วัดโพธิ์บางคล้า สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช มีค้างคาวแม่ไก่อยู่เป็นจำนวนมาก ค้างคาวแม่ไก่เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมชนิดเดียวที่บินได้ มีลักษณะหน้าตาคล้ายสุนัขจิ้งจอก จมูก ใบหูเล็ก ตาโต ขนสีน้ำตาบแก้มแดง ปีกสีดำเป็นพังพืดบางๆ ซึ่งอยู่ระหว่างนิ้ว ที่แปลกคือ ค้างคาวแม่ไก่จะอาศัยอยู่บนต้นไม้เฉพาะบริเวณเขตวัดโพธิ์เท่านั้น จะไม่ไปอาศัยที่อื่น แม้จะมีต้นไม้ของชาวบ้านที่อยู่ใกล้วัดก็ตาม ไม่ว่ากลางวันแดดแรงจัด หรือฝนตกก็จะยังเกาะนอนอยู่ จนพลบค่ำจึงออกไปหากิน ค้างคาววัดโพธิ์รู้หน้าที่ ไม่เคยรบกวนชาวสวนที่อยู่ในเขตอำเภอบางคล้า แต่จะไปหากินที่อำเภอบ้านสร้างจังหวัดปราจีนบุรี ”
วัดโพธิ์บางคล้ามากราบไหว้พระและก็ชมค้างคาวแม่ไก่ ที่เรียกแม่ไก่ สงสัยมาจากที่ขนาดตัวใหญ่หรือเปล่า ไม่แน่ใจเหมือนกัน เมื่อมาถึงบริเวณวัดแล้วมองขึ้นไปบนต้นไม้ มีค้างคาวเกาะห้อยหัวอยู่เป็นจำนวนมาก เห็นแล้วดำไปทั้งต้นเลย มันเกาะกันอยู่หลายต้นเลย
เราเข้าวัดไปกราบไหว้พระพุทธรูป ซึ่งมีชุดดอกไม้ ธูป เทียน ไว้บริการ โดยใครศรัทธาจะบริจาคเท่าไหร่ก็หยอดลงตู้บริจาค หลังจากไหว้พระแล้ว เราก็เดินชมบริเวณวัด บริเวณวัดมีป้ายเขียนติดอธิบายที่มาที่ไปของวัดโพธิ์บางคล้าไว้ว่า
” วัดโพธิ์บางคล้า สร้างในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ราว พ.ศ.2310-2315 เพื่อเป็นอนุสรณ์ที่เคยใช้บริเวณนี้เป็นที่พักทัพ ในคราวเดินทัพเพื่อกอบกู้เอกราช ปัจจุบันมีวิหารเก่าอยู่หลังหนึ่งรูปทรงจตุรมุข ภายในมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ”
วัดโพธิ์บางคล้า จ.ฉะเชืงเทราส่วนอีกป้ายก็บอกถึง ประวัติวิหารวัดโพธิ์บางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา มีข้อความว่า
” วิหารวัดโพธิ์สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นระหว่างปี พ.ศ. 2310-2315 ในรัชสมัย สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช หลังคาเป็นทรงจตุรมุขมุงด้วยกระเบื้องดินเผาเกล็ดเต่า ประดับช่อฟ้าใบระกา หน้าบันไม่มีลวดลาย มีประตูทางเข้า 2 ด้าน คือ ทางทิศเหนือ และทิศตะวันตก เหนือประตูประดับด้วยเครื่องถ้วยจีนเรียงเป็นรูปกลม มีหน้าต่าง 1 ช่อง ทางทิศตะวันออก ภายในวิหารมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ 1 องค์ แต่เดิมเคยมีระเบียงคดล้อมรอบและภายในระเบียงคดนั้นเดิมมีพระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย 9 องค์ ประดิษฐานอยู่โดยรอบ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2485 ได้มีผู้มีจิตศรัทธาบูรณะปฏิสังขรณ์วิหาร โดยซ่อมเปลี่ยนหลังคาเป็นกระเบื้องเกล็ดเต่าสีเขียว ประดับด้วยช่อฟ้ารูปหัวพญานาคและมีใบระกา หน้าจั่วทางทิศตะวันตกปั้นเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างเอราวัณ ประดับด้วยลายเครือเถา หน้าจั่วด้านทิศเหนือปั้นเป็นรูปดอกบัว 5 ดอก ประดับแจกัน ต่อมาหลังคาพังลงมาทำให้พญานาคและใบระการชำรุดเสียหาย
ในปี พ.ศ. 2541 ชาวอำเภอบางคล้าร่วมกันบริจาคทุนทรัพย์เป็นเงิน 350,000 บาท บูรณะปฏิสังขรณ์วิหารในส่วนของโครงสร้างหลังคาโดยคงรูปแบบเดิมไว้ และได้ตั้งเสาขึ้น 8 ต้น เสริมความแข็งแรงของหลังคาทั้งสี่ด้าน พื้นรอบวิหารปูด้วยศิลาแลง ผนังภายในก่ออิฐฉาบปูน และเปลี่ยนเพดานใหม่ พร้อมติดตั้งโคมไฟ ปูพื้นด้วยหินอ่อน ”
อ่านประวัติแล้วก็จินตนาการกันนะจ๊ะ น่าเสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมาให้ดู
เมื่อกราบไหว้พระเพื่อเป็นสิริมงคล และความสบายใจแล้ว ก็ออกเดินทางต่อจากอำเภอบางคล้าไปที่อำเภอคลองเขื่อน จังหวัดฉะเชิงเทรา
ขอขอบคุณ http://phototravel.gizon.net/