ฉะเชิงเทรา คือเป้าหมายทริปแรกของปี 2014 เริ่มต้นแรกของปีด้วยการไปสักการะหลวงพ่อโสธร และแก้บนปิดทองตามที่เคยอธิฐานไว้เมื่อตอนกระเป๋าสตางค์หาย สุดท้ายก้อไม่ได้หายไปไหน อยู่ในกระเป๋ากล้องที่บ้านนั่นแหละ แต่เพื่อความสบายใจเลยอยากมาแก้บนตามที่ได้บนบานสานกล่าวไว้
หลังจากกราบไหว้หลวงพ่อโสธร ท่ามกลางผู้คนที่หลั่งไหลกันมาอย่างอภิมหาล้นหลามแล้ว ก็ไปเที่ยวกันต่อที่วัดปากน้ำโจ้โล้ ที่เค้าว่ากันว่ามีโบสถ์สีทองสวยงามมาก เมื่อมาเจอของจริงบอกได้เลยว่า งดงาม วิจิตร และร่มรื่น สบายใจดีมาก

เดิมเป็นสำนักสงฆ์ อยู่ในสมัยอยุธยาตอนปลาย หน้าวัดมีคลองไหลผ่านมารวมกับแม่น้ำบางปะกง สร้างมาประมาณ ๒๐๐ ปี พื้นที่บริเวณนี้เป็นที่ตั้งของทัพพม่า ซึ่งมีทั้งทัพบก และทัพเรือ ได้ต่อสู้และพ่ายแพ้ทัพของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จึงได้โปรดเกล้าฯ ให้สร้างเจดีย์ขึ้น ณ ที่แห่งนี้เพื่อเป็นอนุสรณ์ เจดีย์นั้นอยู่ที่อนุสรณ์สถานพระสถูปเจดีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แต่ถูกน้ำกัดเซาะพังทลายลงไปหมด ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2491 กรมศิลปากรจึงได้สร้างขึ้นมาใหม่ในบริเวณเดิม

วัดปากน้ำโจ้โล้ คำว่าโจ้โล้ เป็นภาษาจีน แปลว่า ปลากระพงขาว เพราะแถวนี้มีปลาชุกชุมมาก
อยู่ในอำเภอบางคล้า ถ้าจะมาที่นี่ ก้อแวะหาของกินที่ตลาดน้ำบางคล้าให้อิ่มท้องก่อน แล้วค่อยเลยมาวัดนี้ ซึ่งอยู่ไม่ไกลกันมากนัก

ด้านหลังของโบสถ์มีหงษ์สองตัวยู่ขนาบข้าง สวยงามมาก ลวดลวยที่ตกแต่งสวยงาม อ่อนช้อย ตระการตา แนะนำให้มาช่วงบ่ายๆที่แสงแดดกระทบโบสถ์ ให้แสงสีทองที่สวยงามมาก

ขอขอบคุณ http://blog.chillpainai.com/