วัดศาลาทอง

วัดศาลาทอง ตั้งอยู่ต.ในเมือง อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา เป็นวัดราษฎร์ วัดศาลาทองเป็นวัดธรรมยุติกนิกาย เก่าแก่ตั้งแต่สมัยขอมยังเรืองอำนาจ ปกครองแผ่นดิน ปัจจุบัน ตั้งอยู่เลขที่ 12 ถ.เบญจรงค์ ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา 30000 ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของตัวเมืองนครราชสีมา มีเนื้อที่ประมาณ 50 ไร่เศษ ทิศตะวันออกติดกับโรงเรียนบ้านหัวทะเล ทิศตะวันตกตดิดกับวัดศาลาเย็น ทิศเหนือติดกับสระน้ำ ทิศใต้ติดกับบ้านหนองโสน วัดแห่งนี้ครั้นเมื่อสมัยขอมยังปกครองอยู่มีชื่อว่า “วัดป่าเลไลย์”ต่อมาเปลี่ยนมาเป็น”วัดป่าเลไลย์ทอง”และเมื่อครั้งแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงปกครองแผ่นดินสยาม โปรดให้สร้างเมือง”โคราฆปุระ”หรือเมืองโคราช จ.นครราชสีมาในปัจจุบัน จึงเปลี่ยนชื่อเป็น”วัดศาลาทอง”จวบจนปัจจุบัน สิ่งปลูกสร้างภายในวัด 1.พระอุโบสถทรงจตุรมุขหรือมีหน้าบัน 4 ด้าน อย่างพระปรางค์ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินพนมรุ้งถ้าตัดมุขทั้ง 4 ด้านออก ซึ่งจะไม่เหมือนรูปอุโบสถอย่างไทยนิยนในปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่สร้างเป็นรูปสี่เหลี่ยมมีหลังคาลาดชัน การบูรณปฏิสังขรณ์ เมื่อปีพุทธศักราช 2481 นางเลียบ ชิ้นในเมืองพร้อมด้วยผู้มีจิตศรัทธาทั้งหลาย ร่วมกันสละทุนทรัพย์สร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่เป็นไม้ มีความทรุดโทรมไปตามกาลเวลา ตั้งแต่สัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นลักษณะเดิมแต่เป็นคอนกรีตทั้งหลัง เพื่อคงรักษาลักษณะเด่นทางสถาปัตยกรรมอย่างขอมโบราณ ผู้ออกแบบพระอุโบสถคือ พระครูปลัดสัมพิพัฒน์วิริยาจารย์ (พระมหาสุทัศน์ สุทสสโน ป.ธ.6)ได้ป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง นำพระภิกษุสามเณรและพุทธศาสนิกชนร่วมกันก่อสร้างจนสำเร็จสมบูรณ์ เมื่อพุทธศักราช 2483 ต่อมาเมื่อพุทธศักราช 2535 ได้มีการบูรณะเปลี่ยนกระเบื้องหลังคาครั้งใหญ่แทสีใหม่ทั้งหลัง โดยการนำของพลตำรวจตรีชนัน ชานะมัย อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรภาค 3 อีกคราวหนึ่งเมื่อปีพุทธศักราช 2547 มีการบูรณะโครงหลังคาจากไม้เป็นโครงเหล็กทั้งหลัง รวมถึงบันไดทางขึ้นอุโบสถทั้ง 4 ด้านโดย พระครูสิริเจติยาภิบาล เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน 2.พระประธาน เป็นปางป่าเลไลย์ทรงนั่งห้อยพระบาททั้งสองเฉกเดียวกับปางปฐมเทศนา ซึ่งนิยมสร้างกันมากในสมัยทวาราวดี ผิดกันแต่พระกรขวาท่อนล่างพาดอยู่บนพระเพลา ทรงหงายพระหัตถ์ ส่วนปางปฐมเทศนานั้นพระหัตถ์ขวายกขึ้นจีบนิ้วเป็นรูปวงธรรมจักร แต่พระประธานวัดศาลาทองทรงประทับนั่งบนแท่นศิลาไม่พิงพนัก ทอดพระเนตรต่ำ สีพระวรกายเป็นสีทองอร่าม ริมพระโอษถ์สีแดงสด ความสูงจากพระบาทฐานถึงพระรัศมี 5.10เมตรวัดโดยรอบพระต้นพระกร รวมอุระ 3.10เมตรพระบาทสูงจากพื้น 0.50เมตรพื้นพระอุโบสถยกสูงจากพื้นดิน 1.80เมตรไม่มีดอกบัวรองรับพระบาท ครองผ้าเฉวียงอังสะ พาดสังฆาติคล้ายพระสงฆ์ลงโบสถ์ทำสังฆกรรม ผินพระพักต์ไปทางทิศตะวันออกพระกรทั้งสองพาดพระเพลา เป็นกิริยารับถวายน้ำเต้าและรวงผึ้งจากช้างและวานร

ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org/

Both comments and pings are currently closed.

Comments are closed.

. . . . . . .
. . . . . . .