วัดพระบรมธาตุนครชุม ทุบฐานพระในวิหารเปิดกรุพระเครื่องเก่า และพระโบราณหลากหลายชนิด เตรียมนำออกให้ประชาชนบูชาในวันมาฆบูชานี้…
เมื่อวันที่ 4 มี.ค. มีรายงานว่า ที่วัดพระบรมธาตุนครชุม ต.นครชุม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร พระราชวชิรเมธี รองเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุนครชุม ได้ปรับปรุงซ่อมแซมใหม่ เพื่อให้เป็นห้องสมุดสำหรับพระเณรใช้เป็นที่ศึกษาค้นคว้าตำราเรียน ดังนั้น จึงได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูปออกไปจากวิหาร ซึ่งตาม ประวัติทราบว่า พระสิทธิวชิรโสภณ หรือหลวงพ่อช่วง อดีตเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร ซึ่งเป็นเจ้าอาวาสในยุคนั้น ได้นำพระเครื่องบรรจุไว้ที่หน้าแท่นพระประธาน ตั่งแต่เมื่อปี 2537 โดยในสมัยนั้นมีทั้งพระที่สร้างใหม่ มีทั้งพระเก่าที่หลวงพ่อช่วงเก็บสะสมไว้ และยังมีพระที่ชาวบ้านเก็บไว้นำมาบรรจุไว้ในกรุแห่งนี้ด้วย
สำหรับการทุบฐานพระประธานในวันนี้ มีช่างที่มารับเหมาสร้างศาลาเป็นคนลงมือ โดยใช้เวลาทุบไปไม่นาน ก็พบกรุหน้าแท่นพระประธาน หลังจากที่ทั้งเจาะและทุบจนเปิดกว้างออก ภายในกรุก็พบพระพุทธรูปบูชาปางต่างๆ และยังพบบาตรเก่าวางเรียงรายอยู่หลายใบ พบภาชนะแบบโบราณหลายรูปแบบทั้งเล็กและใหญ่อีกหลายลูก นอกจากนี้ ภายในกรุยังพบจอมปลวกอีกด้วย พระราชวชิรเมธีจึงค่อยๆ ให้ช่าง รื้อสิ่งของภายในกรุขึ้นมาไว้ข้างบน เริ่มจากพระบูชาปางต่างๆ ประมาณ 30 องค์ ตามด้วยบาตรพระเก่า ไหและโถโบราณรวมแล้วกว่า 20 ลูก จากนั้นนำมาที่กุฏิ
จากนั้น เมื่อปรึกษาคณะกรรมการวัดแล้ว ต่างลงมติให้พระราชวชิรเมธีเป็นผู้เปิดไหและโถ รวมทั้งบาตรเก่าทั้งหมด ผลจากการใช้ค้อนทุบจนไหและโถแตก ก็พบว่าภายในบรรจุพระเครื่องหลากหลายชนิด หลากหลายรูปแบบ มีพระซุ้มกอเป็นหลัก นอกจากนั้น ยังพบเนื้อดินเช่นพระดังอย่างพระซุ้มกอ พระเม็ดขนุน กลีบบัว นางพญาและลีลา รวมทั้งพระอื่นๆ อีกหลากหลายรูปแบบ ทั้งองค์เล็กองค์ใหญ่บรรจุไว้ในบาตรเก่าในโถและไหจนแน่นทุกใบ บางใบเมื่อเปิดออกดูพบว่ามีปลวกเข้าไปทำรังจำนวนมาก นอกจากนั้นยังพบเหรียญหลวงพ่อวิเชียรโมลี เจ้าอาวาสองค์เดิมที่เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดกำแพงเพชร และเป็นที่รู้จักของเซียนพระทั่วไป รวมทั้งเหรียญของหลวงพ่อช่วง รวมทั้งหมดมีแค่อย่างละ 3-4 เหรียญเท่านั้น โดยพระราชวชิรเมธีได้เก็บไว้ ส่วนพระเครื่องต่างๆ ทางคณะกรรมการวัดจะได้รวบรวมแล้วแยกประเภท เพื่อจะนับว่ามีจำนวนเท่าใด ซึ่งจะได้ปรึกษากับคณะกรรมการวัด ว่าจะเปิดให้ประชาชนบูชาในราคาเท่าไร เพื่อจะได้นำเงินมาปรับปรุงซ่อมแซมวิหารให้เสร็จสมบูรณ์ และจะเปิดให้ประชาชนได้บูชาในวันที่ 7 มีนาคมนี้ซึ่งตรงกับวันมาฆบูชาที่จะถึงนี้.
ขอขอบคุณ http://www.thairath.co.th/