Archive for the ‘ขอพรหลวงพ่อ วัดในภาคตะวันออก’ Category

ตะลึง!รูปคล้ายพญานาคงานธาตุพนม

วันทำพิธีนั้นทางวัดจะทำพานพญานาคขนาดใหญ่ตั้งโต๊ะบรวงสรวงหน้าองค์พระธาตุพนมลานชั้นในและตั้งแท่นประทับพญานาคทั้ง 7 องค์ ในขณะประชาชนตลอดจนร่างทรงโอรสธิดาพญานาคจากทั่วประเทศไทยจะเดินทางมาพบกันโดยมิได้นัดหมายโดยจะช่วยกันทำพานพญานาคตั้งโต๊ะบูชารอบองค์พระธาตุพนมเพื่อประกอบพิธีบรวงสรวง โดยเวลาตี 2 เป็นเวลาพิธีสำคัญคือการประทับร่างทรงของหลวงพ่อพญานาค ทั้ง 7 องค์ ที่ดูแลรักษาองค์พระธาตุพนม

ขณะเดียวกันในช่วงพิธีประทับร่างทรง ได้มีเหตุการณ์ประหลาดเกิดขึ้น เหมือนทุกปี เนื่องจากจะมีบรรดาร่างทรง รวมถือผู้ที่อ้างตนว่าเป็นร่างทรงลูกพญานาค บางรายมีเกิดอาการคลุ้มคลั่ง หรือแสดงกริยาท่าทางแปลก สร้างความสนใจให้กับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมงานเป็นอย่างมาก ใช้เวลาทำพิธีประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนประกอบพิธีเจริญพระพุทธมนตร์ จนถึงรุ่งเช้า Read more »

ไหว้พระธาตุประจำปีเกิด วัดพระธาตุพนมเป็นพระธาตุประจำปีวอก

wat_pra_that_phanom001

พระธาตุพนมวรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ต.ธาตุพนม อ.ธาตุพนม จ.นครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม ตามตำนานอุรังคธาตุ กล่าวว่า ท้าวพญาทั้งห้าผู้เป็นใหญ่ ได้แก่พญาสุวรรณภิงคาร เจ้าเมืองหนองหานหลวง พญาคำแดง เจ้าเมืองหนองหานน้อย พญาจุลณีพรหมทัต เจ้าเมืองจุลนีพรหมทัต พญาอินทรปัตถ์ เจ้าเมืองอินทปัตถนคร และพญานันทเสน เจ้านครศรีโคตรบูรณ์อันเป็นที่ตั้งของพระธาตุ ได้สร้างอูบมูงขึ้นเพื่อประดิษฐานพระอุรังคธาตุ ตามพุทธพยากรณ์ โดยก่อสร้างด้วยดินดิบ (อิฐดิบ) ฐานพระธาตุพนมได้ขุดลงไปจนเป็นอูบมุง (อุโมง) เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กระดูกส่วนหน้าอก เมื่อก่อด้วยดินดิบเสร็จแล้ว Read more »

พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม

pratatphanom200

พระธาตุพนม
ตั้งอยู่ที่ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร
อำเภอธาตุพนม ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูง สถาปัตยกรรมมีแหล่งที่มาเดียวกับปราสาทขอม สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1200-1400 ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า ในวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2518 เวลา 19.30 น. มีเหตุการณ์ที่น่าสลดคือ พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระ ประจวบกับเกิดพายุฝนตกติดต่อกันหลายวัน ชาวไทยจึงได้ร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ ตามแบบเดิมและได้บรรจุของมีค่ามากมาย โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ มีน้ำหนัก 110 กิโลกรัม

ขอขอบคุณ http://www.hamanan.com

สักการะพระธาตุประจำวันเกิดที่นครพนม

1

นครพนม เป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน นับเป็นเมืองชายแดนที่มีความอุดมสมบูรณ์ ความสวยงามของทิวทัศน์และมีความหลากหลายของวัฒนธรรมและชาติพันธุ์ รวมทั้งประวัติศาสตร์ที่ยาวนาน สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนมจะมีทั้งวัดวาอารามและสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจ
ทริปนี้บ้านแสนสุขจะพานักท่องเที่ยวไปกราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์จากองค์พระธาตุประจำวันเกิดและสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในจังหวัดนครพนม Read more »

วัดพระธาตุพนมวรวิหาร

untitled

วัดพระธาตุพนมวรวิหาร คือ พระธาตุประจำปีเกิดนักษัตร ของ ปีวอก (ลิง) และยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญทางพระพุทธศาสนา ของชาวเมืองจังหวัดนครพนม ในทุก ๆ ปี จะมีงานนมัสการพระธาตุพนมประจำปี โดยเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 12 ค่ำ ถึงวันแรม 1 ค่ำเดือน 3 จะมีนักท่องเที่ยวแวะมานมัสการองค์พระธาตุพนมในทุก ๆ ปี เพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเอง

ขอขอบคุณ http://www.painaidii.com

พระธาตุพนม สถาปัตยกรรมที่สวยงาม

พระธาตุพนม สถาปัตยกรรมที่สวยงามที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาตินิยมไปเที่ยวกันมากมาย ใครๆ ที่ยังไม่เคยไปเที่ยวห้ามพลาดเด็ดขาด มีเวลาว่างควรหาโอกาศเหมาะๆ ไปเที่ยวรับรองว่าจะต้องอยากไปอีกเป็นหนที่สองแน่

พระธาตุพนม

พระธาตุพนม จังหวัดนครพนม เป็นเจดีย์สำคัญของภาคอีสาน แต่ชาวไทยในภาคอีสานตลอดจนบริเวณฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงตอนใกล้เคียงเรียก พระเจดีย์ ว่าพระธาตุ เช่นพระธาตเชิงชุม จังหวัดสกลนคร พระธาตุศรีสองรัก จังหวัดเลย และพระธาตุเรณูที่อยู่ไม่ไกลจากพระธาตุพนมนัก พระธาตุพนมมีอายุเก่าแก่และงดงามกว่าพระธาตุองค์อื่นๆ Read more »

ลักษณะสถาปัตยกรรม วัดพระธาตุพนม

รูปลักษณะพระธาตุเป็นรูปสี่เหลี่ยมก่อด้วยอิฐ มีลวดลายสลักลงบนแผ่นอิฐสวย งามมาก มีซุ้มกั้นด้านและซุ้มซ้อนกันสามชั้น ลดหลั่นกันลงมา แล้วจึงถึงองค์พระสถูป เบื้องบนยอดพระธาตุหุ้มทองคำประดับพลอยสวยงามมาก สมเด็จพระกรมพระยาดำรงราชานุภาพ พระบิดาแห่งประวัติศาสตร์ไทย ทรงกล่าวถึงพระธาตุพนมไว้ใน นิทานโบราณคดีเรื่องแม่น้ำโขง ตอนหนึ่งว่า

“..พระเจดีย์ธาตุพนมอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง สร้างเป็นสถูปทางพระพุทธ ศาสนาจะสร้างตามลัทธิมหายานหรือหินยาน ไม่มีที่สังเกตเหมือนอย่างที่พิมาย แต่ไม่ มีเค้าศาสนาพราหมณ์เจือปนอยู่เลย บรรดาเจดีย์สถานในพระพุทธศาสนาซึ่งสร้าง ใน สมัยของเขมรที่พบในเมืองไทย ที่สร้างสถูปเป็นประธานมีแต่พระธาตุพนมแห่งเดียว ทั้ง รูปสันฐานลวดลายก็เป็นอย่างอื่นต่างจากแบบช่างขอม ชวนให้เห็นว่าจะสร้างสมัยขอม คือ สร้างในสมัย เมื่อประเทศอันหนึ่งซึ่งเรียกในจดหมายจีนว่า “ฟูนัน” คล้าย “พนม “ เป็นใหญ่อยู่ต่างหาก รูปทรงพระเจดีย์ธาตุพนมเป็นสี่เหลี่ยมเหมือนมณฑป มีซุ้มต้น สามซุ้มซ้อนกันเป็นสามชั้น เล็กเป็นหลั่นกันขึ้นไป แล้วถึงองค์พระสถูปอยู่เบื้องบน มณฑปทั้ง ๓ ชั้น ยอดสถูปหุ้มแผ่นทองคำ เช่นเดียวกับพระธาตุเมืองมหาธาตุเมือง นครศรีธรรมราช ขนาดพระสถูปดูจะเท่า ๆ กัน

ขอขอบคุณ http://www.thatphanomriverviewhotel.com

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม

ประวัติความเป็นมา

พระธาตุพนมประดิษฐาน ณ วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ตามตำนานกล่าวว่าสร้างมานานไม่น้อยกว่า ๒,๓๐๐ ปี ผู้ที่สร้าง คือ พระ มหากัสปะพร้อมด้วยพระอรหันต์ ๕๐๐ องค์ ได้นำพระอุรังคธาตุหรือกระดูกหน้าอก ของสมเด็จพระสัมมนาพุทธเจ้ามาเพื่อบรรจุไว้ในพระธาตุผู้ที่ร่วมช่วยในการสร้างพระ ธาตุนี้คือ ท้ายพระยาเมืองต่าง ๆ พญานันทเสน เมืองศรีโคตรบูรณ์ (เมืองนครพนม เดิม) พญาจุลนีพรหมทัด พระยาอินทรปัตนคร และพญาดำแดง เมืองหนองหารน้อย พากันยกโยธามาช่วยสร้างพระธาตุพนมจนเสร็จและบรรจุอุรังคธาตุพร้อมของมีค่าไว้ ภายในเป็นจำนวนมาก

ในปี พ.ศ. 2485 ได้รับการยกฐานะเป็น พระอารามหลวงชั้นเอกขึ้นเป็น “วรมหาวิหาร” ต่อมาในวันที่ 11 สิงหาคม 2518 เวลา 19.38 น. พระธาตุพนมได้ล้มทลายลงทั้งองค์ เนื่องจากความเก่าแก่ขององค์พระธาตุพนม และประจวบกับระหว่างนั้นฝนตกพายุพัดแรงติดต่อมาหลายวัน ประชาชนทั้ง ประเทศได้ร่วมบริจาคทุนทรัพย์และรัฐบาลได้ก่อสร้างองค์พระธาตุขึ้นใหม่ตามแบบเดิม การก่อสร้างนี้เสร็จ สิ้นเมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2522 นอกจากพระบรมสารีริกธาตุที่บรรจุในองค์พระธาตุแล้ว ยังมีของมีค่ามาก มายนับหมื่นชิ้น โดยเฉพาะฉัตรทองคำบนยอดพระธาตุ มีน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม ปัจจุบันองค์พระธาตุ มีฐานกว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.60 เมตร เป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงแลดูสง่างาม
ความสำคัญต่อชุมชน
พระธาตุพนมนี้เป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วไป โดย เฉพาะอย่างยิ่งชาวภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมถึงประชาชนลาวด้วย ในฤดูเทศกาล เพ็ญเดือน ๓ ของทุกปี พุทธศาสนิกชนหลั่งไหลมาจากทุกสารทิศ มาสมโภชและนมัสการพระธาตุพนม Read more »

ประวัติพระธาตุพนม

พระธาตุพนม ประดิษฐานอยู่ ณ วัดพระธาตุพนมวรวิหาร ริมฝั่งแม่น้ำโขง ตำบล และอำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม สถานที่ประดิษฐานองค์พระธาตุ อยู่บนภูกำพร้า หรือดอยกำพร้า ภาษาบาลีว่า กปณบรรพตหรือ กปณคีรี ริมฝั่งแม่น้ำขลนที อันเป็นเขตแขวงนครศรีโคตบูรโบราณ
ตามตำนานพระธาตุพนม ในอุรังคนิทานกล่าวว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก โดยทางอากาศ ได้มาลงที่ดอนกอนเนา แล้วเสด็จไปหนองคันแทเสื้อน้ำ (เวียงจันทน์) ได้พยากรณ์ไว้ว่า ในอนาคตจะเกิดบ้านเมืองใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนา จากนั้นได้เสด็จไปตามลำดับ ได้ทรงประทานรอยพระพุทธบาทไว้ที่ โพนฉัน (พระบาทโพนฉัน) อยู่ตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แล้วเสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมืองมรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขง ไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตบูร พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุอิงฮังเมืองสุวรรณเขต) แล้วกลับมาทำภัตกิจ (ฉันอาหาร) ที่ภูกำพร้าโดยทางอากาศ Read more »

ประวัติวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

ตามตำนานพระธาตุพนม ในอุรังคนิทานกล่าวว่า สมัยหนึ่งในปัจฉิมโพธิกาล พระพุทธเจ้า พร้อมทั้งพระอานนท์ ได้เสด็จมาทางทิศตะวันออก โดยทางอากาศ ได้มาลงที่ดอนกอนเนา แล้วเสด็จไปหนองคันแทเสื้อน้ำ (เวียงจันทน์) ได้พยากรณ์ไว้ว่า ในอนาคตจะเกิดบ้านเมืองใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธศาสนา จากนั้นได้เสด็จไปตามลำดับ ได้ทรงประทานรอยพระพุทธบาทไว้ที่ โพนฉัน (พระบาทโพนฉัน) อยู่ตรงข้ามอำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย แล้วเสด็จมาที่ พระบาทเวินปลา ซึ่งอยู่เหนือเมืองนครพนมปัจจุบัน ได้ทรงพยากรณ์ที่ตั้งเมืองมรุกขนคร (นครพนม) และได้ประทับพักแรมที่ภูกำพร้าหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเสด็จข้ามแม่น้ำโขง ไปบิณฑบาตที่เมืองศรีโคตรบูรณ์ พักอยู่ที่ร่มต้นรังต้นหนึ่ง (พระธาตุอิงฮังเมืองสุวรรณเขต) แล้วกลับมาทำภัตกิจ (ฉันอาหาร) ที่ภูกำพร้าโดยทางอากาศ พญาอินทร์ได้เสด็จมาเฝ้าและทูลถามพระพุทธองค์ ถึงเหตุที่มาประทับที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์ได้ตรัสว่า เป็นประเพณีของพระพุทธเจ้าทั้ง 3 พระองค์ ในภัททกัลป์ที่นิพพานไปแล้ว บรรดาสาวกจะนำพระบรมสารีริกธาตุ มาบรรจุไว้ที่ภูกำพร้า พระพุทธองค์เมื่อนิพพานแล้ว พระมหากัสสปะ ผู้เป็นสาวก ก็จะนำเอาพระบรมสารีริกธาตุมาบรรจุไว้ ณ ที่นี้เช่นกัน จากนั้นพระพุทธองค์ก็ได้ทรงปรารภถึงเมืองศรีโคตบูร และมรุกขนคร แล้วเสด็จไปหนองหารหลวง ได้ทรงเทศนาโปรดพญาสุวรรณพิงคาระ และพระเทวี ประทานรอยพระพุทธบาทไว้ ณ ที่นั้น แล้วเสด็จกลับพระเชตวัน หลังจากนั้นก็เสด็จปรินิพพานที่เมืองกุสินารา Read more »

วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร

paragraph__1_418

วัดพระธาตุพนม วรมหาวิหาร เป็นวัดพระอารามหลวง ชั้นเอก ชนิดวรมหาวิหาร ปัจจุบันมี พระเทพวรมุนี เป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2549-ปัจจุบัน ประดิษฐาน ณ ริมฝั่งแม่น้ำโขง ถนนชยางกูร บ้านธาตุพนม ตำบลธาตุพนม อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม มีลักษณะเป็นเจดีย์รูปสี่เหลี่ยมจตุรัสก่อด้วยอิฐ กว้างด้านละ 12.33 เมตร สูง 53.6 เมตร มีกำแพงล้อมองค์พระธาตุ 4 ชั้น องค์พระธาตุตั้งอยู่บนภูกำพร้า (เนินดินสูงจากพื้นธรรมดาประมาณ 3 เมตร) ภายในบริเวณมีบึงขนาดใหญ่เรียกว่าบึงธาตุพนม ในวันเพ็ญเดือน 3 ถึง แรม 1 ค่ำ เดือน 3 ของทุกปีจะมีงานประจำปีเพื่อเป็นการนมัสการพระธาตุพนม

ขอขอบคุณ http://th.wikipedia.org

ประวัติ หลวงพ่อโสธร วัดโสธรวรารามวรวิหาร (วัดหลวงพ่อโสธร)

อันบุญบารมีอภินิหารความศักดิ์สิทธิ์ เป็นสิ่งมหัศจรรย์ที่ใครๆ จะปฏิเสธไม่ได้เลย และจะแข่งขันให้เท่าเทียมกันนั้นก็ได้ยาก จะมีบ้างก็บางสถานที่ บางท่านบางคนทั้งยังเป็นสิ่งที่เหนือเหตุผลของการพิสูจน์ ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า สิ่งมหัศจรรย์นั้นเป็นอจินตัยไม่ควรคิดค้นหาเหตุผล ความศักดิ์สิทธิ์อภินิหารจะดลบันดาลให้เกิดมีเฉพาะผู้มีบุญวาสนา และผู้เลื่อมใสศรัทธาเชื่อมั่นเท่านั้น หลวงพ่อโสธรองค์หนึ่งที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์มีอภินิหารเป็นพระพุทธรูปที่ทรงอานุภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นมิ่งขวัญของชาวจังหวัดฉะเชิงเทรา และเป็นที่รู้จักเคารพบูชาของประชาชนทั้งหลาย หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้างประมาณ 1 ศอกเศษ ปรางค์ขัดสมาธิเพชร แต่ได้เสริมแต่งขึ้นจากเดิมโดยพอกปูนลงลักปิดทองให้เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ หน้าตักกว้าง 3ศอก 5 นิ้ว พระเนตรเนื้อเลียนแบบพระสมัยลานช้าง หรือเรียกกันสามัญว่า “พระลาว” ซึ่งพระชนิดนี้มีชื่อว่าวัดหงษ์

โดยที่วัดนี้มีเสาใหญ่ มีหงษ์เป็นเครื่องหมายติดอยู่กับยอดเสา วัดนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำบางปะกงด้านทิศตะวันตก สถานที่ตั้งวัดแต่ดั้งเดิมนั้น เวลานี้ถูกน้ำเซาะพังเป็นแม่น้ำไปหมดแล้ว วัดนี้ใครเป็นผู้สร้างและสร้างขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฏ แต่ได้ความว่าเป็นวัดเก่าแก่สร้างมานานแล้ว ต้นเหตุที่วัดนี้ได้ชื่อว่า โสทรหรือ โสธร นั้นเล่ากันว่ากาลต่อมาหงษ์ใหญ่ที่ติดอยู่บนยอดเสานั้น พลัดตกลงมาหักทำลายคงเหลือแต่เสา จึงได้เอาผ้าผืนใหญ่ทำเป็นธงขึ้นไปแขวนไว้บนยอดเสาแทนหงษ์ประชาชนก็เลยเรียกชื่อตามนิมิตเครื่องหมายนั้นว่า วัดเสาธง นานมาเสาธงนี้ได้ถูกลมพายุพัดหักโค่นลงมาเป็น 2 ท่อน ชาวบ้านก็เลยถือเอานิมิตที่เสาธงหักเป็นท่อนนั้นตั้งเป็นชื่อวัดว่า “วัดเสาทอน” อยู่สิ้นกาลช้านาน จวบจนถึงสมัยที่มีพระพุทธรูป 3 องค์ พี่น้องล่องลอยน้ำมาจากเหนือ และในจำนวนพระพุทธรูป 3 องค์ นั้นได้อาราธนาอัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานไว้ที่วัดนี้ 1 องค์ คือ หลวงพ่อโสธร และปรางหลังครั้งหลังก่อนหลวงพ่อโสธรจะมีชื่อเรียกมาอย่างไรไม่มีใครทราบ Read more »

เส้นทางไปวัดโสธรวรารามวรวิหาร

b654ca14-ae0f-5caf-d286-528c93dcc2ff

วิธีการเดินทาง
จากกรุงเทพ มุ่งหน้าสู่จังหวัดฉะเชิงเทราโดยถนนสายมอเตอร์เวย์ ขับมาจนถึงทางออกสู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เข้าสู่ทางหลวงหมายเลข 314 ขับไปตามทาง เมื่อเข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เลี้ยวเข้าถนนเทพคุณากร ตรงไปตามทางจะเห็นวัดโสธรฯ อยู่ทางด้านขวามือ
– วัดโสธรฯ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00-16.30 น. และ 7.00-17.00 น. ในวันหยุดต่างๆ

– การเข้าไปภายในอุโบสถ ควรแต่งกายสุภาพ ผู้หญิงไม่ควรนุ่งกางเกง กระโปรงสั้น และไม่ควรสวมเสื้อแขนกุด

– ถ้าหากแต่งกายไม่เรียบร้อย บริเวณด้านหน้าอุโบสถ มีเสื้อคลุมไว้คอยให้บริการแก่ทุกคนก่อนเข้าไปยังภายใน

– ภายในอุโบสถหลังใหม่ ไม่อนุญาตให้จุดธุปเทียนภายใน รวมถึงการปิดทองที่องค์พระด้วย แต่ถ้าหากต้องการนมัสการปิดทอง ที่อาคารด้านข้างของวัด จะประดิษฐานองค์หลวงพ่อโสธรจำลองไว้ให้ประชาชนทั่วไปได้กราบไหว้ขอพร และปิดทอง รวมถึงการแก้บนต่างๆ ก็จะทำกันที่บริเวณ

ข้อมูลทั่วไป
ที่อยู่ : 134 ถนนเทพคุณากร ตำบลหน้าเมือง อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา 24000
GPS : 13.674305, 101.067162
เบอร์ติดต่อ : 0 3851 1048 begin_of_the_skype_highlighting 0 3851 1048 FREE end_of_the_skype_highlighting
E-mail : watsothorn@hotmail.com
Facebook : https://www.facebook.com/watsothornwararam
เวลาทำการ : วันธรรมดา 7.00-16.30 น. วันหยุดต่างๆ 7.00-17.00 น.
ค่าธรรมเนียม : ไม่มีค่าธรรมเนียม
ช่วงเวลาแนะนำ : ตลอดทั้งปี
ไฮไลท์ : พระอุโบสถที่มีขนาดใหญ่ และมีความสวยงามที่สุด ซึ่งภายในประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธร และมีภาพจิตรกรรมฝาผนังโดยรอบ
กิจกรรม : สักการะขอพรจาก หลวงพ่อพุทธโสธร เดินเล่นตลาดนัดตอนเย็นบริเวณข้างวัด

ขอขอบคุณ http://www.thetrippacker.com

 

วัดโสธรฯ สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้าน ศรัทธาคู่เมืองแปดริ้ว

1e9b77ed-9572-0850-8c5c-528c91ce2115

ในวันหยุดสุดสัปดาห์ที่มีเวลาว่างอยู่อย่างจำกัด เชื่อว่าใครๆ ก็คงอยากจะหาสถานที่ท่องเที่ยวใกล้ๆ แบบที่สามารถเดินทางแบบเช้าไปเย็นกลับได้ และถ้ายิ่งไม่ต้องใช้เวลาเดินทางนานๆ ก็คงจะยิ่งดีขึ้นไปอีก ด้วยเงื่อนไขเหล่านี้เอง คราวนี้เราจึงขอพาทุกคนไปเที่ยวกันใกล้ๆ ที่จังหวัดฉะเชิงเทรา และแน่นอนว่าถ้าพูดถึงเมืองแปดริ้ว สถานที่สำคัญแห่งแรกที่ต้องนึกถึงนั่นก็คือ “วัดโสธรฯ” ซึ่งแน่นอนว่าเป้าหมายแรกของเราก็คือ การไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองแปดริ้วกันเสียก่อน

“วัดโสธรฯ” ที่เราเรียกกันติดปากนั้น มีชื่อเต็มว่า “วัดโสธรวรารามวรวิหาร” ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง เดิมมีชื่อว่า “วัดหงษ์” สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ซึ่งประดิษฐาน “หลวงพ่อพุทธโสธร” หรือที่ชาวบ้านมักเรียกกันว่า “หลวงพ่อโสธร” พระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองแปดริ้ว เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ตามประวัติที่เล่าต่อกันมานั้น ว่ากันว่าหลวงพ่อโสธรลอยตามน้ำมา และมีผู้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัดแห่งนี้ แต่เดิมองค์พระเป็นรูปหล่อสำริดมีความสวยงามมาก แต่พระสงฆ์ในวัดเกรงว่าจะมีผู้มาลักพาไป จึงได้นำเอาปูนมาพอกหุ้มองค์พระไว้ทั้งองค์ ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อโสธรจึงมีประชาชนหลั่งไหลมาอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งเราจะเห็นว่าทุกวันจะมีผู้คนมานมัสการปิดทองหลวงพ่อโสธรเป็นจำนวนมาก บ้างก็มาเพื่ออธิฐานขอพรให้ท่านคุ้มครอง บ้างก็มาบนบานศาลกล่าวให้สมปรารถนา Read more »

ไหว้หลวงพ่อโสธร ท่องเมืองแปดริ้ว

พูดถึง ฉะเชิงเทรา ใคร ๆ ก็ต้องนึกถึง หลวงพ่อโสธร เพราะใครต่อใครที่ไปเยี่ยมเยือนเมืองแปดริ้วแห่งนี้ก็มักจะตั้งใจไปกราบนมัสการองค์หลวงพ่อกันเป็นหลัก

ตรงหน้าทางเข้าจะมีบริการดอกไม้ธูปเทียนของทางวัดจัดไว้ให้ ชุดละ 20 บาท ตอนจ่ายเงินก็ให้หยอดลงตู้ได้เลย
ทางวัดจะจัดที่ทางให้จุดธูปเทียนบูชา อยู่ด้านนอกอุโบสถชั่วคราว
ถ้ามากันช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ก็ต้องทำใจกันนิดว่าผู้คนจะล้นหลามประมาณนี้ หรือไม่ก็มาให้เช้าสักนิด ที่นี่จะเปิดกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า
ถ้าใส่รองเท้ามีราคามา จะมาฝากเจ้าหน้าที่เขาดูแลให้ก่อนเข้าไปในพระอุโบสถก็ได้
ผู้คนที่มีจิตศรัทธาพากันหลั่งไหลมานมัสการและปิดทององค์หลวงพ่อโสธรกัน

เล่าประวัติกันหน่อย

พระพุทธโสธร หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า หลวงพ่อโสธร มีประวัติเล่ากันมาว่า มีพระพุทธรูปสามองค์ลอยน้ำมาจากทางเหนือ มาผุดขึ้นที่แม่น้ำปางปะกงในลักษณะที่ลอยทวนน้ำ ชาวบ้านพยามจะเอาเชือกคล้องเพื่ออัญเชิญขึ้นฝั่งแต่ก็ไม่สำเร็จและพระพุทธรูปก็จมน้ำหายไป ชาวบ้านเลยเรียกบริเวณนั้นว่า สามพระทวน ที่เดี๋ยวนี้เพี้ยนไปเป็น สัมปทวน ต่อมาพระพุทธรูปองค์หนึ่งก็ไปปรากฏที่แม่น้ำแม่กลอง ชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นประดิษฐานอยู่ที่วัดบ้านแหลม เรียกว่า “หลวงพ่อวัดบ้านแหลม” อีกองค์ไปพบลอยอยู่ที่คลองบางพลี สมุทรปราการ ชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นไว้ที่วัดบางพลี และองค์ที่สามก็คือ พระพุทธโสธร นี่เองที่มาลอยอยู่ที่หน้าวัดและชาวบ้านได้อัญเชิญขึ้นมาประดิษฐานที่วัด Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .