วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางปะกง ในบริเวณพื้นที่ชายทะเลที่เป็นป่าชายเลน มีทางเดินเชื่อมจากบริเวณวัดที่ ชายฝั่งไปยังพระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์ และอุโบสถซึ่งอยู่ในทะเล เจดีย์มี 5 ชั้นมีภาพวาดเกี่ยว กับพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ไทย และประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ส่วนชั้นบนสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามบรรจุพระอรหันต์ธาตุ สามารถมองเห็นทัศนียภาพท้องทะเลและแผ่นดินในมุมสูงได้สวยงาม ทางเดินที่ทอดยาวไปในทะเลไปยัง “พระธาตุคงคามหาเจดีย์” ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทาง และมีข้อ ความและคติเตือนใจให้อ่านเล่นเพลินๆอีกด้วย จุดกึ่งกลางของทางเดินวัดหงษ์ทอง มีรูปปั้นพระอภัยมณี มีนางยักษ์ พระอภัย และตัวละครอีกหลายตัวตามวรรณคดี โดยมีสะพานไม้รอบๆ ให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้
วัดหงษ์ทอง
ภายใน“พระธาตุคงคามหาเจดีย์” ชั้นล่างประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง และพระพุทธรูปอื่นๆอีกมากมายไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธา ได้สักการะ และทางวัดได้มีการจัดให้มีการตักบาตรพระร้อย คือการตักบาตรโดยใช้เงินเหรียญ (สามารถแลกเหรียญได้กับทางวัด) ซึ่งมีพระพุทธรูปเป็นร้อยๆรูปตั้งอยู่ สามารถเดินได้โดยรอบ เมื่อขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารจะพบกับ หุ่นขี้ผึ้งเหมือนรูปจริง ของหลวงปู่สด หรือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ และบริเวณใกล้เคียงกัน มีองค์พระแก้วมรกตจำลอง ประดิษฐานอยู่ บริเวณชั้น 2 นี้ ยังเป็นแหล่งจัดแสดงภาพวาดของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงรัชกาลปัจจุบันและพระบรม วงศานุวงศ์ และยังมีจุดชมวิว ซึ่งเมื่อมองออกไปจะเห็นทะเลเมื่อถึงเวลาน้ำขึ้น จะดูเหมือนอาคารนี้ลอยอยู่ในน้ำเลยทีเดียวชั้นบน
สุดของ“พระธาตุคงคามหาเจดีย์” มีเจดีย์สีเหลืองทองตั้งเด่นอยู่ Read more »
Archive for the ‘วัดในฉะเชิงเทรา’ Category
วัดหงษ์ทอง
พุทธปัญจภาคีวารีปาฏิหาริย์ เล่าขานตำนานหลวงพ่อลอยน้ำ 5 พี่น้อง–ตำนานของ “หลวงพ่อโสธร” แห่งแม่น้ำบางปะกง วัดโสธรวรารามวรวิหาร อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา
ประวัติความเป็นมา
ประวัติความเป็นมาของหลวงพ่อโสธรหรือหลวงพ่อพุทธโสธรนี้ มีผู้เล่าสืบกันมาหลายกระแส บ้างว่า ท่านมีพี่น้องที่ลอยน้ำมาพร้อมกัน 3 องค์ คือ หลวงพ่อบ้านแหลม หลวงพ่อโตบางพลี และหลวงพ่อโสธร ส่วนอีกตำนานหนึ่งบอกว่า ท่านเป็นพี่น้องกับหลวงพ่อบ้านแหลมและหลวงพ่อวัดไร่ขิง และก็ยังมีนิยายปรัมปราที่เล่าสืบมาว่า ท่านลอยน้ำมาพร้อมกับหลวงพ่อบ้านแหลม และหลวงพ่อวัดเขาตะเครา
อย่างไรก็ตาม ตำนานที่เล่าขานกันมานี้ก็มีความคล้ายคลึงกันว่า พระพุทธรูป 3 องค์พี่น้องลอยน้ำมาจากทางเมืองเหนือ จนกระทั่งมาถึงแม่น้ำเจ้าพระยาตรงบริเวณที่ปัจจุบันเรียกว่า “สามเสน” จึงได้แสดงอภินิหารลอยให้ชาวเมืองเห็น ชาวบ้านจึงได้ทำการฉุดพระพุทธรูปทั้งสามองค์ โดยใช้เวลา 3 วัน 3 คืนก็ฉุดไม่ขึ้น กล่าวกันว่าครั้งนั้นใช้ผู้คนเป็นแสนๆ ก็ไม่สำเร็จ ตำบลนั้นจึงได้ชื่อว่า “สามแสน” ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “สามเสน” พระพุทธรูปทั้ง 3 องค์ก็จมน้ำลง Read more »
สักการะพระพิฆเนศใหญ่ที่สุดในโลก วัดสมานรัตนาราม
วัดสมานรัตนาราม อีก 1 สถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการเที่ยวเมืองแปดริ้ว นั่นคิอ วัดสมานรัตนาราม ที่แทบไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขโดยพระหัตถ์ซ้าย ถืองาที่ หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว โดยรอบฐานมีพระพิฆเนศ 32 ปางและเจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่มี่สุดในโลก และตอนนี้ยังมีโครงการสร้างพระพรหมที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอีกด้วย จึงไม่แปลกใจที่จะมีผู้คนจากทั่วสารทิศหลั่งไหลเข้ามาชมความสวยงามและสักการะเทพอันศักดิ์สิทธิ์ และนอกจากพระพิฆเนศแล้วยังมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้เข้ามาสามารถเข้ากราบสักการะขอพรได้อีกมากมาย อาทิเช่น หลวงพ่อโต พระประธานในพระอุโบสถหลังใหม่, หลวงพ่อองค์ดำ, หลวงพ่อประทานพร, พระโพธิสัตว์กวนอิม, พระราหู, พระอินทร์ทรงช้าง, จระเข้โหราเทพารักษ์, พ่อปู่ฤๅษี (พ่อแก่) เป็นต้น
วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง บ้านหมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางแก้ว (ตำบลไผ่เสวกเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา บริเวณวัดและรอบๆมีลักษณะเป็นเกาะล้อมรอบด้วยแม่น้ำบางปะกง
เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร)
ขอขอบคุณ http://www.thailandexhibition.com/
พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม
พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม เป็นพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในโลกโดยวัดสมานรัตนารามร่วมกับประชาชนผู้มีจิตศรัทธา จัดสร้างขึ้น โดยวางศิลาฤกษ์สร้างเมื่อวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๒ และสร้างเสร็จในวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๕๒ ใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวน ๑๔ ล้านเศษ โดยมีวัตถุประสงค์ในการก่อสร้างเพื่อให้ประชาชนในจังหวัดฉะเชิงเทราและประชาชนทั่วไปได้สักการะบูชาและขอพร พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนราม มีลักษณะเนื้อองค์ทำด้วยปูนปั้นองค์สีชมพูขนาดฐานความยาว ๒๔ เมตรสูง ๑๐ เมตรลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงพระหัตถ์ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว รอบฐานมีพระพิฆเนศ ๓๒ ปางด้านหน้าพระพิฆเนศมีรูปปั้นบริวารหนู ๕ ตนได้แก่หนูหูทิพย์,หนูตาทิพย์และหนูราชาโชคจำนวน๓ตนเป็นบริวารใต้ฐานองค์พระพิฆเนศจัดเป็นห้องพิพิธภัณฑ์แสดงวัตถุมงคลต่างๆ เปิดให้ประชาชนเข้าศึกษาเรียนรู้ Read more »
วัดสมานรัตนาราม
วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมานเพิ่มนคร) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ 11 ตำบลบางแก้ว (ตำบลไผ่เสวกเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง มีเนื้อที่ ตามหน้าโฉนดที่ตั้งวัด 26 ไร่ 3 งาน 50 ตารางวา (ที่ดินนอกวัดไม่มี) ตามคำบอกเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้นเล่าสืบกันต่อกันมาว่ามีครอบครัวหนึ่งอยู่ในฐานะมั่นคง เป็นคหบดีมีคนเคารพนับถือ คือครอบครัวท่านขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย) เมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาทั้ง 2 ของท่านขุนสมานจีนประชา นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (เพิ่มนคร) พร้อมด้วย นางยี่สุ่น วิริยะพานิช (ผู้เป็นน้องสาว ต่อมาภายหลังได้สร้างพระปรางค์ขึ้นหน้าโบสถ์ ปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นอยู่) มีความศรัทธาคิดจะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีผู้ล่วงลับ จึงได้ดำเนินการสร้างวัด ปรากฏตามหลักฐาน เมื่อ พ.ศ.2422 (ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงเสด็จทางชลมารค์ผ่านมาได้ทรงแวะเยี่ยมวัดและได้มีชาวบ้านผู้หนึ่ง ชื่อนายเหว่า โพนสุวรรณ์ นำนกกวักเผือกถวาย ณ ที่วัดแห่งนี้ด้วย) Read more »
พระราหู ที่วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา
เป็นพระราหูอมจันทร์ที่องค์ใหญ่มาก ตั้งเป็นสง่าอยู่ด้านหน้าวัดและมีสถานที่สำหรับเคารพบูชาหรือไหว้พระราหู เพื่อแก้ปีชง ทำบุญ ขอพร แล้วแต่ว่าใครจะเดินทางไปเพื่ออะไร
อีกกลุ่มหนึ่งก็เชื่อว่าจันทรุปราคา เกิดขึ้นจากการที่ พระอาทิตย์ โลก และดวงจันทร์ เคลื่อนมาอยู่ในแนวระดับเดียวกัน มื่อดวงจันทร์เคลื่อนผ่านเงาของโลกๆจะไปบังดวงจันทร์ทำให้มองเห็นดวงจันทร์เป็นแบบต่างๆ
คือ แบบเงามัว เงามัวเต็มดวง จันทรุปราคาแบบเต็มดวง แบบบางส่วน
นี่ก้อราหูอมจันทร์
ถึงแม้จะเกิดขึ้นตามธรรมชาติแต่ก็มีอิทธิพลต่อความเชื่อศรัทธาของผู้คนที่สืบทอดเป็นวัฒนธรรมมาช้านาน
ขอขอบคุณhttp://www.thaibuddytrip.com/
พระพิฆเนศปางเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม ฉะเชิงเทรา
เป็นปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
หมายความว่า
เป็นปางที่ ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ เนื้อองค์มีสีชมพู
พระพิฆเนศวรเป็นโอรสของพระอิศวรและพระอุมาเทวี มีรูปกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง
มีงาข้างเดียว (ถูกขวาน ปรศุรามหักเสียงา)
มีสี่กร พระหัตถ์หน้าขวาถืองาช้าง
เมื่อพิจารณาความหมายในทางสัญญะ
รูปกายที่อ้วนพีนั้นมีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์
เศียรที่เป็นช้างมีความหมาย หมายถึงผู้มีปัญญามาก
ตาที่เล็กคือ สามารถมอง แยกแยะสิ่งถูกผิด Read more »
วัดสมานรัตนาราม กับองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์ใหญ่ที่สุดในไทย
วัดสมานรัตนาราม หรือ วัดใหม่ขุนสมาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลบางแก้ว อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง ลักษณะที่ตั้งของวัดจะเห็นได้ว่า เหมือนเป็นเกาะที่มีแม่น้ำบางปะกงล้อมรอบ ทางฮวงจุ้ยเขาเรียกว่า ถุงเงินถุงทอง ก็จัดว่าเป็นทำเลที่ดี
ภายในวัดมีองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีขนาดความสูง 16 เมตร และความกว้าง 14 เมตร เนื้อชมพู ลักษณะนั่งกึ่งนอนตะแคงบนฐาน พระหัตถ์ ซ้ายถืองาที่หัก พระหัตถ์ขวาถือดอกบัว โดยรอบฐานจะมีพระพิฆเนศทั้ง 32 ปาง ซึ่งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง โดยมีถึง 3 อำเภอที่สามารถมองเห็นได้ คือ อำเภอเมือง อำเภอบางคล้า และอำเภอคลองเขื่อน
วัดสมานรัตนารามยังมีพระพุทธรูปที่สำคัญยิ่งสององค์ องค์ที่ 1 คือ พระประธานในอุโบสถปางมารวิชัย(นาม หลวงพ่อโต) อายุกว่า 120 ปี เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ของตำบล และอำเภอองค์หนึ่ง เป็นที่ศรัทธาเคารพนับถือแก่ประชาชนโดยทั่วไป
โดยทั่วไป องค์ที่ 2 คือ พระประธานหน้าวัดตั้งประดิษฐานอยู่ริมแม่น้ำบางปะกงหน้าวัด เป็นพระพุทธรูปปางลีลาประทานพรองค์ใหญ่ที่สุดในลุ่มน้ำบางปะกง สมเด็จพระญาณ สังวรสมเด็จพระสังฆราชสกลสังฆปรินายก ทรงถวายพระนามว่า พระพุทธมหากรุณาคุณประสิทธิ์ และทรงประทานพระบรมสารีริกธาตุ 9 องค์บรรจุบนเกตุพระ
ขอขอบคุณ http://travel.thaiza.com/
วัดสมาน–ตำนานหนูบริวารพระพิฆเนศ
กาจามุกะ ผู้ซึ่งเป็นปิศาจคชสาร ที่มีรูปร่างใหญ่โต ได้ก่อกวนความสงบของสามโลกด้วยความทระนงตนว่าได้รับพรปกป้องคุ้มครองจากเทพ ปิศาจ มนุษย์และสัตว์โลกอื่นๆ แต่ด้วยความที่ พระพิฆเณศ อยู่เหนือความตายของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด เนื่องจากพระองค์ทรงดำรงตนในรูปแบบของ กึ่งเทพกึ่งคชสาร (ช้าง) ทรยเทพ จึงมอบหมายให้พระองค์ไปทำสงครามกับปีศาจตนนั้น ซึ่งในระหว่างการทำสงครามกันอย่างดุเดือด พระพิฆเณศทรงหักงาข้างขวาของพระองค์แล้วใช้เป็นหอกพุ่งเข้าใส่กาจามุกะ (นี่จึงเป็นอีกตำนานหนึ่งที่แตกต่างว่้าด้วยการเสียงาของพระพิฆเนศ) การขว้างด้วยพลังที่รุนแรง เป็นผลให้กาจามุกะกระเด็นลงไปนอนกับพื้น และรีบจำแลงกายเป็นหนูยักษ์เพื่อจะวิ่งหนี พระพิฆเณศจึงรีบกระโดดขึ้นนั่งหลังและปราบปรามจนหนูยักษ์หมดฤทธิ์เดช พระพิฆเณศจึงใช้หนูเป็นพาหนะนับแต่นั้นมา และหนูตัวนั้นก็ได้ชื่อว่า “มุสิกะ” ครับผม
และการที่เราจะขอพรองค์พระพิฆเนศนั้น ต้องทำการตั้งจิตอธิษฐาน และขอพรโดยการเอื้อมมือข้างใดข้างหนึ่งไปปิดหู หนูมุสิกะ ที่เป็นบริวารและต้นห้องขององค์พระพิฆเนศ อีกฝั่งหนึ่งไว้ และทำการกระซิบข้างหูหนูอีกข้างเพื่อขอพรที่เราตั้งใจ (คำขอพร จะได้ไม่ทะลุออกหูอีกข้างครับ) และหนูมุสิกะ ก็จะนำความไปบอกกับองค์พระพิฆเนศให้กับเราครับ ,อย่าลืมติดสินบนหนู ด้วยนะครับ ไม่เช่นนั้น อาจไม่ได้ดั่งที่ขอพรนะครับ(เป็นความเชื่อนะครับ)
ขอขอบคุณ http://www.tlcthai.com/
ความเป็นมาประวัติวัดสมานรัตนาราม
วัดสมานรัตนาราม ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง บ้านหมู่ที่ ๑๑ ตำบลบางแก้ว(ตำบลไผ่เสวกเดิม) อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา และใกล้กับโครงการเขื่อน ทดน้ำบางปะกง มีเนื้อที่ ตามหน้าโฉนดที่ตั้งวัด ๒๖ ไร่ ๓งาน ๕๐ ตารางวา (ที่ดินนอกวัดไม่มี) ตามคำบอกเล่าขานของผู้เฒ่าผู้แก่ในสมัยนั้นเล่าสืบกันต่อกันมาว่ามีครอบครัวหนึ่งอยู่ในฐานะมั่นคง เป็นคหบดีมีคนเคารพนับถือ คือครอบครัวท่านขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย) เมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่กรรมแล้ว ภรรยาทั้ง ๒ ของท่านขุนสมานจีนประชา นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน(เพิ่มนคร ) พร้อมด้วย นางยี่สุ่น ….. (ผู้เป็นน้องสาว ต่อมาภายหลังได้สร้างพระปรางค์ขึ้นหน้าโบสถ์ ปัจจุบันยังปรากฏให้เห็นอยู่) มีความศรัทธาคิดจะสร้างวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สามีผู้ล่วงลับ จึงได้ดำเนินการสร้างวัด ปรากฏตามหลักฐาน เมื่อ พ.ศ.๒๔๒๒
จุดธุปบูชา ขอพรพระพิฆเนศองค์โต @วัดสมาน
พระพิฆเนศ ถือเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ ความสำเร็จ เป็นมหาเทพที่คนไทยนับถือมากองค์หนึ่งค่ะ ซึ่งเรามักจะขอพรท่านในด้านต่าง ๆ และพระองค์ย่อมประทานพรให้สมปรารถนาเสมอ เช่น ด้านการศึกษาเล่าเรียน , ตำแหน่งหน้าที่การงาน , การเงิน , ความรัก , ปัดเป่าอุปสรรคทุกข์ภัยหรือแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ตลอดจนขอให้ทุกอย่างประสบผลสำเร็จ เป็นต้น
จึงถือโอกาสดี พาทุกคนออกเดินทางไปสักการะ ขอพร องค์พระพิฆเนศ ที่มีความพิเศษกว่าปกติ กล่าวคือ เราจะไปกราบไหว้ พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่ วัดสมานรัตนาราม จ.ฉะเชิงเทรา
วัดสมานรัตนาราม (ใหม่ขุนสมาน) ตั้งอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง หมู่ที่ 11 ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา ค่ะ ซึ่งตำแหน่งที่ตั้งของ วัดสมานรัตนาราม นี้ กล่าวกันว่า…อยู่ในตำแหน่ง ฮวงจุ้ยมงคล หรือเป็นตำแหน่ง ถุงเงินถุงทอง ที่ถือเป็นจุดรับทรัพย์ที่ดีมาก ๆ Read more »
เส้นทางการเดินทางวัดสมานวรวิหาร
เราก็มาเริ่มต้นกันที่ถนนที่แยกจากเส้นบางนา-ตราด มุ่งหน้าเข้าทางฉะเชิงเทรา ผ่านโตโยต้า บ้านโพธิ์ ( เส้นเดียวกับที่เราเคยที่แวะกินข้าวที่บ้านโพธิ์ริเวอร์ไซด์นั่นแหละ ) เลยไปอีกนิดจะเป็นสามแยกไฟแดงใหญ่ ก็ให้เลี้ยวซ้ายไปทางบางคล้าขับตรงยาวไปเลย เราก็ข้ามแม่น้ำบางปะกง แล้วก็ขับตรงยาวไปเลย ไม่ต้องกลัวหลง มีป้ายบอกทางอยู่ พอถึงเขื่อนทดน้ำบางปะกง ก็เลี้ยวเข้าซอยวัดจุกเฌอได้เลย ขับไปตามทาง เราก็จะข้ามสะพานแม่น้ำบางปะกงอีกครั้ง เพราะว่า ที่ตั้งของวัดสมานรัตนาราม เสมือนเกาะริมแม่น้ำบางปะกง ขับไปเรื่อย ๆ ก็จะมีป้ายบอกทางเข้าวัดทางซ้ายมือ สังเกตว่าจะมีรูปปั้นยักษ์อยู่ที่ประตูทางเข้า เราก็ขับผ่านมาอีกนิด ทางจะเบี่ยงขวานิดหน่อย เลี้ยวไปตามทางอีกนิด เราก็จะเห็นองค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขอยู่เด่นเป็นสง่า ไม่รู้ว่าจะบรรยายอย่างไร ดูภาพเอาก็แล้วกัน
วันที่ไปนั้นคนเยอะมาก ไม่รู้ว่ามาจากไหน แต่ที่แน่ ๆ คนไทยทั้งนั้น ก่อนอื่นเมื่อมาถึงที่วัดสมานรัตนาราม ก็ต้องไปนมัสการองค์พระประธานที่โบสถ์กันก่อน กราบพระขอพรกันตามสบาย ไม่ต้องเร่งรีบ พอไหว้พระเสร็จแล้ว ก็มาไหว้พระพิฆเนศขอพรจากท่านให้สำเร็จสมดังใจ ผู้คนมากมายหลั่งไหลกันมาขอพรจากองค์ท่าน มีอยู่อย่างนึงที่สังเกตเห็น พวกนั้นเขาทำอะไรกันนะ มีร่มปัก 2 คัน คนนั้นยืนบนเก้าอี้ด้วย ที่เหลือยืนต่อแถวกันด้วย ทำอะไรหว่า ว่าแล้วไม่รอช้า งั้นเราเดินเข้าไปดูด้วยกัน Read more »
ประวัติวัดสมานรัตนาราม
ปัจจุบันเมื่อกล่าวถึง “วัดสมานรัตนาราม” ไม่มีใครไม่รู้จัก เพราะเป็นวัดที่มีนักท่องเที่ยว ตลอดถึงพ่อค้าประชาชน และนักแสวงบุญทั้งหลายเข้าทำบุญที่วัดไม่ขาดสายเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดราชการ ซึ่งสิ่งที่เป็นแรงดึงดูดผู้คนให้เดินทางมาในวัดนี้ นอกจากความสงบร่มรื่น และทิวทัศน์ที่สวยงามภายในวัดแล้ว เป้าหมายของผู้คนที่เดินทางมาที่วัดสมานรัตนารามแห่งนี้ คือ องค์พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ทรงไว้อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ และสามารถประสิทธิ์ประสาทพรแก่ผู้ที่มากราบสักการะให้สำเร็จผลในสิ่งที่ปรารถนาทุกประการ
ส่วนประวัติการสร้างวัดสมานรัตนารามนั้น พระครูปลัดสุวัฑฒนพรหมจริยคุณ (ไพรัตน์ ปญฺญาธโร) เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน ได้เล่าให้ฟังว่า ตามคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ที่เล่าสืบกันต่อกันมา เดิมที ณ ตำบลบางแก้วแห่งนี้ มีขุนท่านหนึ่ง เป็นคหบดีผู้มีฐานะฐานะมั่นคงและเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไป ขุนท่านนี้มีนามว่า ขุนสมานจีนประชา (เดิมชื่อจ๋าย สืบสมาน) ท่านขุนมีน้องสาว 1 คน คือ นางยี่สุ่น วิริยะพาณิชย และมีภรรยา 2 คน คือ นางทิม สืบสมาน และ นางผ่อง สืบสมาน (เพิ่มนคร) ต่อมาเมื่อท่านขุนสมานจีนประชาถึงแก่อนิจกรรมลง นางยี่สุ่นผู้เป็นน้องสาวพร้อมกับภรรยาทั้ง 2 มีความประสงค์จะสร้างวัด เพื่ออุทิศ Read more »
ไหว้พระพิฆเนศวรปางนอน ณ วัดสมานรัตนาราม
พระพิฆนเศวร เป็นเทพที่มีผู้คนนับถือและเคารพมากที่สุด และเป็นที่ทราบกันดีว่า พระพิฆเนศวร มีหลายปาง ซึ่งส่วนใหญ่จะบูชาปางตามสายงานอาชีพของตน แต่วันนี้กระปุกดอทคอมจะพาไปสักการบูชา “องค์พระพิฆเนศวรปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ณ วัดสมานรัตนาราม ริมแม่น้ำบางปะกง อำเภอเมืองฉะเชิงเทรา กัน…ถ้าพร้อมแล้วตามเราไปเลย
องค์พระพิฆเนศวรปางนอนเสวยสุข ที่ วัดสมานรัตนาราม ถือเป็นปางนอนที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ริมแม่น้ำบางปะกง ใกล้กับโครงการเขื่อนทดน้ำบางปะกง ซึ่งบริเวณใกล้ ๆ กันมี องค์พระพิฆเนศวรปางยืน สร้างที่ริมแม่น้ำบางปะกง ตำบลบางตลาด จังหวัดฉะเชิงเทรา และองค์พระพิฆเนศวรปางนั่ง สร้าง ณ เชิงภูเขา วัดเขาแดง ตำบลสาลิกา จังหวัดนครนายก ให้ได้ไปกราบไหว้อีกด้วย Read more »
วัดสมานรัตนาราม พระพิฆเนศ ปางนอนเสวยสุข ฉะเชิงเทรา
วัดสมานรัตนาราม หรือที่หลายคนรู้จักดีในชื่อของ วัดพระพิฆเนศ ฉะเชิงเทรา เพราะพระพิฆเนศปางนอนเสวยสุขนี้เอง ที่ทำให้วัดสมานรัตนารามแห่งนี้มีชื่อเสียง และเป็นที่รู้จักแก่คนทั่วไปอย่างกว้างขวาง ด้วยความศักดิ์สิทธิ์ เมื่อมีผู้ใดมาขอพรก็มักจะสำเร็จสมดังใจหวัง จนทำให้เป็นที่นับถือของคนทั่วไปอย่างรวดเร็ว พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุของค์นี้ มีเนื้อองค์เป็นสีชมพูและอาจเรียกได้ว่า เป็นพระพิฆเนศองค์ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย
ปางนอนเสวยสุขนั้นมีความหมายว่า เป็นปางที่ประทานความมีกินมีใช้ เงินทองไม่ขาดมือ อยู่อย่างสุขสบาย อิ่มหนำสำราญ ขจัดปัญหา ไม่มีเรื่องให้วุ่นวายใจ เนื้อองค์มีสีชมพู รอบฐานมีปางต่างๆถึง 32 ปางให้ชม ภายใต้ฐานพระพิฆเนศเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงเกี่ยวกับพระพิฆเนศปางต่างๆ พร้อมทั้งเปิดให้ประชาชนทั่วไปเช่าพระพิฆเนศไปบูชาที่บ้าน
ทางวัดได้เปิดให้ประชาชนสักการะกราบไหว้องค์พระพิฆเนศ โดยจัดพื้นที่ให้เป็นศาลาริมแม่น้ำ ภายในศาลาเป็นที่ประดิษฐานองค์พระพิฆเนศจำลองปางต่างๆ อีกทั้งมีพระพุทธรูป ให้ประชาชนได้กราบไหว้สักการะขอพร Read more »