัดหรือกรุงเทพฯ เป็นต้องอยู่ระหว่างบูรณะเสนอ แต่เป็นข้อดีทำให้มีโอกาสทำบุญอยู่สม่ำเสมอเช่นกัน)

การเดินทาง : วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม ตั้งอยู่ที่ 69 ถ.นครปฐม เขตดุสิต กรุงเทพฯ สามารถเดินทางโดยรถประจำทางสาย 5 ลงที่หน้าวัดเบญจมบพิตร หรือ สาย 70 ,72 และ 503 ลงป้ายพระบรมรูปทรงม้า มองทางขวามือตามถนนศรีอยุธยาจะเห็นยอดตึกใบหยกสกาย เดินมาเรื่อย ๆ วัดเบญจมบพิตร จะอยู่ด้านขวามือ (เดินประมาณ 3 นาที) หรือสาย 10 16 23 99 157 201 509 505 ลงป้ายพาณิชย์พระนคร สำนักงาน ก.พ. แล้วเดินเลียงคลองขึ้นไปทางสวนจิตรลดา วัดจะอยู่ทางซ้ายมือ (เดินประมาณ 5 นาที) ต้องการสอบถามเส้นทางรถเมล์ โทร 184 หรือคลิ๊กที่ลิ้งค์ ขสมก.
ข้อแนะนำ : เปิดให้เข้าชมทุกวันเวลา 06.00-18.00 น. โทรสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม โทร 02-2825591 หรือ 02-2829311

ขอขอบคุณ http://www.thongteaw.com/

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .