ภายในพระวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ นามว่า “พระมงคลบพิตร” จากประวัติที่พบสันนิษฐานกันว่า พระมงคลบพิตรสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เคยประดิษฐานอยู่กลางแจ้งที่วัดชีเชียงมาก่อน จากนั้นสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดฯให้ชลอมาไว้ทางด้านทิศตะวันตกแล้วให้สร้างมณฑปขึ้นครอบไว้ หลังเสียกรุงฯพระมงคลบติรถูกทิ้งเหลือไว้เพียงซาก ทิ้งร่องรอยความรุ่งเรืองในอดีตโดยสิ้นเชิง โดยมีรูปที่ถูกแพร่หลายในความทรงจำมากที่สุดคือรูปที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เสด็จวัดมงคลบพิตร พร้อมด้วยพระเจ้าซาร์นิโคลาสที่ 2 แห่งรัสเซีย ราวเดือนมีนาคม พ.ศ. 2434 จากนั้นจึงมีการซ่อมและบูรณะเรื่อยมาจนกลับมามีสภาพใหม่เฉกเช่นปัจจุบัน วิหารพระมงคลบพิตรในปัจจุบันนี้ได้ถูกสร้างขึ้นใหม่บนซากวิหารเดิมด้วยความร่วมมือกับทางพม่าส่วนหนึง
สำหรับคนที่ตั้งใจมาเที่ยวอยุธยาแล้วนั้น มีคำกล่าวอยู่เสมอว่า “ผู้ใดที่มาเที่ยวอยุธยาแล้ว ยังไม่ได้มาไหว้หลวงพ่อมงคลบพิตรแล้ว ถือว่ามาไม่ถึงอยุธยา”
ขอขอบคุณ http://www.zthailand.com/