ประวัติวัดสมานรัตนาราม

วัดสมานรัตนาราม ปัจจุบันตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา มีที่ดินตามหน้าโฉนด ที่ตั้งวัดทั้งหมด 26 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา

ในอดีตก่อนที่จะมาเป็นวัดแห่งนี้ มีเรื่องเล่าสืบกันต่อกันมาตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้น มีครอบครัวหนึ่งเป็นคหบดีอยู่ในฐานะมั่นคง เป็นที่เคารพนับหน้าถือตาของคนในระแวกนั้นคือ ครอบครัวของท่านขุนสมานจีนประชา(เดิมชื่อจ๋าย) สกุลของท่านขุนสมานจีนประชาคือ “สืบสมาน” ท่านขุนมีภรรยา 2 คนคือ นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (สกุลเก่า-เพิ่มนคร)

เมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่กรรม ภรรยาทั้ง 2คนของท่านขุนสมานจีนประชา พร้อมด้วยนางยี่สุ่น วิริยะพานิช มีความศรัทธาคิดจะสร้างวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีผู้ล่วงลับจึงได้ร่วมกันสร้างวัดขึ้นมา ซึ่งมีปรากฏตามหลักฐาน เมื่อ ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.๕) ทรงเสด็จทางชลมารค์ผ่านมา ได้ทรงแวะเยี่ยมวัดแห่งนี้ ซึ่งขณะนั้นกำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และได้มีชาวบ้านผู้หนึ่งชื่อ นายเหว่า โพนสุวรรณ์ นำนกกวักเผือกถวาย ณ ที่วัดแห่งนี้ด้วย

เมื่อวัดสร้างเสร็จเรียบร้อย จึงได้ตั้งชื่อวัดว่าวัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร” เป็นการนำชื่อของท่านขุนสมานจีนประชา และนามสกุลเดิมของภรรยาคนหนึ่งมารวมด้วยกัน เริ่มแรกวัดแห่งนี้ป็นวัดราษฎ์ คณะสงฆ์ที่ปกครองวัดสมัยนั้น เป็นฝ่ายมหานิกายแต่ปกครองได้ไม่นานนัก ต่อมาผู้สร้างวัด วัดใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร แห่งนี้ให้กับพระสงฆ์ในคณะธรรมยุตดูแล โดยมีพระครูศิริปัญญามุนีเป็นประธานสงฆ์ในการรับถวายวัดนี้ ชาวบ้านโดยทั่วไปมักเรียกวัดนี้ว่า “วัดใหม่ขุนสมาน” มาจนถึงทุกวันนี้

ตำแหน่งที่ตั้งของวัดสมานรัตนาราม อยู่ในตำแหน่ง “ฮวงจุ้ยมงคล” (ถุงเงินถุงทอง) วัดสมานรัตนารามเดิมทีไม่ค่อยมีคนรู้จักว่าอยู่แห่งหนตำบลไหน มีความสำคัญอย่างไร มีหมอดูท่านหนึ่งเคยดูไว้ว่า วัดแห่งนี้ทึมๆผู้คนไม่รู้จักแต่มีของดี ต่อมาได้มีพระหนุ่มรูปหนึ่งมาบวชที่วัดนี้ ท่านได้ปวารณาไว้ว่าจะพัฒนาวัดอันเป็นบ้านเกิดเมืองนอนของท่าน ให้เจริญและเป็นที่รู้จักของคนทั่วไป เพื่อเผยแผ่สืบทอดพุทธศาสนาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

เป็นเวลาสิบกว่าปีความตั้งใจที่จะทำในสิ่งที่ได้ลั่นวาจาไว้ก็เป็นไปอย่างที่ราบรื่น วัดได้พัฒนาไปแบบก้าวกระโดด เพราะท่านได้สละแรงกายแรงใจ และสติปัญญา เกินกว่าวัยของท่านมากยิ่งนัก ปัจจุบันวัดสมานรัตนาราม ไม่ได้รู้จัก เฉพาะในหมู่คนไทยในประเทศ แม้แต่ต่างประเทศทั่วโลกก็รู้จัก ผู้คนเดินทางมากราบไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ วันละหลายหมื่นคน ยิ่งทำให้วัดพัฒนาไปได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยแรงศรัทธาของพระหนุ่มองค์นั้น ท่านก็คือ พระครูธรรมธรไพรัตน์ ปัญญาธโร พระนักพัฒนาอันทรงคุณค่านั่นเอง

และนอกจากท่านพระครูจะพัฒนาวัดสมานฯ แห่งนี้ให้เจริญทั้งเรื่องพระพุทธศาสนาแล้ว วัดแห่งนี้ยังเป็นที่รู้จักแก่บุคคลทั่วไป ในเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนให้ความเคารพนับถือ คือ พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ซึ่งเป็นปางนอนองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้วัดสมานฯแห่งนี้เป็นที่รู้จัก และกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดฉะเชิงเทรา

ขอขอบคุณ http://www.sawasdee-padriew.com/

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .