วัดฉลอง หรือ วัดไชยธาราราม เป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป จากเรื่องราว ความศักดิ์สิทธิ์ และคุณความดี ของ หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ในการเป็นที่พึ่ง ให้แก่ชาวบ้าน ในการต่อสู้กับพวกอั้งยี่ (พวกจีนที่ก่อการกบฏ) ทั้งนี้ขอเล่าย้อนให้ฟังกันเลยแล้วกันนะ คือหลวงพ่อท่านได้มอบ ผ้าประเจียดสีขาว ให้ชาวบ้านทุกคนโพกหัว เพื่อเป็นขวัญ และกำลังใจ ในการต่อสู้ จนชนะพวกอั้งยี่ได้ (ตอนนั้นพวกอั้งยี่เรียกชาวบ้านว่า “พวกหัวขาว”) ภายหลังรัชกาลที่ 5 จึงโปรดเกล้าพระราชทาน สมณะศักดิ์แก่หลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เป็น พระครูวิสุทธิวงศาจารย์ญาณมุนี ซึ่งท่านก็เป็นที่เคารพเลื่อมใส ของชาวภูเก็ต ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เมื่อมีเรื่องทุกข์ร้อนใด ก็พากันมาบนบาน ให้หลวงพ่อ ช่วยเหลือเสมอ อ้อ และอีกอย่างที่เราเคยได้ยินได้ฟังมาก็คือ ไม้เท้าของท่านศักดิ์สิทธิมาก ใครมีปาน หรือไฝในบริเวณที่ไม่พึงปรารถนา (ไม่สวย) ก็มาขอเอาไม้เท้าของท่านไปจิ้ม แล้วไฝ หรือปานนั้นก็จะไม่ใหญ่ขึ้น และค่อยๆ จางไปเอง (อันนี้ขึ้นอยู่กับ ความเชื่อส่วนบุคคล นะจ๊ะ)
นอกจากหลวงพ่อแช่มแล้ว ที่วัดฉลองยังมี หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อม ที่ชาวบ้านเคารพ ศรัทธาเลื่อมใสเช่นกัน โดยนอกจากความศักดิ์สิทธิแล้ว ท่านทั้งสองยังมีชื่อเสียงทางด้าน การปรุงสมุนไพร และรักษาโรคด้วย ดังนั้นแม้ท่านได้มรณภาพไปแล้ว ชาวบ้านที่มีเรื่องทุกร้อน ก็ยังคงมากราบไหว้ บนบานไม่ขาดสาย
เมื่อมาถึงเขตวัดแล้ว จะได้ยินเสียงจุดประทัด แก้บนเป็นระยะๆ (เห็นมั้ยล่ะว่าศักดิ์สิทธิ์) และหากท่าน ไม่ได้เตรียมดอกไม้ ธูป-เทียนมา (เราเป็นบ่อย) ก็ต้องไปซื้อดอกไม้ ธูป เทียน ทอง ที่ซุ้มของทางวัด ซึ่งมีจำหน่ายเป็นชุดๆ ซึ่งสะดวกดี และถือเป็นการทำบุญกับวัดไปในตัว เนื่องจาก ราคาของเครื่องบูชาทั้งหลายนั้น ทางวัดไม่ได้กำหนดไว้ และรายได้ ที่ได้จะนำไปบำรุง-ซ่อมแซมวัดต่อไป นอกจากนี้เค้าก็มีพระไว้ให้ ทอนกันด้วย (ทอน= เช่า / เป็นภาษาภูเก็ต) แต่เดี๋ยวค่อยมาดูก็ได้ ตอนนี้ไปไหว้พระก่อน
ก่อนที่จะไปไหว้หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่อเกลื้อมนั้น เราต้องไปไหว้พ่อท่านเจ้าวัดก่อน ตามธรรมเนียม ซึ่งพ่อท่านเจ้าวัดก็คือ พระประธานในวิหารเก่าแก่ อันเป็นที่ตั้งของวัดฉลองแต่โบราณ ก่อนที่จะย้ายออกมาตั้งอยู่ในที่ปัจจุบัน ซึ่งพ่อท่านเจ้าวัดนี้ จะมีองค์รักษ์อยู่สองคน หนึ่งคือ ท้าวนนทรี ซึ่งท่านเป็นยักษ์ ที่อยู่ในศีลในธรรม และอีกหนึ่ง คือ ตาขี้เหล็กซึ่งว่ากันว่า ท่านชอบสูบบุหรี่มาก หากใครมาบนบาน หรือขอเลขเด็ด แล้วบนด้วยบุหรี่ มักได้ผลสมใจนึก
เมื่อไหว้พ่อท่านเจ้าวัดแล้ว คราวนี้เราก็ไปไหว้หลวงพ่อแช่ม หลวงพ่อช่วง และหลวงพ่ือเกลื้อม กันต่อเลย ที่นี่เค้าจะจัด ที่ให้เราจุดธูป-เทียนด้านนอก อธิษฐานตรงหน้าวิหาร แล้วปักเทียน ในรางเหล็กที่จัดไว้ให้ ส่วนธูปก็ปัก ในกระถางด้านหน้า ที่ต้องให้ทำกิจกรรมดังกล่าว กันด้านนอก คิดว่าคงเนื่องจาก มีคนไปสักการะมากหากจะให้จุดธูป-เทียน แล้วนำไปกราบไหว้ข้างใน ที่มีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดกว่าด้านนอก อาจมีอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ (ธูปอาจไปจี้โดนคนอื่น) แต่สำหรับดอกไม้ และทองคำเปลวนั้น เอาไปไหว้ข้างในได้
เมื่อเข้าไปวิหาร ก็จะมีที่ไว้ให้นั่งไหว้พระ และอธิษฐาน (ตามแต่จะขอ) ที่ด้านในเป็นที่ประดิษฐาน รูปหล่อจำลองหลวงพ่อทั้งสาม (หลวงพ่อแช่ม – หลวงพ่อช่วง – หลวงพ่อเกลื้อม) สำหรับติดทองคำเปลว ผู้ที่ชื่นชอบการเสี่ยงทาย และการทำนาย ก็จะมีเซียมซีไว้ให้สำหรับการนี้ด้วย แต่เรามีเคล็ดลับ ที่ไม่ลับจะบอก (บางคนอาจจะรู้แล้วก็ได้) นั่นคือ หากผลการทำนายไม่ดี เค้าบอกว่าอย่านำใบทำนายกลับบ้าน ให้ทิ้งไว้ที่วัด เหมือนฝากให้พระท่านดูแล ส่วนใครที่ได้ผลทำนายดี ก็ให้เอากลับบ้านได้
พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทย บารมีประกาศ บรรยากาศภายในเงียบสงบ และเย็นสบาย ที่ห้องโถงชั้นล่าง ทางวัดได้ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางต่างๆไว้
ไหว้พระเสร็จแล้ว ก็เดินไปนมัสการพระบรมธาตุ ที่พระมหาธาตุเจดีย์ พระจอมไทยบารมีประกาศ ซึ่งสร้างเสร็จสมบูรณ์เมื่อไม่นานมานี้ (เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน ของพระบรมสารีริกธาตุ) บรรยากาศภายในเงียบสงบ และเย็นสบาย ที่ห้องโถงชั้นล่าง ทางวัดได้ประดิษฐาน พระพุทธรูปปางต่างๆไว้ ส่วนที่ฝาผนัง จะมีภาพวาดพุทธประวัติ แสดงให้เห็น เช่น ตอนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพาน
พระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานอยู่ในห้องกระจก ที่ยอดเจดีย์ ซึ่งสามารถ เข้าไปสักการะได้ ทั้งนี้ทางวัด ได้จัดพื้นที่สำหรับให้ ประชาชนทั่วไป ได้ชมพระบารมี และสักการบูชา โดยจัดโต๊ะบูชา พร้อมคำกล่าวบูชา เป็นภาษาบาลี และคำแปล ไว้ให้เสร็จสรรพ
ขอขอบคุณ http://phuketindex.com/