ประวัติมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์

คุณสรพงศ์ ชาตรี เป็นพุทธมามกะ ผู้ยึดมั่นในหลักธรรมคำสอนทางพระพุทธศาสนาอย่างมั่นคง ดำรงตนอยู่ในทาน ศีล ภาวนา ซึ่งได้ปฎิบัติธรรมกับพระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป วัดอรัญวิเวก จ.เชียงใหม่ ซึ่งพระอาจารย์ได้แนะนำคุณสรพงศ์ ชาตรี ให้ไปอธิษฐานจิตขอพรบารมีสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) วัดระฆังฯ แล้วการงานทุกอย่างที่กังวลอยู่จะสำเร็จดังประสงค์ทุกประการ เพราะหลวงปู่โต มีลูกหลานเป็นเทพบุตรเทพธิดา จะได้พากันมากราบไหว้บูชาสักการะและช่วยให้งานนั้นๆ สำเร็จดังปรารถนา

คุณสรพงศ์ ชาตรีจึงได้ไปอธิษฐานจิต ขอบารมีตามที่พระอาจารย์แนะนำ พร้อมทั้งจะจัดสร้างรูปเหมือนหลวงปู่ จึงไปปรึกษาหลวงพ่อพระครูปลัดนุตร์ รัตนวิชโย ซึ่งปฎิบัติธรรมอยู่ที่วัดปักแม่ลาย อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ซึ่งท่านแนะนำให้จัดสร้างรูปเหมือนองค์ใหญ่ที่สุดในโลก จึงคิดถึงพิธีการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่โต โดยศึกษาประวัติคุณความดีที่ปรากฏเป็นประวัติศาสตร์ 3 ส่วน 3 สถาน คือ ดีปฐม ดีมัธยม และ ดีอุดมๆ ได้แก่ ดีส่วนยอด อันหมายถึง การบริหารจัดการส่วนบุคคล และส่วนรวมอย่างยอดเยี่ยม จึงจัดพิธีเททองหล่อส่วนศรีษะที่วัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2541 ต่อมาดีส่วนมัธยม หมายถึงการศึกษาสัพพวิทยาอันเป็นไปในส่วนปริยัติ

ปฎิบัติที่แจ้งชัด จึงได้ประกอบพิธีเททองหล่อส่วนองค์หลวงปู่ที่วัดบางขุนพรหม และดีส่วนปฐม หมายถึงดีเริ่มแรก คือมีปุพเพกตบุญญตาที่บริบูรณ์พร้อมทั้งผู้ให้กำเนิดและวงศาคณาญาติ ซึ่งทำให้สำเร็จประโยชน์อย่างอเนกอนันต์ จึงประกอบพิธีเททองหล่อส่วนเท้าตั้งแต่สะเอวลงมา ที่วัดเกตุไชยโยวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง รวม 3 ส่วน 127 ชิ้น แล้วนำส่วนนั้นๆ มาประกอบเป็นองค์หลวงปู่ เสร็จเรียบร้อยเมื่อวันที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2543

รูปหล่อองค์สมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) หน้าตักกว้าง 8 เมตร 1 นิ้ว สูง 13 เมตร หนัก 61 ตันค่าก่อสร้าง 9 ล้านบาทเศษ และได้จัดสร้างมหาวิหารเป็นแบบกุฎาคาร (เรือนยอดเจดีย์เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูป) ขึ้นถวาย พร้อมทั้งซื้อที่ดินประมาณ 150 ไร่ และจัดภูมทัศน์ส่วนต่างๆตามความเหมาะสม เช่น สระน้ำ สวนหิน สวนต้นไม้ เป็นต้นอีกทั้งได้จัดบริการด้านอาหาร และห้องน้ำห้องสุขาฟรี
ขอขอบคุณ http://pr.prd.go.th

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .