เที่ยวถ้ำ “แก้วสารพัดนึก” ถ้ำไตรรัตน์

t3

เมื่อปีพ.ศ. 2513 พระเดชพระคุณท่านพระสุทธาจารณย์ (โชติ คุณสมฺปนฺโน) ปฐมเจ้าอาวาสวัดวชิราฯ ได้มาพัฒนาถ้ำเพื่อบำเพ็ญสมานธรรม และภายในบริเวณวัดมีสิ่งที่น่าสนใจ คือสวนป่าที่สวยงาม และถ้ำที่น่าสนใจให้เที่ยวชมอยู่ 3 ถ้ำ คือ ถ้ำพุทธรังษี ถ้ำธรรมรังสี ถ้ำสังฆรังษี

ถ้ำนี้อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ไม่ไกล นั่งรถเพียงชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงตัวเมืองปากช่องระหว่าง กม.ที่ 161 เลยฟาร์มโชคชัยเพียง 1 กม. เลยไปหน่อยก็จะเจอจุดกลับรถที่ 2เพื่อวกเข้าสู่วัดถ้ำไตรรัตน์ วัดที่มี “ถ้ำแก้วสารพัดนึก” ซึ่งเป็นถ้ำที่มนุษย์วานรสมัยโบราณใช้อาศัยอยู่จริง จ่ายเงินค่าเข้าชม คนละ 40 บาทสำหรับผู้ใหญ่ส่วนเด็กก็ 20 ลดลั่นตามขนาดลงไป ภายในอุโมงค์ทางเข้ามืดตื๋อนั้นเพื่อนๆ จะพบกับความสวยงาม ความรู้ ความพิศวงถึง 5 โซนด้วยกัน โดยผ่านประสาทสัมผัสทางตา และเสียงจากไกด์ ผู้บรรยายอายุน้อยๆ เรียกว่าคุ้มจนขาลากเลยทีเดียว

เดินเข้ามาโซนแรกเป็นห้องโถงกว้างตรงกลางมีพระพุทธรูปสีทองสององค์วางตระง่านงามตาเมื่อต้องแสงสีเหลืองจากหลอดไฟ ทำให้รัศมีเจิดจรัสยิ่งนัก ระหว่างกลางของพระพุทธรูปอายุหลายร้อยปีทั้งคู่ มีหินงอกที่นับว่าแปลกเพราะมันงอกจากพื้นขึ้นสู่เบื้องบนเป็นเวลากว่า 60 ปี มิหนำซ้ำยิ่งงอก รูปร่างหน้าตามัน ก็มีเค้าเหมือนคนยิ่งขึ้น นับเป็นสิ่งอัศจรรย์อันดับแรกที่ได้พบเป็นเหมือนการกระตุ้นต่อมในสมองให้เบ่งบาน หลังจากนั้นเราจะมาทำบุญมอบสังฆทานพระสงฆ์กันต่อ เพื่อให้จิตใจอาบอิ่มด้วยบุญ แล้วแวะลัดลอดซอกเหลือบเล็กๆ ไปชมหินเพชรที่เมื่อต้องแสงไฟจากกระบอกไฟฉายของไกด์ผู้นำทางแล้วจะส่องประกายวาววับ ชวนลูบคลำ

Read more »

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง แยกจากทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-สระบุรี) หลักกิโลเมตรที่ 150 ไปตามถนนลาดยางอีก 3 กิโลเมตร เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 27 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตรหรือ 56 วา หมายถึง พระพุทธคุณ 56 ประการ ส่วนความสูงขององค์พระ 45 เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ 45 พรรษา หรือเรียกว่าทรงทำพุทธกิจอยู่ 45 พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้วทางขึ้นไปนมัสการองค์พระเป็นบันไดแยกออกสองข้าง เป็นรูปโค้งเว้าเหมือนขอบใบโพธิ์ นับรวมทั้งด้านซ้ายและขวาทั้งหมด 1,250 ขั้นซึ่งหมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกัน โดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา

ขอขอบคุณ http://www.hotsia.com/

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือวัดหลวงพ่อขาว

ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ หลักกิโลเมตร ๑๕๑ มุ่งหน้า จ.นครราชสีมา

(สังเกตุง่าย ๆ พบเห็นร้าน Fly Now ทางขวามือ ก็กลับรถได้เลย)

ที่ตั้งของวัดอยู่ห่างจากถนนใหญ่ตรงไปประมาณ ๒ กม.ครับ

เลี้ยวซ้ายจากถนนใหญ่เข้ามาก็พบแล้วครับ หลวงพ่อขาว

1408100931-26JPG-o
หน้าวัดครับ

1408100987-22JPG-o (1)
Read more »

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อ.ปากช่อง

พระพุทธสกลสีมามงคล (พระขาว) พระพุทธรูปปางประทานพรที่ใหญ่ที่สุดในโลก

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ไม่ไกลนักจากกรุงเทพ สู่จังหวัดนครราชสีมา หลักกิโลเมตรที่ 150 คุณจะได้สัมผัสกับความรู้สึกที่สงบ ร่มเย็น ภายในวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือ ที่ชาวบ้าน เรียกกันว่า วัดพระขาว ซึ่งเป็นวัดที่สวยงาม ท่านจะเห็น พระพุทธรูปสีขาวบริสุทธิ์ ประดิษฐานอยู่ ณ- ไหล่เขาอันมีนามว่า เขาสีเสียดอ้า หรือ เขาเทพพิทักษ์ แหละนี่คือ พุทธประทีปแห่งกลางดง ที่พุทธศาสนิกชนควรหยุดสักการะ เปรียบเสมือนหนึ่ง ขอพรในนาทีแรกที่ย่างก้าวสู่ประตูอีสาน

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม เกิดขึ้นจากดำริของ พระอาจารย์ท่านพ่อลี (พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์) ที่จะสร้างวัดขึ้น ณ เชิงเขาสีเสียดอ้าไปพร้อมๆ กับ การสร้างพระพุทธรูปไว้บนเนินเขา

การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ได้ทำการขยายส่วนมาจาก พระพุทธรูป ภ.ป.ร. ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ปางประทานพร
สำหรับผู้ที่เป็นผู้นำสำคัญในการก่อสร้าง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม พร้อมกับพระพุทธรูปองค์นี้ คือ พลเอกพงษ์ ปุณณกัณต์ ซึ่งได้เริ่มสร้างตั้งแต่ครองยศเป็นพลโท และตามจารึกปณิธานวัจนะ ซึ่งบรรจุอยู่ภายในองค์พระพุทธรูปบอกไว้ว่า เนื่องจากผู้สร้างได้รำลึกถึงโอวาทของพระอาจารย์ท่านพ่อลี การก่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งได้ลงมือสร้างเป็นปฐม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2510 และ ได้สำเร็จเป็นองค์พระบริบูรณ์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2512
Read more »

พระพุทธสกลสีมามงคล หรือ “หลวงพ่อขาว” พระพุทธรูปนั่งปางประทานพรสีขาว ตั้งโดดเด่นอยู่บนยอดเขากลางป่าเขียว วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

__1_188

เมื่อครั้งที่ หลวงปู่เมตตาหลวง (หลวงปู่สิงห์ สุนฺทโร)
มาพำนักจำพรรษาอยู่ ณ วัดพระศรีมหาธาตุ วรมหาวิหาร กรุงเทพฯ นั้น
ท่านได้มาศึกษาปฏิบัติอยู่กับ ท่านพ่อลี ธัมมธโร แห่งวัดอโศการาม
ต.ท้ายบ้าน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ซึ่งภายหลังท่านจึงติดตามพ่อท่านลี
ออกธุดงค์เดินทางไปภาคอีสาน ออกวิเวกตามสถานที่ต่างๆ
จนกระทั่งมาถึงดงพญาเย็น ท่านได้พักปฏิบัติธรรมอยู่ ณ ที่นั้น
ซึ่งเป็นเชิงเขาที่ชาวบ้านเรียกกันว่า “เขาสีเสียดอ้า” หรือ “เขาเทพพิทักษ์”
บริเวณหมู่บ้านกลางดง ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา

ต่อมาท่านพ่อลี มีดำริที่จะสร้าง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว)
ขึ้นมาพร้อมๆ กับสร้าง พระพุทธรูปองค์ใหญ่องค์หนึ่ง บนภูเขาสีเสียดอ้า
กระทั่งมีคณะศรัทธาญาติโยมมาร่วมแรงร่วมใจกันสร้างวัดและพระพุทธรูป
ในปี พ.ศ. ๒๕๑๐ โดยวัดสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๒
แต่พระพุทธรูปยังไม่ทันจะสร้างแล้วเสร็จ ท่านพ่อลีก็มรณภาพลงเสียก่อน

Read more »

นมัสการ “หลวงพ่อขาว”ที่ วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

37_201009081101441.

ถ้าเอ่ยถึงหลวงพ่อขาว หลายคนคงนึกถึงพระเกจิอาจารย์สักรูปอันเป็นที่เคารพนับถือ ในวัดแห่งใดแห่งหนึ่ง แต่ถ้าถามถึงหลวงพ่อขาวกับชาวโคราชแล้ว คนเมืองนี้ส่วนใหญ่ หากไม่ร้องอ๋อ!?! ก็อาจจะพยักหน้าหงึกๆยืนยันว่ารู้จักดี เพราะหลวงพ่อขาว เป็นพระพุทธรูป สีขาวนวลองค์มหึมา ที่ตั้งตระหง่านโดดเด่นเป็นสง่าอยู่บนริมยอดเขา ในวัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดพระขาว”

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม หรือ วัดพระขาว ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอันพิสุทธิ์ร่มรื่นเขียวครึ้ม ณ เชิงเขาสีเสียดอ้าหรือ เขาเทพพิทักษ์ หมู่บ้านกลางดง ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา วัดแห่งนี้ สร้างขึ้นจากดำริของ พระอาจารย์ท่านพ่อลี (พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์) ในปี พ.ศ. 2510 และแล้วเสร็จปี พ.ศ. 2512

วัดแห่งนี้มีชื่อเสียงโด่งดังเพราะเป็นที่ประดิษฐาน“พระพุทธสกลสีมามงคล” (ชื่อพระราชทาน)หรือที่ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” ตามรูปลักษณ์และขนาดของพระพุทธรูปองค์นี้ ที่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน ในระยะหลายกิโลเมตร

Read more »

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อำเภอปากช่อง,นครราชสีมา

paragraph_10_303
วัดเทพพิทักษ์ปุณณารามตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า ตำบลกลางดง ทางฝั่งขวาของทางหลวงหมายเลข 2 บนถนนมิตรภาพ หลักกิโลเมตรที่ 150 มีทางแยกเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร เป็นถนนราดยาง ที่วัดแห่งนี้มีพระพุทธรูปปางสมาธิสีขาวองค์ใหญ่ ชื่อว่า พระพุทธสกลสีมามงคล สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาแลเห็นได้แต่ไกล

ขอขอบคุณ http://www.thai-tour.com/

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

paragraph_511

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า ตำบลกลางดง แยกจากทางหลวงหมายเลข ๒ (นครราชสีมา-สระบุรี) หลักกิโลเมตรที่ ๑๕๐ ไปตามถนนลาดยางอีก ๓ กิโลเมตร เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทาน จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ ๙ ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่”

เป็น พระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๗ เมตร สูง ๔๕ เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน ๑๑๒ เมตรหรือ ๕๖ วา หมายถึง พระพุทธคุณ ๕๖ ประการ ส่วนความสูงขององค์พระ ๔๕ เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ ๔๕ พรรษา หรือเรียกว่าทรงทำพุทธกิจอยู่ ๔๕ พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้ว ทางขึ้นไปนมัสการองค์พระเป็นบันไดแยกออกสองข้าง เป็นรูปโค้งเว้าเหมือนขอบใบโพธิ์ นับรวมทั้งด้านซ้ายและขวาทั้งหมด ๑,๒๕๐ ขั้นซึ่งหมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกัน โดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา

ขอขอบคุณ http://www.sadoodta.com

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม (วัดพระขาว)

วัดเทพพิทักษ์ปุณณารามตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า หมู่บ้านกลางดง เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นชื่อที่ ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” หลวงพ่อขาว ขนาดหน้าตักกว้าง 27.25 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตร ทางซ้ายและทางขวาขององค์พระพุทธรูปสร้างโค้งเว้าในลักษณะใบโพธิ์ บันไดทั้งหมด มี 1250 ขั้น หมายถึงจำนวน พระอรหันต์ที่ ไปชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชาองค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เหนือพื้นดิน 112 เมตรหรือ 56 วา หมายถึง พระพุทธคุณ 56 ประการองค์พระสูง 45 เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ 45 พรรษา หรือเรียกว่า ทรงทำพุทธกิจอยู่ 45พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้ว

ขอขอบคุณ http://www.paiduaykan.com/

พิ ชิ ต 1,250 ขั้ น บั น ไ ด ณ วั ด พ ร ะ ข า ว … ป า ก ช่ อ ง

Phra_Khao03

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
พิชิต 1,250 ขั้นบันได ณ วัดพระขาว … ปากช่อง
วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า หมู่บ้านกลางดง ทางฝั่งขวาของทางหลวงหมายเลข ๒ (ถนนมิตรภาพ) ซึ่งนักเดินทางบนถนนมิตรภาพสามารถมองเห็นองค์พระพุทธรูปสีขาวตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนไหล่เขา เมื่อเดินทางมาถึงตรงหลักกิโลเมตรที่ ๑๕๐ มีทางแยกเข้าไปอิก ๒ กิโลเมตร มีถนนราดยางเข้าไปถึงวัด ซึ่งเมื่อเข้าไปถึงบริเวณภายในวัดสามารถสัมผัสกับความรู้สึกที่สงบ ร่มเย็น เหมาะสำหรับการเข้าไปหยุดสักการะ เปรียบเสมือนหนึ่ง ขอพรในนาทีแรกที่ย่างก้าวสู่ประตูอีสาน

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม เกิดขึ้นจากดำริของ พระอาจารย์ท่านพ่อลี (พระสุทธิธรรมรังสีคัมภีรเมธาจารย์) ที่จะสร้างวัดขึ้น ณ เชิงเขาสีเสียดอ้าไปพร้อมๆ กับ การสร้างพระพุทธรูปไว้บนเนินเขา

การสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ได้ทำการขยายส่วนมาจาก พระพุทธรูป ภ.ป.ร. ซึ่งเป็นพระพุทธรูป ปางประทานพร

สำหรับผู้ที่เป็นผู้นำสำคัญในการก่อสร้าง วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม พร้อมกับพระพุทธรูปองค์นี้ คือ พลเอกพงษ์ ปุณณกัณต์ ซึ่งได้เริ่มสร้างตั้งแต่ครองยศเป็นพลโท และตามจารึกปณิธานวัจนะ ซึ่งบรรจุอยู่ภายในองค์พระพุทธรูปบอกไว้ว่า เนื่องจากผู้สร้างได้รำลึกถึงโอวาทของพระอาจารย์ท่านพ่อลี การก่อสร้างพระพุทธรูปองค์นี้ ซึ่งได้ลงมือสร้างเป็นปฐม เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2510 และ ได้สำเร็จเป็นองค์พระบริบูรณ์ เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน 2512

Read more »

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม นครราชสีมา

d843b22e16175dcd993b3dc9e15a71_178_196_fit

ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง แยกจากทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-สระบุรี) หลักกิโลเมตรที่ 150 ไปตามถนนลาดยางอีก 3 กิโลเมตร เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ ขนาดหน้าตักกว้าง 27 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตรหรือ 56 วา หมายถึง พระพุทธคุณ 56 ประการ ส่วนความสูงขององค์พระ 45 เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ 45 พรรษา หรือเรียกว่าทรงทำพุทธกิจอยู่ 45 พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้วทางขึ้นไปนมัสการองค์พระเป็นบันไดแยกออกสองข้าง เป็นรูปโค้งเว้าเหมือนขอบใบโพธิ์ นับรวมทั้งด้านซ้ายและขวาทั้งหมด 1,250 ขั้นซึ่งหมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกัน โดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา

ขอขอบคุณ http://thai.tourismthailand.org/

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม พระพุทธสกลสีมามงคล “หลวงพ่อขาว”

watthepphitak

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า หมู่บ้านกลางดง ทางฝั่งขวาของทางหลวงหมายเลข ๒ (ถนนมิตรภาพ) ตรงหลักกิโลเมตรที่ ๑๕๐ มีทางแยกเข้าไปอิก ๒ กิโลเมตร มีถนนราดยางเข้าไปถึงวัด

ที่วัดนี้มีพระพุทธรูปปางประทานพรสีขาว ขนาดใหญ่ ชื่อว่า “พระพุทธสกลสีมามงคล” ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า หลวงพ่อขาว ขนาดหน้าตักกว้าง ๒๗.๒๕ เมตร สูง ๔๕ เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน ๑๑๒ เมตร ทางซ้ายและทางขวาขององค์พระพุทธรูป

สร้างโค้งเว้าในลักษณะใบโพธิ์ บันไดทั้งหมด มี ๑,๒๕๐ ขั้น หมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกันโดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา

องค์พระพุทธรูปประดิษฐานอยู่เหนือพื้นดิน ๑๑๒ เมตรหรือ ๕๖ วา หมายถึง พระพุทธคุณ ๕๖ ประการ

องค์พระสูง ๔๕ เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ ๔๕ พรรษา หรือเรียกว่า ทรงทำพุทธกิจอยู่ ๔๕ พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้ว

ขอขอบคุณ http://www.dhammathai.org

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม

วัดเทพพิทักษ์ปุณณาราม อำเภอปากช่อง จ.นครราชสีมา เป็นวัดที่ประดิษฐาน “พระพุทธสกลสีมามงคล” เป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ชาวบ้านทั่วไปมักเรียกว่า “หลวงพ่อขาว” หรือ “หลวงพ่อใหญ่” เป็นพระพุทธรูปในพระอิริยาบทนั่งปางประทานพรสีขาวขนาดใหญ่ ขนาดหน้าตักกวัาง 27 เมตร สูง 45 เมตร สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก โดดเด่นอยู่บนยอดเขาสูงจากระดับพื้นดิน 112 เมตรหรือ 56 วา หมายถึง พระพุทธคุณ 56 ประการ ส่วนความสูงขององค์พระ 45 เมตร หมายถึง พระพุทธองค์โปรดเวไนยสัตว์อยู่ 45 พรรษา หรือเรียกว่าทรงทำพุทธกิจอยู่ 45 พรรษา หลังจากที่ตรัสรู้แล้วทางขึ้นไปนมัสการองค์พระเป็นบันไดแยกออกสองข้าง เป็นรูปโค้งเว้าเหมือนขอบใบโพธิ์ นับรวมทั้งด้านซ้ายและขวาทั้งหมด 1,250 ขั้นซึ่งหมายถึง จำนวนพระอรหันต์ที่ไปชุมนุมกัน โดยมิได้นัดหมายในวันมาฆบูชา

การเดินทาง ตั้งอยู่บริเวณเขาสีเสียดอ้า ตำบลกลางดง แยกจากทางหลวงหมายเลข 2 (นครราชสีมา-สระบุรี) หลักกิโลเมตรที่ 150 ไปตามถนนลาดยางอีก 3 กิโลเมตร

ขอขอบคุณ http://www.touronthai.com/

ประวัติศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ( กิ้วอ๋อง )

1505

ปฏิสนธิของประวัติกิ้วอ๋อง ซึ่งเดิมอยู่ที่เมืองจีนของจังหวัดกั่งส่าย ซึ่งเป็นที่สักการะบูชาของพวกคณะงิ้วเป็นอย่างมาก
แรกเริ่มเดิมทีของเรื่อง คือ ครั้งสมัยหนึ่งประมาณการผ่านไปเจ็ดสิบกว่าปีแล้วมีงิ้วคณะหนึ่งได้นำคณะล่องใต้ไปแสดงตามสถานที่ต่างๆ คณะงิ้วจะต้องอัญเชิญ กิ้วอ๋อง ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขานับถือ สักการบูชาอย่างสูงให้ท่านติดตามไปคุ้มครอง ปกปักรักษาให้พวกเขาอยู่เย็นเป็นสุขตลอดมา
ต่อมาคณะงิ้วดังกล่าวได้เดินทางมาถึงจังหวัดภูเก็ต ก็ได้เริ่มทำการแสดงอยู่ที่ซอยรมณีย์ทางด้านวัดมงคลนิมิต ( ซึ่งคนพื้นเมืองของจังหวัดภูเก็ตเรียกซอยรมณีย์ว่า อ่างอ่าหล่าย ) คณะงิ้วได้มาอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตนานพอประมาณ ระหว่างที่คณะงิ้วอยู่ภูเก็ตนั้นก็ได้จัดให้มีพิธีกินผัก ( กินเจ ) กัน ซึ่งพวกงิ้วได้ถือปฏิบัติสืบอายุเป็นตอนๆ มา พิธีการกินเจคือเริ่มขึ้นประมาณเดือน 9 ขึ้น 1 ค่ำ ของปฏิทินจีน ( เก้าโง้ยโช่ยอีด ) ก่อนถึงวันกินเจ พวกงิ้วจะปัดกวาด ล้างชำระสถานที่เครื่องใช้ หม้อข้าว ถ้วยชาม และสิ่งของที่จะประกอบในพิธีให้สะอาด ผู้ที่จะร่วมในพิธีจะต้องแต่งตัว นุ่งขาวห่มขาว ในพิธีการกินเจมีทั้งหมด 9 วัน 9 คืน
ในสมัยนั้นก็มีพี่น้องชาวภูเก็ต ทั้งคนจีน และคนไทย ก็ได้เข้าร่วมในพิธีการถือศีลกินเจกับคณะงิ้วด้วย พี่น้องชาวภูเก็ตของเราก็ได้ศึกษา ปฏิบัติ พิธีการต่างๆ ตั้งแต่วันเริ่มงานกินเจจนเสร็จพิธี ในพิธีการกินเจนี้ เขาจะมีพิธีขึ้นเสาโกเต้ง มีตะเกียงน้ำมัน 9 ดวง ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพิธีการกินเจได้เริ่มขึ้นแล้ว ในพิธีการกินเจก็มีการประทับทรงพระ ทำพิธี ลุยไฟ สะเดาะเคราะห์ อาบน้ำมันซึ่งกำลังเดือด พิธีไหว้เทวดา มีการแห่ขบวนไปตามถนนสายต่างๆ พอครบกำหนด 9 วัน 9 คืน ก็เป็นอันเสร็จพิธีการกินเจ
เมื่อพวกคณะงิ้วเสร็จสิ้นการแสดงงิ้ว ต่างก็เก็บข้าวเก็บของเตรียมเดินทางกลับภูมิลำเนาของตน หัวหน้าคณะงิ้วได้พิจารณาเห็นว่าพี่น้องชาวภูเก็ตทั้งคนจีนและคนไทยมีความเลื่อมใสศรัทธาในพิธีการถือศีลกินเจ พวกคณะงิ้วได้อัญเชิญเหี่ยวโห้ย และสิ่งของต่างๆ ซึ่งมีความจำเป็นจะต้องใช้ในพิธีการกินเจให้ไว้กับพี่น้องชาวภูเก็ตไว้ดำเนินพิธีการกินเจสืบทอดต่อไป พี่น้องชาวภูเก็ตต่างพร้อมใจกัน จัดตั้งเป็นศาลเจ้าขึ้นที่อ่างอ่า หล่าย ( ซอยรมณีย์ )
Read more »

ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย

juitui-shrine

เดิมศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ตั้งอยู่ที่ซอยอ่างอ่าหล่าย (ซอยรมณีย์) ต่อมาได้เกิดไฟไหม้บริเวณบ้านเรือนลามมายังบริเวณศาลเจ้า ชาวบ้านจึงได้อัญเชิญเฮี้ยวโห้ย (ไฟศักดิ์สิทธิ์) มาฝากไว้ที่ศาลเจ้าปุดจ้อ และเมื่อถึงประเพณีกินผักก็ได้อัญเชิญมายังศาลเจ้าชั่วคราว ที่ชาวบ้านสร้างขึ้น ณ สวนพลูข้างศาลเจ้าปุดจ้อ ต่อมาเจ้าของสวนพลูได้ถวายที่ให้กับ “พระกิ้วอ่องไต่เต” ่สร้างเป็นศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง ซึ่งหลังแรกเป็นเรือนหลังคามุงจากต่อมา ชาวบ้านได้มาร่วมพิธีกินผักมากขึ้นจึงได้มีการพัฒนาศาลเจ้าเรื่อยมาตราบจนถึงปัจจุบัน จึงได้มีการก่อตั้ง “มูลนิธิจุ้ยตุ่ยเต้าโบ้เก้ง” เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2546

ขอขอบคุณ http://www.phuketvegetarian.com/

. . . . . . .
. . . . . . .