ในคราวที่พระศิวะทรงไปบำเพ็ญสมาธิเป็นระยะเวลานาน พระแม่ปารวตี ประสงค์ที่จะมีผู้คอยดูแลพระองค์และป้องกันคนภายนอกที่จะเข้ามาก่อความวุ่นวายในพระตำหนักจึงเสกเด็กขึ้นมาเพื่อเป็นพระโอรสที่จะเป็นเพื่อน
เมื่อองค์ศิวเทพเสด็จกลับมาและจะเข้าไปพระตำหนักก็ถูกเด็กหนุ่มห้ามไม่ให้เข้า เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นใครและไม่รู้ว่าเด็กหนุ่มเป็นโอรสที่พระแม่ปารวตีได้เสกขึ้นมา เมื่อถูกขัดใจก็ทรงพิโรธและตวาดให้เด็กหนุ่มนั้นหลีกทางให้ พลางถามว่ารู้ไหมว่ากำลังห้ามใครอยู่ ฝ่ายเด็กก็ตอบกลับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเป็นใครเพราะตนกำลังทำตามบัญชาของพระแม่ปารวตี และทั้งสองก็ได้ทำการต่อสู้กันอย่างรุนแรง ในที่สุดเด็กหนุ่มนั้นก็ถูกตรีศูลของมหาเทพจนสิ้นใจ และศีรษะก็ถูกตัดหายไป
พระแม่ปารวตีถึงกับสิ้นสติเมื่อเห็นร่างพระโอรสที่ปราศจากศีรษะ และเมื่อได้สติก็ทรงตัดพ้อพระสวามีที่มีใจโหดเหี้ยมทำร้ายเด็กได้ลงคอ โดยเฉพาะเมื่อเด็กนั้นเป็นพระโอรสของพระนางเอง
เมื่อได้ยินพระนางตัดพ้อต่อว่า องค์มหาเทพก็ทรงตรัสว่าจะทำให้เด็กนั้นกลับพื้นขึ้นมาใหม่ แต่หาศีรษะที่หายไปไม่ได้และยิ่งใกล้เวลาเช้า หากดวงอาทิตย์ขึ้น จะไม่สามารถชุบชีวิตให้เด็กหนุ่มฟื้นขึ้นมาได้
ดังนั้น พระศิวะเลยโยนตรีศูลอาวุธของพระองค์ออกไปหาศีรษะสิ่งมีชีวิตแรก ที่พบมา และปรากฏว่าเหล่าเทพได้นำเอาศีรษะช้างมาซึ่งพระศิวะทรงนำศีรษะมาต่อให้และชุบชีวิตให้ใหม่พร้อมยกย่องให้เป็นเทพที่สูงที่สุด และขนานนามว่า พระพิฆเนศวร
การเดินทาง:
จากกรุงเทพมาฉะเชิงเทราได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางกรุงเทพ-มีนบุรี หรือเส้นทางมอเตอร์เวย์ สะดวกทั้งสองเส้นทาง
เราเริ่มเดินทางจากกรุงเทพ เข้าถนนรามอินทรา ผ่านมีนบุรี เข้าหนองจอก (ถนนสุวินทวงศ์) วิ่งตรงตลอดเลยค่ะ จากสุวินทวงศ์จะเข้าเขตจังหวัดฉะเชิงเทรา ผ่านตลาดน้ำนครเนื่องเขต เราไม่ได้แวะที่นี่ ไว้คราวหน้าแล้วกัน
ตรงไปเรื่อยๆจะผ่านโรงพยาบาลโสธราเวช สถานีรถไฟ โรงเรียนเบญจมราช ตรงไปขึ้นสะพานฉะเชิงเทรา ขับไปเรื่อยๆจนถึงสี่แยกไฟแดง (แยกคอมเพล็กซ์) ให้เลี้ยวซ้าย จากนั้นจะมีป้ายบอกทางไปวัดสมานรัตนารามตลอดทางเลยค่ะ
ขอขอบคุณ http://2g.pantip.com/