กำแพงเพชรเป็นเมืองสำคัญเมืองหนึ่งในสมัยสุโขทัย สร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 19-20 ปรากฏชื่อครั้งแรกในจารึกวัดมหาธาตุและจารึกวัดพระศรีสรรเพชญ์ ในพระราชพงศาวดารกรุงศรีอยุธยาเรียกเมืองกำแพงเพชรนี้ว่า “เมืองชากังราว” หรือ “ชาดงราวกำแพงเพชร” มีฐานะเป็นเมืองลูกหลวงและเมืองพญามหานครของสุโขทัย
โบราณสถานที่น่าสนใจ
ฝั่งตะวันออก ในเขตกำแพงเมือง
วัดพระแก้ว อยู่กลางเมืองกำแพงเพชรเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโบราณสถานมรดกโลกบริเวณวัดประกอบด้วยเจดีย์ประธานที่ฐานมีสิงห์ล้อม เจดีย์ทรงกลมที่ฐานมีช้างรอบ วิหารมณฑป อุโบสถ และเจดีย์ราย ทั้งหมดล้อมรอบด้วยกำแพงศิลาแลง
วัดพระธาตุ ตั้งอยู่ด้านทิศตะวันออกของวัดพระแก้ว มีเจดีย์ฐานสี่เหลี่ยมเป็นประธานล้อมรอบด้วยระเบียงคดที่เชื่ยมต่อกับวิหารด้านทิศตะวันออก ข้างวิหารทั้ง 2 ด้าน มีเจดีย์รายอยู่ข้างละ 1 องค์ มีกำแพงแก้วล้อมรอบ
กำแพงเมืองกำแพงเพชร เป็นกำแพงชั้นเดียวสร้างเป็นเชิงเทิน มี 2 ตอน ตอนล่างเป็นเนินดินสูงประมาณ 4 เมตร ตอนบนก่อด้วยศิลาแลงเป็นเชิงเทิน มีใบเสมาและเจาะตรงกลางไว้สำหรับมองข้าศึก
บริเวณนครชุม ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำปิง
วัดพระบรมธาตุ ตั้งอยู่กลางเมืองนครชุม เป็นเจดีย์ที่พญาลิไทเสด็จมาสถาปนาและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ เมื่อ พ.ศ. ๑๙๐๐ เดิมเป็นเจดีย์ทรงพุ่มข้างบิณฑ์ 3 องค์ ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน ต่อมาพ่อค้าไม้ชาวกะเหรี่ยงได้ปฏิสังขรณ์เป็นเจดีย์แบบมอญ
วัดซุ้มกอ เป็นวัดขนาดเล็กอยู่ทางทิศใต้ของเมืองนครชุม เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ฐานแปดเหลี่ยม มีองค์ระฆังแบบลังกา เคยขุดพบพระเครื่อง “ซุ้มกอ” เป็นจำนวนมาก
บริเวณนอกเมือง
เขตอรัญญิก
วัดพระนาน มีกำแพงศิลาแลงปักล้อมรอบวัดทั้ง 4 ด้าน ฐานและเสาเป็นศิลาแลงมีทางเท้าปูด้วยศิลาแลง มีโบสถ์ขนาดใหญ่ตั้งอยู่ด้านหน้า ด้านหลังเป็นวิหารพระนอน ก่อสร้างด้วยเสาศิลาแลงขนาดใหญ่ หลักฐานทางประติมากรรมที่พบ คือ ใบเสมารูปเทพนม พาลีกับทรพี สันนิษฐานว่าสลักขึ้นในสมัยอยุธยา
วัดพระสี่อิริยาบถ หรือ วัดพระยืน มีกำแพงเป็นศิลาแลงปักตั้งล้อม 4 ด้าน ด้านหน้าวัดมีวิหารขนาดใหญ่ มีเสาลูกกรงเป็นศิลาแลงเหลี่ยม และมีทับหลังบนมุขหน้าวิหาร สิ่งสำคัญของวัด ได้แก่ มณฑปจัตุรมุข แต่ละทิศประดิษฐานพระพุทธรูป 4 ปาง คือ เดิน นั่ง ยืน นอน อยู่โดยรอบทั้ง 4 ทิศ ปัจจุบันเหลือเพียงพระยืนขนาดใหญ่ที่สวยงาม พระพักตร์เป็นลักษณะศิลปะสุโขทัยแบบกำแพงเพชร คือ พระนลาฏกว้าง พระหนุเสี้ยม
วัดช้างรอบ เป็นวัดที่สร้างบนเนิน มีเจดีย์ทรงลังกาซึ่งยอดหักพังหมดแล้ว มีบันไดทางขึ้นทั้ง 4 ด้าน ที่ชั้นฐานลานประทักษิณประดับด้วยช้างทรงเครื่องครึ่งตัว จำนวน 68 เชือก ระหว่างช้างแต่ละเชือกมีภาพปั้นรูปหลายพรรณพฤกษาในพระพุทธศาสนา เช่น ต้นโพธิ์และต้นสาละ เป็นต้น
อุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชรได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลก” ร่วมกับอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยและอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จากองค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2534
ผู้สนใจเข้าชมได้ทุกวัน เวลา 08.00 – 17.00 น. ค่าเข้าชม ชาวไทย 10 บาท ชาวต่างชาติ 40 บาท สำหรับผู้ที่จะนำรถเข้าชมบริเวณอุทยานฯ จะต้องเสียค่าผ่านประตูคันละ 50 บาท การใช้บริการรถไฟฟ้านำชมสามารถติดต่อโดยตรงที่โทรศัพท์ 0 5571 1044 ไม่เว้นวันหยุด
ไม่ว่านักท่องเที่ยวจะมาเป็นหมู่คณะ หรือมาส่วนตัว ค่าบริการถ้ามาเที่ยวเหมาคัน คันละ 200 บาท ถ้าเป็นรายบุคคล ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท ตลอดเส้นทาง สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่โทรศัพท์ 0 5571 1921, 0 5571 2528
การเดินทาง
จากตัวเมืองกำแพงเพชรประมาณ 5 กิโลเมตร ตามถนนสายกำแพงเพชร-พรานกระต่าย แล้วเลี้ยวซ้ายตรงกิโลเมตรที่ 360
ขอขอบคุณ http://travel.kapook.com/