วัดพระธาตุจอมปิง ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 บ้านจอมปิง ตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา อยู่ห่างจากอำเภอเมืองลำปางไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ 26 กิโลเมตร ตามตำนานกล่าวว่าสร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าติโลกราชแห่งอาณาจักรล้านนาไทย วัดพระธาตุจอมปิงเป็นวัดโบราณ วัดนี้มีความมหัศจรรย์ของการเกิดเงาสะท้อนเป็นภาพสีธรรมชาติขององค์พระธาตุ ผ่านรูเล็กบนหน้าต่างมาปรากฏบนพื้นภายในพระอุโบสถตลอดเวลาที่มีแสงสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน
วัดพระธาตุจอมปิง บนเส้นทางจากตัวเมืองลำปางถึงอำเภอเกาะคาแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังบ้านจอมปิง อีกประมาณ 13 กิโลเมตร ก็จะถึงยังบริเวณ วัดพระธาตุจอมปิง จะเห็นองค์พระธาตุสีทองตั้งเด่นอยู่ เข้าไปนมัสการองค์พระประธานในพระวิหารก่อน จากนั้นก็เดินไปยังโบสถ์หลังเก่าซึ่งตั้งขนานอยู่กับองค์พระธาตุ ตลอดเวลา ที่มีแสงอาทิตย์เมื่อเข้าไปยังโบสถ์หลังเก่า จะมีคุณลุงคอยบริการทุกท่านอยู่ ค่อยๆปิดประตูโบสถ์ความมืดเข้ามาแทนที่ สักพักเมื่อสายตาท่านปรับสภาพ เข้ากับความมืดได้แล้ว มองบนกระดานผ้าขาวที่คุณลุงปูไว้ ท่านก็จะเห็น เงาพระธาตุที่ผ่านมาทางรอยแตก จากบานหน้าต่างของโบสถ์ เงาพระธาตุสีทองเห็นเด่นชัดบนผ้าขาวน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ประวัติวัดพระธาตุจอมปิง วัดพระธาตุจอมปิง ตั้งอยู่ที่หมู่ที่ 5 บ้านจอมปิง ตำบลนาแก้ว อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง จากตัวเมืองลำปางไปทาง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ระยะทาง 26 กิโลเมตร พระนางจามเทวี ขณะมาสร้างวัดพระธาตุลำปางหลวงเสร็จแล้วก็ได้มา สร้างวัดพระธาตุจอมปิงอีก จากนั้นวัดก็ร้างไป ต่อมาท่านนันทปัญญา พี่เลี้ยงของพระเจ้าลกคำ(เจ้าติโลกราช เจ้าเมืองเชียงใหม่) ได้มา ทำการบูรณะ ซึ่งเมืองนี้มีชื่อว่า จุมภิตาราม ท่านนันทปัญญามีเพื่อนชื่อ อ้ายจอมแพร่ ทั้งสองได้สร้างวัดคนละวัด วัดที่อ้ายจอมแพร่สร้าง คือ วัดจอมปิงลุ่มปัจจุบันนี้ วัดที่ท่านนันทปัญญาสร้างชื่อวัดจอมพี่เลี้ยง (วัดพระธาตุจอมปิง) ถึงพุทธศักราช 2000 ได้เกิดศึกพระยาใต้(สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยุธยา)ยกทัพมาประชิดเมืองลำปาง เจ้าหมื่นด้งนครไม่อยู่ไป ราชการที่เชียงใหม่ เหลือแต่พระนางจามเทวีกำลังตั้งครรภ์เจ้าหาญแต่ท้อง ได้แต่งกายเป็นชายออก ไปสู้รบจนกองทัพพระยาใต้พ่ายไป เมื่อเจ้าหมื่น ด้งนครและเจ้าติโลกราชทราบ ก็ยกกองทัพจากเมืองเชียงใหม่มาช่วยสถาน ที่รบเรียกว่า “มหาสนุก” และได้ฉลองชัยชนะที่วัดนี้ พระนางได้สร้างเจดีย์ไว้องค์หนึ่ง ส่วนสัณฐานดังกองข้าวเปลือก ได้ตั้งชื่อเสียใหม่ว่า “วัดจอมพิงค์ชัยมงคล” จนเพี้ยนมาเป็น จอมปิงในปัจจุบันพระบรมธาตุ กว้าง 18 เมตร สูง 34 เมตร ถูกฟ้าผ่าในปีพุทธศักราช 2500 ได้ทำการบูรณะใหม่อีกครั้ง ปรากฏตามตำนานกล่าวว่า บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระวิหารหลวง กว้าง 14.50 เมตร ยาว 29 เมตร หลังที่เห็นปัจจุบันครูบาศรีวิชัยบูรณะ เมื่อปีพุทธศักราช 2470 ภายในมีพระพุทธรูป ปางมารวิชัยเป็นประธาน กว้าง 2.20 เมตร สูง 7.30 เมตร
ขอขอบคุณ http://m.touronthai.com/ และ http://wachira.lpc.rmutl.ac.th/