ประวัติวัดสวนดอก

วัดสวนดอกสร้างในสมัยพระเจ้ากือนาธรรมิกราช กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ รัชการที่ ๖ แห่งราชวงศ์มังราย เมื่อปี พ.ศ. ๑๙๑๔ พระองค์ได้ทรงพระราชทานพระราชอุทยานสวนดอกไม้ของพระองค์ ซึ่งอยู่ทางด้านตะวันตกของนครเชียงใหม่ ห่างประมาณ ๑ กิโลเมตร สร้างเป็นพระอารามขึ้น และพระราชทานนามว่า “วัดบุปผาราม” ต่อมาชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “วัดสวนดอก” วัดนี้เป็นวันเก่าแก่ที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งต่อความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนามาตั้งแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบัน ในสมัยอาณาจักรล้านนา วัดสวนดอกเป็นศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาลักธิลังกาวงศ์ เป็นที่สถิตของพระสังฆราชในอาณาจักรล้านนา เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากกรุงสุโขทัย และนำมาบรรจุไว้ในพระบรมธาตุเจีย์ทีวัดสวนดอกแห่งนี้ ปัจจุบันวัดสวนดอกนับว่ามีความสำคัญต่อการส่งเสริมการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นอย่างยิ่ง เพราะเหตุว่าเป็นที่ตั้งของมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาเขตเชียงใหม่ เป็นสถานที่ให้ความรู้และอบรมทางวิชาการเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมและประติมากรรมที่สวยงาม วัดนี้จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดเชียงใหม่

Read more »

วัดสวนดอก เวียงพระธาตุแห่งล้านนา

wat-suandok1

วัดสวนดอก จ.เชียงใหม่ หรือ วัดบุปผาราม เป็นวัดเก่าแก่ที่สำคัญวัดหนึ่งของเมืองเชียงใหม่ โดยเป็นศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนามาแต่โบราณ สร้างในสมัย พญากือนา เมื่อปี พ.ศ.1914 โดยได้ทรงถวายอุทยานสวนดอกไม้ส่วนพระองค์ เพื่อสร้างเป็นวัด ถวายแด่ พระสุมนเถระ พระเถระจากเมืองศรีสัชนาลัย ที่พระองค์ได้นิมนต์มาเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเมืองเชียงใหม่ โดยได้พระราชทานนามวัดว่า วัดบุปผาราม
ต่อมาหลังยุคใต้การปกครองของพม่า วัดสวนดอกได้ทรุดโทรมลง จึงมีการบูรณะวัดขึ้นในสมัย พระเจ้ากาวิละ และในสมัยเจ้าแก้วเนารัตน์โดยร่วมกับครูบาศรีวิชัย ทำการบูรณะศาสนสถาน และสร้างพระวิหารโถงหลังใหญ่ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2472

Read more »

วัดสวนดอก เชียงใหม่

692

วัดสวนดอก หรือ วัดบุพผาราม ตั้งอยู่ถนนสุเทพ อำเภอเมือง วัดนี้พระเจ้ากือนาทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1914 (ศักราชนี้ถือตาม หนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ ของพระรัตนปัญญาเกตุ) เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของพระมหาเถระสุมน ผู้ประดิษฐาน พระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในแผ่นดินลานนาไทย วัดนี้แต่เดิมเป็นพระราชอุทยาน ของกษัตริย์ลานนาไทย สมัยแรกเริ่ม มีสถาปัตยกรรมสำคัญ คือ เจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงกลม กู่บรรจุอัฐิเจ้าตระกูล ณ เชียงใหม่และวิหารโถง นอกจากนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานพระเจ้าเก้าตื้อ ซึ่งพญาเมืองแก้วโปรดให้หล่อขึ้นเป็นพระพุทธรูปสำริดขนาดใหญ่ ศิลปะล้านนาผสมกับศิลปะสุโขทัย

ขอขอบคุณ http://www.thai-tour.com/

ปูชนียสถาน-วัตถุ วัดสวนดอก

พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกา

พระเจดีย์วัดสวนดอก ได้รับการบูรณะใหม่และหุ้มแผ่นทองจังโก
พระเจดีย์ใหญ่ทรงลังกาบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 1914 ในรัชกาลของพระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง ราชวงศ์เม็งราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง “พระอารามหลวง” โดยโปรดเกล้าให้สร้าง “พระเจดีย์ทรงลังกา” ขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ ที่พระมหาเถระสุมนได้อัญเชิญมาจากสุโขทัย ในปี พ.ศ. 1912 ซึ่งแต่เดิมมีเจดีย์แบบสุโขทัย (ทรงพุ่มข้าวบิณฑ์) อยู่ทางทิศตะวันตกขององค์พระเจดีย์ใหญ่ แต่ได้ปรักหักพังลง พระเจดีย์องค์ใหญ่สูง 24 วา ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478

พระเจ้าเก้าตื้อ
เป็นพระพุทธรูปหล่อองค์ใหญ่ สร้างด้วยโลหะหนัก 9 โกฏิตำลึง (“ตื้อ” เป็นคำในภาษาไทยเหนือ แปลว่า หนักพันชั่ง) พระญาเมืองแก้ว กษัตริย์องค์ที่ 13 แห่ง ราชวงศ์เม็งราย โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2047 “พระเจ้าเก้าตื้อ” เป็นพระพุทธรูปแบบเชียงแสนฝีมือช่างล้านนาและสุโขทัย หน้าตักกว้าง 8 ศอก หรือ 3 เมตร สูง 4.70 เมตร เพื่อเป็นพระองค์ประธานใน วัดพระสิงห์ แต่เนื่องมีน้ำหนักมากไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จึงได้ถวายเรือนหลวงของพระองค์เป็นพระวิหาร พระราชทานชื่อว่า “วัดเก้าตื้อ” แทน ซึ่งต่อมาภายหลังได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์ในสมัย ครูบาเจ้าศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนา ในปี พ.ศ. 2475 กรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานแห่งชาติ ในราชกิจจานุเบกษา เล่มที่ 52 ตอนที่ 75 ลงวันที่ 8 มีนาคม 2478

Read more »

วัดสวนดอก (พระอารามหลวง)

วัดสวนดอก (คำเมือง: LN-Wat Suan Dok.png) หรือ วัดบุปผาราม เป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดสามัญ[1]สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ปัจจุบันตั้งอยู่บนถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่
ที่ตั้งและอาณาเขต
วัดสวนดอกตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ เลขที่ 139 ถนนสุเทพ ตำบลสุเทพ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ห่างจากประตูสวนดอกไปทางทิศตะวันตก 1 กิโลเมตร กินเนื้อที่ 35 ไร่ 2 งาน 44 ตารางวา ทิศเหนือยาว 183 เมตร ทิศใต้ยาว 193 เมตร ทิศตะวันออกยาว 176 เมตร และทิศตะวันตกยาว 176 เมตร
ประวัติ
วัดสวนดอกในอดีตนั้นป็นสวนดอกไม้ (ต้นพยอม) ของเจ้านายฝ่ายเหนือใน ราชวงศ์เม็งราย โดยในปี พ.ศ. 1914 (ศักราชนี้ถือตามหนังสือชินกาลมาลีปกรณ์ของพระรัตนปัญญาเกตุ) พระเจ้ากือนา กษัตริย์องค์ที่ 6 แห่ง ราชวงศ์เม็งราย ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเป็น “พระอารามหลวง” เพื่อให้เป็นที่จำพรรษาของ “พระมหาเถระสุมน” ผู้ประดิษฐานพระพุทธศาสนาลัทธิลังกาวงศ์ ในแผ่นดินล้านนา และสร้างองค์พระเจดีย์เพื่อประดิษฐาน “พระบรมสารีริกธาตุ” 1 ใน 2 องค์ ที่ “พระมหาเถระสุมน” อัญเชิญมาจากสุโขทัย ในปี พ.ศ. 1912 (องค์หนึ่งประดิษฐานอยู่ในพระเจดีย์ ใน วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร)

Read more »

วัดท่าใหม่อิ

สถานที่ตั้งของวัด

วัดท่าใหม่อิ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๒ บ้านท่าใหม่อิ หมู่ที่ ๕ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๖ ไร่ ๙๖ ตารางวา

ประวัติความเป็นมาของวัด

วัดท่าใหม่อิ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๗ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๖๐ เมตร การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสปัจจุบัน คือ พระมหาไพศาล ฐานวุฑฺโฒ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าใหม่อิ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบัน

วัดท่าใหม่อิมีพระวิหารทรงล้านนาที่เก่าแก่ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่หลังเดียวในตำบลป่าแดด ซึ่งสวยงามและมีคุณค่าทำให้ผู้มาเยี่ยมชมเป็นจำนวนมาก ในด้านการจัดสถานที่วัดนั้น ท่านพระมหาไพศาล ฐานวุฑฺโฒ เมื่อได้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้ว ท่านได้มีวิสัยทัศน์ที่จะจัดวัดให้เป็นสถานที่ร่มรื่น สะอาดตาสวยงามจน ณ ปัจจุบันเป็นที่กล่าวขานกันว่า วัดท่าใหม่อิแห่งนี้เป็นพืชสวนโลกแห่งที่สองของจังหวัดเชียงใหม่

Read more »

วัดท่าใหม่อิ จังหวัดเชียงใหม่

44

 

22 Read more »

วัดท่าใหม่อิ

1

1. มาแล้วมีความสุข สดชื่น

แต่กว่าวัดจะสวยงามได้ขนาดนี้ พระอาจารย์ต้องฝ่าฟัน โดยไม่ย่อท้อ และยังบอกว่า “ทุกอย่างไม่มีอะไรสบายก่อน จะต้องมีลำบากก่อน” บางคนถึงพูดว่า ต้องทุกข์ก่อนแล้วค่อยทุกข์ทีหลัง การพัฒนานั้นไม่ใช่งานที่ง่าย เป็นงานที่ต้องทุ่มเททั้งกำลังกายและกำลังใจ หากเราเป็นผู้นำ ต้องเป็นผู้นำที่เสียสละ ผู้นำต้องเป็นตัวอย่างก่อน ที่จริงแล้วเราทุกคนอยู่ในวัดต้องช่วยกันทำ เจ้าอาวาสก็ต้องทำ ถ้าไม่อย่างนั้น จะไม่เกิดการเป็นผู้นำ

2

2. มาแล้วต้องยิ้ม ต้องได้ยินเสียงหัวเราะ ต้องมีความสุขกับชีวิตกลับไป

รูปปั้น เณรยิ้ม เพราะคนเราทุกคนเวลาเข้ามาวัดเมื่อเห็นเณรยิ้มนี้ ก็จะยิ้มตามกับความน่ารักของเณรน้อย ทุกคนก็จะหัวเราะออกมา ลืมความทุกข์ นี่เป็นปริศนาธรรม สอนเราว่า คนเรามีชีวิตอยู่ทุกวันนี้ ต้องมีความสุข ต้องหัวเราะ ใครที่หัวเราะเยอะ ๆ คนนั้นจะอายุยืน หน้าตาเบิกบาน แจ่มใส และเมื่อยิ้มแล้วต้องสู้

“ทุกข์หนักอย่างไรก็ต้องยิ้มและสู้เข้าไว้”

Read more »

“วัดท่าใหม่อิ” เมื่อวัดกับสวนสวยเป็นเรื่องเดียวกัน

jdEfyZP

ถ้าพูดถึงวัด หลายคนคงนึกถึงปูชนียสถานต่างๆ ศาลาการเปรียญ โบสถ์ วิหาร เจดีย์ ฯลฯ ที่ตกแต่งสวยงามตามแบบฉบับของท้องถิ่นนั้นๆ เมื่อมองแล้วรู้สึกว่า “วัดนี้สวยดีเนอะ” แต่ใครจะไปคิดว่ามีอยู่วัดหนึ่ง (เท่าที่เคยไปเยี่ยมเยือนมานะคะ) ที่เมื่อแรกพบต้องอุทานว่า “เฮ้ย… นี่วัดจริงๆ เหรอ” เลยอดไม่ได้ที่จะเก็บภาพพร้อมเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยมาฝากเพื่อนๆ “วัดท่าใหม่อิ” ตามไปดูกันเลยเถอะว่าวัดนี้มีดีอะไรบ้าง

วัดท่าใหม่อิ ตั้งอยู่บนถนนวงแหวนรอบนอก เชิงสะพานข้ามแม่น้ำปิง บ้านท่าใหม่อิ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ มีอายุมากกว่า 500 ปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เมื่อครั้งยกทัพขึ้นมารบกับพม่า สันนิษฐานว่าชื่อวัดมีที่มาจากพระนาม “พระนางมณีจันทร์” พระชายาของพระนเรศวร ซึ่งเคยใช้พระนามแฝงว่า “แม่อิ” (เป็นคำขึ้นต้นของบทสวดอิติปิโส) เพื่อความปลอดภัย ชื่อนี้ได้กลายมาเป็นชื่อของวัด “วัดท่าอิ” ต่อมาเพี้ยนเป็น “วัดท่าใหม่อิ” จนถึงปัจจุบัน

พระวิหาร สถาปัตยกรรมล้านนา อาคารครึ่งปูนครึ่งไม้ หน้าบันประดับด้วยงานแกะสลักไม้พรรณพฤกษาสีทองอร่าม ราวบันไดเป็นมกรคายนาคปากนกแก้วสีขาวสะอาดตา ภายในประดิษฐานหลวงพ่อมงคลพรหมวิหารบันดาลโชค พระพุทธรูปปางมารวิชัย เป็นพระประธาน เสาแต่ละต้นและโครงสร้างของอาคารงดงามด้วยลายคำ ฝาผนังเขียนภาพจิตกรรมเล่าเรื่องพระเวสสันดรชาดก มีความพิเศษตรงที่ใช้ทองคำเปลวประดับในบางจุดอีกด้วย

Read more »

ไปไหว้พระวัดท่าใหม่อิ

วัดท่าใหม่อิ 01

ไปไหว้พระทำบุญกับแม่ น้องสาวและน้องเขยมาครับ จริงๆไปมานานละแต่เพิ่งมีโอกาสได้เอามาลงบล็อก

สาเหตุที่แม่อยากไปไหว้พระที่วัดนี้ก็เพราะว่า มีญาติท่านนึงเคยไปมาก่อนแล้วมาเล่าให้แม่ฟังถึงความสวยงามร่มรื่น โดยเฉพาะไฮไลท์ที่กล่าวถึงความสวยงามของ “ห้องน้ำ้ลอยฟ้า” ของทางวัด

วัดท่าใหม่อิเป็นวัดเล็กๆ เนื้อที่วัดไม่ใหญ่โตมาก แต่ก็ใช้พื้นที่แต่ละตารางเมตรอย่างคุ้มค่า มีการตกแต่งวัดอย่างร่มรื่นยังกะรีสอร์ท นอกจากได้มาไหว้พระประธานในอุโบสถแล้ว ทั่วบริเวณวัดยังมีสิ่งศักดิื์ให้เคารพสักการะตามจุดต่างๆมากมาย ทั้งต้นโชค พระเจ้าทันใจ พระพิฆเนตร พระราหู พระประจำวันเกิด ฯลฯ
หน้าวัดมีวังมัจฉา มีตู้ปลาสวยงามตั้งโชว์ไว้หลายตู้ด้วยกัน Read more »

วัดท่าใหม่อิ จังหวัดเชียงใหม่

52-11-06-thamaii-88

วัดท่าใหม่อิ ตั้งอยู่เลขที่ ๑๒๒ บ้านท่าใหม่อิ หมู่ที่ ๕ ตำบลป่าแดด อำเภอเมืองเชียงใหม่ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ที่ดินตั้งวัดมีเนื้อที่ ๖ ไร่ ๙๖ ตารางวา
วัดท่าใหม่อิ สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๔๖๐ ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาเมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๔๖๗ เขตวิสุงคามสีมา กว้าง ๓๐ เมตร ยาว ๖๐ เมตร การบริหารและการปกครองมีเจ้าอาวาสเท่าที่ทราบนาม ดังต่อไปนี้
รูปที่ ๑-๕ ไม่ทราบนามเจ้าอาวาส
รูปที่ ๖ พระหมู
รูปที่ ๗ พระปัญญา วิลงฺโส
รูปที่ ๘ พระบุญมา จิตฺตคุตฺโต
รูปที่ ๙ พระอธิการประพันธ์ ขนฺติโก
รูปที่ ๑๐ พระครูพิพิธธรรมทัต
รูปที่ ๑๑ พระมหาไพศาล ฐานวุฑฺโฒ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดท่าใหม่อิ เมื่อวันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ จนถึงปัจจุบัน

Read more »

ตำนานวัด 5 พี่น้อง ตอน หลวงพ่อ (ทอง) เขาตะเครา

1_display

กว่า 200 ปี มาแล้วที่พระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยองค์เล็ก ขนาดหน้าตักกว้างเพียง 21 นิ้ว ซึ่งลอยน้ำมาจากทางเหนือ (พร้อมพระพี่น้องอีก 4 องค์) ได้ขึ้นประดิษฐานอยู่ ณ วัดเขาตะเครา อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี เป็นพระพุทธรูปองค์เดียวในจำนวน 5 องค์พี่น้อง ที่มีแผ่นทองคำเปลวปิดหุ้มอยู่หนามากจนแลไม่เห็นความงามตามพุทธลักษณะเดิม
ประวัติความเป็นมา

ตามที่ได้กล่าวไว้แล้วในประวัติของหลวงพ่อบ้านแหลม ว่า ชาวบ้านแหลมซึ่งอยู่ปากอ่าวจังหวัดเพชรบุรี ได้พากันมาจับปลาในทะเล ขณะที่ลากอวนอยู่นั้นได้ลากพระพุทธรูปนั่งปางมารวิชัยติดอวนขึ้นมาองค์หนึ่ง ในระหว่างทางกลับ ก็ได้พบพระพุทธรูปยืน (หลวงพ่อบ้านแหลม) ลอยปริ่มๆ น้ำอยู่ไม่ไกลนัก จึงอาราธนาขึ้นบนเรืออีกลำหนึ่ง แต่เกิดอาเพทฝนตกหนัก ลมพายุพัดจัด เรือลำที่พระพุทธรูปยืนประดิษฐานอยู่นั้น ทนคลื่นลมไม่ไหว จึงเอียงวูบไป พระพุทธรูปที่อยู่บนเรือจึงเคลื่อนตกจมหายไปในแม่น้ำ

Read more »

ตำนานวัด 5 พี่น้อง ตอน หลวงพ่อวัดบ้านแหลม

550000017067803

ความเลื่อมใสเชื่อมั่น ตลอดทั้งชีวิตจิตใจของชาวพุทธเมืองไทย ฝากฝังไว้แก่พระพุทธศาสนาอย่างหนักแน่นไม่แปรผัน ยึดมั่นนับถือพระรัตนตรัย ด้วยเห็นว่าสามารถช่วยเหลือทำให้จิตใจผ่องใส และทั้งอาจดลบันดาลขจัดปัดเป่าป้องกันภยันตราย และอำนวยความสุขลาภผลให้ได้ พระพุทธรูปในประเทศไทยมีนับจำนวนเป็นแสน ๆ องค์ แต่พระพุทธรูปทั้งหลายก็หามือ อภินิหารเหมือนกันไม่ ในจำนวนพระพุทธรูปที่ประชาชนยอมรับนับถือด้วยความเคารพบูชา จนถึงกับนานนามยกย่องว่า เป็นหลวงพ่อ หรือเปรียบเสมือนเป็นพ่อของคนทั้งเมือง ก็มีบ้างเป็นบางแห่งบางวัดไม่ทั่วไป โดยเฉพาะจังหวัดสมุทรสงครามนี้ มีพระพุทธปฏิมากรณ์เป็นพ่อบ้านเมืองยกย่องนับถือถวาย นามว่าหลวงพ่อ คือ “หลวงพ่อบ้านแหลม” เป็นที่เคารพสักการะบูชา
หลวงพ่อวัดบ้านแหลม เป็นพระพุทธรูปยืนปางอุ้มบาตร หล่อด้วยทองเหลืองแบบสมัย สุโขทัยตอนปลาย ภายในโปร่งขนาดส่วนสูง 170 เซนติเมตร ประดิษฐานยืนอยู่บนแท่น ภายในพระอุโบสถวัดบ้านแหลม อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม ตามประวัติที่จารึกกล่าวไว้ว่า หลวงพ่อได้ล่องลอยน้ำลงมาจากทางเหนือพร้อมกัน 3 องค์ แสดงอภินิหารให้ผู้คนเห็นมาตลอดลำแม่น้ำเจ้าพระยา และ ครั้งหนึ่ง ได้ล่องลอยมาถึงบริเวณแม่น้ำเจ้าพระยาตอนสามเสน ประชาชนสามแสนกว่าคนประสงค์ที่จะนิมนต์หลวงพ่อขึ้นบนฝั่ง ช่วยกันเอาเชือกผูกมัดองค์หลวงพ่อแล้วช่วยกันฉุดลากแต่ก็ไม่สามารถจะนำหลวงพ่อขึ้นฝั่งได้ และท่านก็จมน้ำหายไปจากที่นั้น

Read more »

ตำนานวัด 5 พี่น้อง ตอน หลวงพ่อโต

550000017067802

พระพุทธรูปหนึ่งในห้าองค์ได้ลอยมาตามแม่น้ำเจ้าพระยามาจนถึงคลองสำโรง แต่เมื่อชาวบ้านช่วยกันฉุดดึงเท่าไรก็ไม่สามารถนำพระขึ้นจากน้ำได้ จึงต้องใช้เรือพายฉุดท่านให้ลอยมาตามคลองสำโรงและอธิษฐานว่า หากพระพุทธรูปประสงค์จะขึ้นที่ใด ก็ขอแสดงอภินิหารให้แพที่ลอยมาจงหยุด ณ ที่นั้น และเมื่อแพลอยมาถึงบริเวณหน้าวัดพลับพลาชัยชนะสงคราม หรือปัจจุบันคือวัดบางพลีใหญ่ใน แพที่ประดิษฐานพระพุทธรูปก็เกิดหยุดนิ่ง ฝีพายพยายามพายอย่างเต็มกำลังก็ไม่สามารถลากแพไปได้ จึงอัญเชิญพระขึ้นมาประดิษฐานในพระวิหารของวัดบางพลีใหญ่ใน และต่อมาจึงได้สร้างอุโบสถใหม่เพื่อประดิษฐานพระพุทธรูปองค์นี้
หลวงพ่อโตเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย เหตุที่ได้ชื่อว่าหลวงพ่อโตก็เพราะท่านมีขนาดใหญ่โต หน้าตักกว้างถึง 3 ศอก 1 คืบ มีเรื่องเล่ากันว่าเมื่อตอนที่สร้างโบสถ์เสร็จใหม่ๆ ก่อนจะอัญเชิญหลวงพ่อโตเข้าไปประดิษฐานภายในก็ได้มีการวัดขนาดของพระกับช่องประตูไว้อย่างพอดีแล้วว่าช่องประตูใหญ่กว่าองค์ท่านประมาณ 5 นิ้ว สามารถนำท่านชะลอผ่านประตูเข้าไปได้

Read more »

ตำนานวัด 5 พี่น้อง ตอน วัดโสธรวรารามวรวิหาร

550000017067801

หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปที่มีอภินิหาร มีฤทธานุภาพของชาวไทย
องค์หนึ่ง ชาวไทยได้รับการคุ้มครองรักษาอภิบาลจากหลวงพ่อโสธรองค์นี้อย่าง
ร่มเย็นเป็นสุขและปลอดภัยอริราชศัตรูมาหลายปีแล้วอย่างแปลกประหลาด
เพราะฉะนั้นท่านผู้ปรารถนาจะมีความสุขสวัสดี ปลอดภัยจากโรคพยาธิควรจะมีหลวงพ่อโสธรไว้บูชา
หลวงพ่อโสธร เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ คือมีพระอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ
พระชงฆ์ขวาทับพระชงฆ์ซ้าย พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้ายวางซ้อนกันอยู่บนพระเพลา
มีส่วนสูง ๖ฟุต ๗นิ้ว พระเพลากว้าง ๕ฟุต ๖นิ้ว ปัจจุบันประดิษฐาน อยู่ในพระอุโบสถหลวงวัดโสธร จังหวัดฉะเชิงเทรา ชาวฉะเชิงเทราเคารพนับถือมาก ทางราชการจัดให้มีงานสมโภชเป็นเทศกาลประจำปี มีพุทธศาสนิกชนทั่วทั้งประเทศหลั่งไหลกันมานมัสการคับคั่งตลอดงาน ได้รับทั้งความสนุกและทั้งบุญกุศลด้วย
ขอขอบคุณ http://praloeynum.blogspot.com/

. . . . . . .
. . . . . . .