Archive for the ‘ขอพรหลวงพ่อ วัดในภาคกลาง’ Category

ตำนานวัดพระศรีสรรเพชญ์และพระมงคลบพิตร

ตำนานในประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่มีการเล่าขานสืบต่อๆกันมาตั้งแต่ในอดีตบางตำนานก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันและบางตำนานก็ได้รับการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทำให้มีการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ในหลายๆครั้งมาแล้ว

ตำนานที่ผมจะนำมาเล่าในคราวนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “วัดพระศรีสรรเพชญ์” และ “พระมงคลบพิตร” หรือบางท่านก็เรียกว่าหลวงพ่อมงคลบพิตรบางท่านอาจจะได้อ่านเรื่องราวต่างๆมาบ้างแล้วและบางท่านก็ยังไม่ทราบผมจึงจะนำข้อเขียนในหนังสือเก่าที่มีผู้เขียนไว้มาเล่าสู่กันฟังครับ…

…วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดในพระราชวัง ไม่มีพระสงฆ์ (ดังเช่นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว) เป็นที่ข้าราชการประชุมกันรับพระราชทานน้ำพิพัฒน์สัตยา แต่แรกยกวังทำเป็นวัดในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ จะได้ทรงสร้างอะไรไว้บ้างก็ไม่ได้กล่าวถึง มาจนถึงแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ จุลศักราช ๘๓๖ ปีว่าได้ประดิษฐานพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถไว้ในพระมหาสถูป สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระเจดีย์ใหญ่องค์หน้า หรือไม่ก็องค์กลาง ส่วนอีก ๒ องค์นั้นก็คงจะประดิษฐานพระอัฐิของพระเจ้าแผ่นดินเช่นกัน

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา

Wat-Phrasisanpeth-1

วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดในพระบรมมาหราชวัง นับเป็นต้นแบบของวัดในพระบรมมหาราชวังของสมัยรัตนโกสินทร์ คือวัดพระศรีรัตรศาสดาราม เนื้อความในพงศาวดารฯระบุถึงจุดเริ่มต้นวัดพระศรีสรรเพชญ์ว่าคราว สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงโปลดเกล้าให้ย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือ จึงยกที่เดิมเพื่อสร้างพุทธาวาสในเขตพระราชวัง และความในพระราชพงศาวดารได้สันนิษฐานเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 หรือพระราชโอรสของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้สร้างเจดีย์ขึ้นสององค์ทางองค์ตะวันออกและองค์กลาง เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิพระราชบิดาและพระเชษฎา จากนั้นในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร) ได้สร้างเจดีย์เพิ่มอีกหนึ่งองค์ทางทิศตะวันตก เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2

ตามหลักฐานวัดพระศรีสรรเพชญ์ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (ปีละ 2 ครั้ง) ตลอดจนใช้เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ เป็นต้น

Read more »

พระศรีสรรเพชญ์ [ สถานที่ท่องเที่ยว – พระนครศรีอยุธยา ]

SRISANPHET-AROND

ความสำคัญ

1. อยู่ในพระราชวังหลวง เหมือนกับ

– วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ( วัดพระแก้ว ) – กรุงเทพ

– วัดมหาธาตุ – กรุงสุโขทัย

2. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับ

3. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิม

ให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อ

เป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์

TAT-Ayutthaya-Si_Sanphet01

วัดพระศรีสรรเพชญ์เดิมเป็นพระราชวังที่ประทับซึ่งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างขึ้น ต่อมาพ.ศ. 1991 ในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรดให้ย้ายพระราชวังไปสร้างใหม่ทางด้านริมแม่น้ำลพบุรี และอุทิศพระราชวังเดิมให้เป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์จึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แต่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญทางศาสนา และพระราชพิธีอื่นๆ ของรัฐ อาทิ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา หรือเสด็จออกบำเพ็ญพระราชกุศลในวโรกาสต่างๆ เช่นเดียวกับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ด้วย

การสร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์จึงเป็นการย้ายศูนย์กลางความศรัทธามาสู่พระราชวัง รวมอำนาจทั้งศาสนาจักรและอาณาจักรมาไว้ที่พระมหากษัตริย์

สัญลักษณ์โดดเด่นของวัดแห่งนี้คือ เจดีย์ทรงระฆังคว่ำสามองค์ตั้งเรียงกันในแนวตะวันออก-ตะวันตก สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของกษัตริย์อยุธยา 3 พระองค์ หากเข้ามาจากด้านวิหารพระมงคลบพิตร เจดีย์องค์ขวาเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ องค์กลางของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และองค์ซ้ายของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์

dsc8537

วัดพระศรีสรรเพชญ์ …….. เป็นวัดที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามที่กรุงเทพฯ และวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ แล้วโปรดฯ ยกให้เป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวัง ที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ต่อมาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออกเพื่อบรรจุอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. 2035 องค์กลางบรรจุ พระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระเชษฐาธิราช ในปี พ.ศ. 2042 ทรงสร้างพระวิหาร และในปีถัดมา ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา หรือ 16 เมตร หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง ถวายพระนามว่า ” พระศรีสรรเพชญดาญาณ ” ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระก็เสียหายมาก เจดีย์องค์ที่ 3 ถัดมาทางทิศตะวันตก เป็นเจดีย์บรรจุ พระอัฐิของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น

ขอขอบคุณ http://www.hamanan.com/

วัดพระศรีสรรเพชญ์

วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีพื้นที่ ๒๘ ไร่ เดิมเป็นพระราชวังหลวงของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เคยมีปราสาท ๓ หลังได้แก่ พระที่นั่งไอยศวรรย์มหาปราสาท ไพฑูรย์มหาปราสาทนาน ๙๘ ปี (๘ รัชการ) จนถึงสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พ.ศ. ๑๙๙๑ โปรดให้ย้ายพระราชวังขยายเขตไปทางด้านทิศเหนือ ริมแม่น้ำลพบุรี (คลองเมือง) แล้วถวายพื้นที่นี้เป็นเขตพุทธาวาส (ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา)

พ.ศ.๒๐๓๕ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ โปรดให้สร้างพระเจดีย์ ๒ องค์พร้อมกัน คือ องค์ทางด้านทิศตะวันออก และองค์กลาง เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชบิดา) และบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ (พระเชษฐา) ตามลำดับ

พ.ศ.๒๐๔๒ – ๒๐๔๓ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ โปรดให้สร้างวิหารหลวงนามว่า วิหารพระศรีสรรเพชญ์ และหล่อพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ สูง ๑๖ เมตร พระพักตร์ยาม ๒ เมตร กว้าง ๑.๕ เมตร พระอุระกว้าง ๕.๕ เมตร ใช้ทองสำริดหล่อเป็นแกนในน้ำหนัก๐๗o๕๒๘ กิโลกรัม (๕๘๐๐๐ ชั่ง) หุ้มด้วยทองคำน้ำหนัก ๓๔๗.๗๗๖ กิโลกรัม (๒๘๖ ชั่ง) แล้วถวายนามว่า พระพุทธศรีสรรเพชญดาญาณ และเบื้องหน้ามีพระพุทธสิหองส์ประดิษฐานอีก ๑ องค์

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานคร หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือ และอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวัง และโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

ต่อมาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ใหญ่สององค์เมื่อ พ.ศ.2035 องค์แรกทางทิศตะวันออกเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระราชบิดา และองค์ที่สองคือองค์กลางเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระบรมเชษฐา ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ทรงสร้างพระวิหารขนาดใหญ่และในปี พ.ศ.2043 ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา (16 เมตร) หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร พระนามว่า “พระศรีสรรเพชญดาญาณ” ซึ่งภายหลังเมื่อคราวเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด ในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญชิ้นส่วนชำรุดของพระประธานองค์นี้ลงมากรุงเทพฯ และบรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้น แล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า “เจดีย์สรรเพชญดาญาณ”

สำหรับเจดีย์องค์ที่สามถัดมาทางทิศตะวันตก สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร) พระราชโอรสได้โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระรามา ธิบดีที่ 2 เจดีย์สามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา ระหว่างเจดีย์แต่ละองค์มีมณฑปก่อคั่นไว้ ซึ่งคงจะมีการสร้างในราวรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และมีร่องรอยการบูรณะปฏิสังขรณ์หนึ่งครั้งในราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามได้มีการบูรณะเจดีย์แห่งนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์

oldcity02

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา พระราชวังหลวงหรือพระราชวังโบราณข้อมูล ตั้งอยู่ติดกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ทางด้านทิศเหนือ สันนิษฐานว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชวังตั้งแต่เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เวียงเล็กเมื่อ พ.ศ. 1890 และเมื่อสร้างพระราชวังเสร็จในปี พ.ศ. 1893 จึงย้ายมาประทับที่พระราชวังใหม่ริมหนองโสน ปราสาทในครั้งแรกนี้สร้างด้วยไม้อยู่ในบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1991 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงถวายที่บริเวณปราสาทให้เป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์วัดในเขตพระราชวัง แล้วทรงสร้างปราสาทใหม่เลื่อนไปทางเหนือชิดกับแม่น้ำลพบุรี

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทยคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 30 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 60 บาท ชาวต่างประเทศ 180 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน อันได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ติดโผสถานที่สุดหลอนในเอเชีย

b10

วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นวัดหลวงในพระราชวังโบราณ อยุธยา ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ซึ่งเป็นต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดอื่นๆ ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา รวมไปถึงวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ “สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง”

จนมาถึงปัจจุบันนี้ วัดพระศรีสรรเพชญ์ กลายเป้นแหล่งท่องเที่ยงที่โด่งดัง ด้วยความสวยงามที่แสดงถึงเอกลักษณ์ควมเป็นไทย จึงทำให้ทั้งคนไทนและชาวต่างชาติต่างนิยมมาท่องเที่ยวที่วัดนี้กันเป็นอย่างมาก

กระทั่งล่าสุด เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้ทำการจัดอันดับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวชวนพิศวงในเอเชีย วัดพระศรีสรรเพชญ์ ของไทยเราก็ติดโผชวนหลอนด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกทางเลยก็ว่าได้ ซึ่งเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกได้นำเสนอ 10 สถานที่สุดหลอนในเอเชีย ผ่านรายการ I Wouldn’t Go In There “วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระนครศรีอยุธยา” ติด Top10

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ Wat Phra Sri Sanphet

เป็นวัดหลวงที่ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ จึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาสเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง ใช้ประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง และเก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์ เป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา (ต้นแบบของวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร) ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์แบบลังกา 3 องค์ที่ตั้งตะหง่านเป็นจุดเด่นที่ยังคงเป็นจุดที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมอยู่เสมอ ให้ได้จินตนาการดูก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามของกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ยังเป็นราชธานี

ขอขอบคุณ http://www.chillpainai.com/

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา

20130922132337

ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

20130922132436

ขอขอบคุณ http://www.uasean.com/

วัดพระศรีสรรเพชญ์ : สุสานกษัตริย์อยุธยา

พระมหากษัตริย์ในสมัยที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ทรงมีพระราชนิยมในการสร้าง ศาสนสถาน ซึ่งได้แก่ วัดวาอารามต่าง ๆ เสมอมา วัดที่พระมหากษัตริย์ทรงสร้างนั้น เรียกว่า พระอารามหลวง จึงปรากฏพระอารามหลวงมากมายหลายแห่ง ทั้งในและนอกเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา อาทิเช่น วัดพุทไธสวรรย์ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดพระราม เป็นต้น พระอารามหลวงเหล่านี้มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ศิลปะและโบราณคดี ซากปรับหักพังที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นประจักษ์พยาน แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาติบ้านเมืองในอดีตได้เป็นอย่างดี พระอารามหลวงที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ตลอดสมัยที่กรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี ได้แก่ “ วัดพระศรีสรรเพชญ์ ”
วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้องอยู่ที่ ต. ประตูชัย อ. พระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดิมเคยเป็นพระบรมมหาราชวังของพระมหากษัตริย์กรุงศรีอยุธยา แต่ต่อมาในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงสร้างพระบรมมหาราชวังขึ้นใหม่ ทางด้านทิศเหนือของพระราชวังองค์เดิมติดกับแม่น้ำลพบุรี และถวายพระบรมมหาราชวังองค์เดิมให้เป็นวัด ซึ่งได้แก่วัดพระศรีสรรเพชญ์ ความสำคัญในอดีตนั้น เทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในกรุงเทพมหานคร คือเป็นที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำระพิพัฒน์สัตยา เป็นต้น วัดนี้ปรากฏพระมหาธาตุเจดีย์องค์ใหญ่สามองค์เรียงกันจนถือเป็นสัญลักษณ์ของจังหวัดพระนครศรีอยุธยาในปัจจุบัน
ประวัติความเป็นมา

ประวัติความเป็นมาของวัดพระศรีสรรเพชญ์นั้น อาจแบ่งออกได้เป็นสองช่วง คือ ช่วงแรกในฐานะเป็นพระบรมมหาราชวังและช่วงหลังในฐานะเป็นพระอารามหลวง
1. ในฐานะเป็นพระบรมมหาราชวัง
ตามพระราชพงศาวดารกล่าวว่าสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระเจ้าอู่ทอง ( 1893 – 1912 ) ทรงสถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี เมื่อวันศุกร์ที่ 3 เมษายน 1893 และทรงโปรดให้สร้างพระที่นั่งขึ้น 3 องค์ คือ พระที่นั่งไพฑูรย์มหาปราสาท พระที่นั่งไพยนต์มหาปราสาท และพระที่นั่งไอศวรรย์มหาปราสาท ณ ตำบลหนองโลม
ต่อมาในรัชกาลสมเด็จพระราเมศวร ( พ.ศ. 1912 – 1913 และ 1931 – 1938 ) ปรากฏชื่อพระที่นั่งมังคลาภิเษกเพิ่มขึ้นอีก 1 องค์ และในรัชกาลพระบรมราชาธิราชที่ 2 ( พ.ศ. 1967 – 1991 ) ปรากฏพระที่นั่งตรีมุขอีก 1 องค์ แต่ในปัจจุบันไม่ปรากฏตำแหน่งของพระที่นั่งดังกล่าวมานั้นเลย ทั้งนี้อาจเป็นเพราะพระที่นั่งเหล่านั้นสร้างด้วยเครื่องไม้ ซึ่งอาจถูกไฟไหม้หรือพังทลายสูญหายไปหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามปัจจุบันภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ปรากฏพระที่นั่งจอมทอง 1 องค์ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของพระวิหารหลวง แต่ไม่พบหลักฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใด ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่าเป็นพระที่นั่งองค์ใดองค์หนึ่งตามที่กล่าวนานมาแต่ได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นพระที่นั่งจอมทองในสมัยหลัง
Read more »

ประวัติวัดพระศรีสรรเพชร อยุธยา

วัดพระศรีสรรเพชญ ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ เป็นวัดพุทธาวาสที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาเพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง และเก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวัง ในกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์สามองค์ที่ตั้งตะหง่านเป็นจุดเด่น แต่ยังคงเป็นจุดที่ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามา เยี่ยมชม อยู่เสมอ และเมื่อได้ลองจินตนาการดูก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามของกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ยังเป็นราชธานี
ประวัติวัดพระศรีสรรเพชร อยุธยา
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงสร้าง พระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ แล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัย ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ “สร้างเพื่อ เป็นวัดประจำพระราชวัง” ต่อมาในปีพ.ศ. 2035รัชสมัยของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้าง พระสถูป เจดีย์องค์ตะวันออก เพื่อบรรจุพระอัฐิของพระราชบิดา สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ และพระสถูปเจดีย์องค์กลางเพื่อบรรจุพระอัฐิ ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 ผู้เป็นพระเชษฐาหลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2042พระองค์โปรดให้สร้างพระวิหารหลวงขึ้นในปีต่อ มาพ.ศ. 2043 สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระวิหาร ทรงหล่อพระพุทธรูป ยืนสูง 8 วา (ประมาณ 16 เมตร) หุ้มด้วยทองคำ หนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร ถวายพระนามว่าพระศรีสรรเพชญดาญาณซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระพังยับเยินรัชกาลที่ 1จึงโปรดเกล้าฯให้ย้ายมาประดิษฐานวัดพระเชตุพนและ บรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า เจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณเจดีย์ องค์ที่ 3 ถัดมาจากด้านทิศตะวันตกเป็น เจดีย์บรรจุพระอัฐิ ของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร) พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น เจดีย์ทั้งสามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ จ.พระนครศรีอยุธยา

wat-phrasisanphet1

ตั้งอยู่ระหว่าง วิหารพระมงคลบพิตร และ พระราชวังโบราณ เป็นวัดหลวงในพระราชวังหลวงของกรุงศรีอยุธยา เหมือนอย่างเช่น วัดมหาธาตุ ของกรุงสุโขทัย อันเป็นต้นแบบของการสร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม (วัดพระแก้ว) ในพระราชวังของกรุงรัตนโกสินทร์? บริเวณที่ตั้งของวัดนั้นเดิมทีเป็นพระราชวังของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง ปฐมกษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา ที่สร้างขึ้นก่อน เมื่อปี พ.ศ. 1893
ครั้นรัชสมัย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เมื่อปี พ.ศ. 1991 โปรดฯ ให้สร้างพระราชวังขึ้นใหม่บริเวณริมแม่น้ำลพบุรี ส่วนพระราชวังเดิมให้เป็นเขตพุทธาวาส เพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา พระราชพิธี และเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิพระมหากษัตริย์รวมทั้งพระญาติ โดยไม่มีพระสงฆ์จำพรรษาอยู่ภายในวัด

ศาสนสถานและปูชนียวัตถุภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ?ประกอบด้วย
พระวิหารพระศรีสรรเพชญ์ เป็นศาสนสถานที่สำคัญในการประกอบพระราชพิธี และเป็นที่บรรจุพระโกศพระบรมอัฐิพระมหากษัตริย์ สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 เมื่อปี พ.ศ. 2042 ภายในประดิษฐาน พระศรีสรรเพชญ์ พระพุทธรูปยืนขนาดใหญ่ สูง 16 เมตร สร้างด้วยสำริดบุด้วยทองทั้งองค์ โดยพระองค์โปรดฯให้สร้างขึ้น ด้านหลังองค์พระประดิษฐานด้วย พระพุทธสิหิงค์ ปัจจุบันประดิษฐานอยู่ที่ พระที่นั่งพุทไธสวรรย์ ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร
คราวเสียกรุงครั้งที่สอง เมื่อปี พ.ศ. 2310 ข้าศึกได้เผาและลอกทองคำออก จนองค์พระเสียหายอย่างมาก รัชกาลที่ 1 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้โปรดฯ ให้ย้ายชิ้นส่วนองค์พระมาประดิษฐานไว้ในเจดีย์ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์) โดยพระราชทานนามเจดีย์ว่า เจดีย์ศรีสรรเพชญดาญาณ
พระวิหารพระไตรโลกนาถ ตั้งอยู่ด้านทิศเหนือพระวิหารหลวง ภายในประดิษฐานพระโลกนาถ ภายหลังรัชกาลที่ 1 โปรดฯให้อัญเชิญมาประดิษฐาน ณ วัดพระเชตุพน Read more »

พระศรีสรรเพชญ์ (Wat Phra Si Sanphet)

002

เป็นวัดสำคัญที่สุดของราชสำนักอยุธยา มีฐานะเป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์ ซึ่งอยู่ในเขตพระราชฐาน จึงไม่มีพระสงฆ์จำอยู่ในวัด
พื้นที่ตั้งของวัด เดิมเป็นที่ตั้งของพระราชมณเฑียรอันเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ พระบรมไตรโลกนาถได้ทรงยกพื้นที่นี้ให้เป็นเขตพุทธาวาส เมื่อปี พ.ศ.1991 เรียกว่า วัดพระศรีสรรเพชญ์ แล้วย้ายบรรดาพระราชมณเฑียรเลยขึ้นไปทางทิศเหนือ ต่อจากเขตวัดไปจนจรดริมแม่น้ำลพบุรีในปัจจุบัน วัดพระศรีสรรเพชญ์ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (ปีละ 2 ครั้ง) ตลอดจนใช้เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ เป็นต้น

บริเวณใจกลางสุด มีพระเจดีย์ขนาดใหญ่ 3 องค์ สลับระหว่างกลางแต่ละองค์ด้วยมณฑปอีก 3 หลัง ปลายทิศตะวันตกของพระเจดีย์องค์สุดท้ายมีฐานของพระวิหารจัตุรมุข โดยตรงกลางมีเจดีย์บรรจุพระบรมอัฐิ ส่วนมุขทั้งสี่ด้านเชื่อว่าเคยมีพระพุทธรูปนั่ง ยืน นอน และเดิน ด้านทิศตะวันออกต่อกับเจดีย์องค์แรกเป็นวิหารสำคัญที่สุด เพราะบริเวณด้านท้าย ซึ่งเรียกว่า ท้ายจระนำ ใช้เป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์องค์ต่างๆ ในวิหารเคยมีพระพุทธรูปหุ้มทองคำหนัก 286 ชั่ง (หรือหนักเท่ากับ 12,880 บาท) ประทับยืนสูงถึง 8 วา มีพระนามว่า พระศรีสรรเพชญ์ ถือได้ว่าเป็นพระพุทธรูปที่สำคัญที่สุดในสมัยอยุธยา

Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .