ศาลเจ้าแสงธรรม หรือศาลเจ้าเต่งก่องต๋อง แปลว่า ศาลแห่งดวงประทีปสว่างไสวไม่มีวันแตกดับ แต่เดิมมีชื่อว่า ศาลเจ้าซินเจียเก้ง เป็นศาลเจ้าที่เก่าแก่ ยังคงมีสภาพสมบูรณ์ และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นทั้งด้านสถาปัตยกรรม และศิลปกรรม โดยบรรพบุรุษชาวจีนที่อพยพเข้ามาตั้งหลักแหล่งในจังหวัดภูเก็ตในยุคบุกเบิกได้ร่วมกันสร้างขึ้น ประมาณปี พ.ศ.2434 และได้รับการดูแลสืบต่อกันมาถึงปัจจุบัน ภายในศาลเจ้าสามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนด้านหน้า ชาวฮกเกี้ยน เรียกว่า ทีก้งตั๋ว เป็นสถานที่สำหรับบูชาทีก้งหรือเทพยดา ส่วนที่สอง เรียกว่า ฮับตั๋ว จะประกอบด้วยโต๊ะบูชา และมีรูปองค์พระต่างๆ เช่น องค์พระตันเส้งอ๋อง โก๊ยเส้งอ๋อง ฮัวโต๋เซียนสื้อ ท่านโส่ยเอี๋ย เป็นต้น เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้กราบไหว้บูชา
ส่วนผนังทั้งสองห้องนั้น ประกอบด้วยภาพวาดรูปเทพนิยายของจีนเรื่องซิยิ่นกุ้ย ซึ่งเป็นเรื่องในราชวงศ์ถังของจีน และภาพของ ส่าจับลักเทียนก้ง หรือสามสิบหกเทพสวรรค์ ส่วนที่สาม เรียกว่า ล่ายตั๋ว ประกอบด้วย ตั๋วกลาง มีรูปองค์พระอ๋องสุ้นต่ายส่าย ง้อสุ้น หยกสุ้น เกี่ยมต๋อง และอินต๋อง ส่วนทางขวามือ ประกอบด้วย องค์เจ้าแม่กวนอิม จู้แส้เนียวเนียว และป้ายบูชาเทียนเต่ก้งจ้อ ซ้ายมือประกอบด้วย องค์พระตันเส้งอ๋อง กวนอู หงอจินหยิน ส่ามต๋องอ๋อง และปุนเถ้าก้ง ในปี พ.ศ.2540 ศาลเจ้าแสงธรรม เคยได้รับพระราชทานรางวัลอนุรักษ์สถาบันดีเด่น จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี โดยการคัดเลือกของสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ ปี พ.ศ.2542 ได้รับการบูรณะศาลเจ้าครั้งใหญ่ โดยให้ยังคงสภาพเดิมไว้ทุกประการ ปี พ.ศ.2543 ได้ทำการเฉลิมฉลองศาลเจ้าที่มีอายุครบ 109 ปี ต่อมาในปี พ.ศ.2545 ได้นำช่างประเทศจีนมาทำการบูรณะตกแต่งประดับหลังคาศาลเจ้า โดยยังคงรูปแบบเดิมไว้ พร้อมทั้งซ่อมผนัง ประตูศาลเจ้า ให้มีสภาพสวยงามดังเดิม
สำหรับศาลเจ้าแสงธรรม ในขณะนี้กำลังมีการบูรณะศาลเจ้า เพื่อให้ลูกหลานชาวภูเก็ตได้กราบไหว้บูชาต่อไปในอนาคต โดยได้รับความกรุณาจากหลายท่านในการบริจาคที่ดิน เพื่อให้สามารถเดินทางเข้ามายังศาลเจ้าได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกันนี้ได้มีการก่อสร้างอาคารในลักษณะสไตล์ชิโนโปรตุกีส 2 ชั้น กว้าง 4.7 เมตร ยาว 25 เมตร เพื่อเป็นมูลนิธิศาลเจ้าแสงธรรมต่อไป ในการนี้ สำหรับผู้มีจิตศรัทธาท่านใดที่ประสงค์จะร่วมบุญบูรณะศาลเจ้าแสงธรรม สามารถบริจาคได้ที่ ศาลเจ้าแสงธรรม เลขที่ 9/5 ถนนพังงา ตำบลตลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต
ขอขอบคุณ http://www.phuketonlinenews.com/