Archive for the ‘ขอพรหลวงพ่อ วัดในภาคตะวันออก’ Category

เที่ยววัดหัวสวน ชมโบสถ์สแตนเลส ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา

มหัศจรรย์เที่ยวไทยขอแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ถือได้ว่าแปลกตาไม่เหมือนวัดอื่น โดยตัวโบสถ์สร้างด้วยสแตนเลสทั้งหลัง ซึ่งมีชื่อว่า “วัดหัวสวน” ตั้งอยู่ที่ตำบลเสม็ดเหนือ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา

ด้วยแนวคิดของพระครูภาวนาจริยกุล เจ้าอาวาสวัด ที่ต้องการสร้างโบสถ์หลังใหม่ เนื่องด้วยโบสถ์หลังเก่ามีความชำรุดทรุดโทรม ทั้งนี้การซ่อมแซมวัดโดยใช้วัสดุที่ทำจากปูนจะมีอายุประมาณ 100 ปี เหตุดังกล่าวข้างต้นจึงก่อให้เกิดแนวคิดในการสร้างโบสถ์ด้วยสแตนเลส ซึ่งสามารถคงสภาพไว้นานที่สุดไม่ชำรุดทรุดโทรมง่าย อีกทั้งข้อมูลจากการศึกษาค้นคว้าพบว่าสแตนเลส เป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติคงทนสามารถอยู่ได้นานนับพันปี ด้วยเหตุนี้โบสถ์วัดหัวสวนจึงถูกสร้างขึ้นมาโดยใช้สแตนเลสเป็นวัสดุในการสร้างโบสถ์ ซึ่งถือว่าได้เป็นวัดที่มีความแปลกตาหากเทียบกับวัดอื่นๆ โดยทั่วไปที่เคยพบเห็น

ขอขอบคุณ http://www.amazingthaitour.com/

โบสถ์สเตนเลสวัดหัวสวน

417770_308531742527386_1863273500_n

โบสถ์สเตนเลส วัดหัวสวน ตั้งอยูใน ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งสร้างด้วยสแตนเลสทั้งหลัง เพื่อหวังให้โบสถ์มีอายุยาวเป็นพันปี พระอาจารย์มานิต เลขานุการเจ้าอาวาสวัดหัวสวน หมู่ที่ ๔ ตำบลเสม็ดเหนือ อ.บางคล้า การสร้างอุโบสถสแตนเลส มาจากความคิดของพระครูภาวนาจริยกุลท่านเจ้าอาวาสวัด ที่เห็นว่า โบสถ์ หลังเก่ามีความชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว อยากจะสร้างขึ้น มาใหม่ให้คงอยู่ยาวนาน จากการศึกษาพบว่าสแตนเลส เป็นวัสดุที่สามารถอยู่ได้เป็นพันปี ในขณะที่ปูนจะมีอายุอยู่เป็นร้อยปี ท่านจึงตัดสินใจออกแบบโบสถ์สแตนเลส ขึ้นมา พร้อมกับหาบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนเมษายน ๒๕๕๒ เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม ๒๕๕๓โดยเจ้าอาวาสเป็นผู้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างเองอย่างใกล้ชิด ใช้งบประมาณ ๕๐ ล้านบาท อุโบสถ กว้าง ๗.๕๐ เมตร ความยาว ๑๘ เมตร ความสูง ๖.๕๐ เมตร

ขอขอบคุณ https://www.facebook.com

ไหว้พระเสริมสิริมงคล 9 มหามงคลเมืองแปดริ้ว และเทวสถาน 8 เซียน – วัดหัวสวน (มีชื่อเสียง ลาภยศ สรรเสริญ)

Wat-HuaSuan-8

โบสถ์สแตนเลส “วัดหัวสวน” ตั้งอยู่ใน ตำบลเสม็ดใต้ อำเภอบางคล้า จังหวัดฉะเชิงเทรา สร้างด้วยสแตนเลสทั้งหลัง โดยเพื่อหวังให้โบสถ์แห่งนี้มีอายุยาวนานหลายพันปีและอยู่คู่ประเทศไทยไปตราบนานเท่านาน เริ่มก่อสร้างเมื่อเดือน เมษายน ปี 2552 เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคมปี 2553 โดยใช้งบประมาณทั้งสิ้น 50 ล้านบาท โบสถ์สแตนเลสแห่งนี้มีความกว้าง 7.5 เมตร ความยาว 18 เทตร ความสูง 6.5 เมตร โบสถ์สแตนเลสหลังนี้ สร้างขึ้นจากเงินบริจาคและแรงศรัทธาของพุทธศาสนิกชน สร้างบนฐานคอนกรีตสูงจากพื้นดิน มีรั้วที่ขึ้นรูปเป็นลายธรรมจักรทำจากสแตนเลส มีเสาหงส์คาบโคมไฟอยู่บริเวณโดยรอบวัด ในส่วนที่เป็นช่อฟ้า ใบระกา และหางหงส์ ก็ล้วนทำมาจากสแตนเลสทั้งสิ้น ตรงทางเข้าโบสถ์ด้านหน้ามีพระสิวลี ด้านหลังมีพระพุทธมหาลาภประดิษฐานอยู่ เป็นองค์ประธาน ประดับตกแต่งด้วยอัญมณีสีต่างๆมีความงดงามมาก โบสถ์หลังนี้ มีประตูทางเข้าทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ด้านละ 2 ช่อง เหนือช่องประตูเป็นภาพพระพุทธโสธรหน้าบันและหน้าต่างเป็นรูปพระพุทธเจ้า และเทวดาต่างๆ ด้วยเทคนิตกัดกรดและลงสีเหลือง ส่วนด้านรอบนอกโบสถ์แกะลายสแตนเลส เป็นรูปพระอรหันต์ 80 องค์ ชายล่างเป็นภาพแสดงเสวยชาติของพระพุทธเจ้า โดยวิธีพ่นแอร์บรัช และภายในโบสถ์ก็ยังมีภาพกิจกรรมพระชาดก 10 ขาติ ของพระพุทธเจ้า ซึ่งก็ใช้วิธีพ่นแอร์บรัชเช่นเดียวกัน

Wat-HuaSuan-13

ขอขอบคุณ http://www.smiletravel.in.th

โบสถ์สเตนเลส วัดหัวสวน

wathuasuan1

โบสถ์สเตนเลส วัดหัวสวน ตั้งอยูใน ต.เสม็ดเหนือ อ.บางคล้า จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งสร้างด้วยสแตนเลสทั้งหลัง เพื่อหวังให้โบสถ์มี อายุยาวเป็นพันปี พระอาจารย์มานิต เลขานุการเจ้าอาวาสวัดหัวสวน หมู่ที่ 4 ตำบลเสม็ดเหนือ อ.บางคล้า การสร้างอุโบสถสแตนเลส มาจากความคิดของพระครูภาวนาจริยกุลท่านเจ้าอาวาสวัด ที่เห็นว่า โบสถ์ หลังเก่ามีความชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว อยากจะสร้างขึ้น มาใหม่ให้คงอยู่ยาวนาน จากการศึกษาพบว่าสแตนเลส เป็นวัสดุที่สามารถอยู่ได้เป็นพันปี ในขณะที่ปูนจะมีอายุอยู่เป็นร้อยปี ท่านจึงตัดสินใจออกแบบโบสถ์สแตนเลส ขึ้นมา พร้อมกับหาบริษัทรับเหมาก่อสร้าง และเริ่มก่อสร้างเมื่อเดือนเมษายน 2552 เสร็จสิ้นในเดือนธันวาคม 2553โดยเจ้าอาวาสเป็นผู้ออกแบบ และควบคุมการก่อสร้างเองอย่างใกล้ชิด ใช้งบประมาณ 50 ล้านบาท อุโบสถ กว้าง 7.50 เมตร ความยาม 18 เมตร ความสูง 6.50 เมตร

อุโบสถสเตนเลส หลังนี้ ถือว่าสำเร็จได้ด้วยแรงศรัทธาของ พุทธศาสนิกชน ซึ่งมาบริจาคเงินโดย ทางวัดไม่ได้ บอก บุญเรี่ยไร ใดๆ ทั้งสิ้น สำหรับอุโบสถสแตนเลส หลังนี้ สร้างบนฐานคอนกรีตสูงจากพื้นดิน ด้วยฝีมือและ แรงงาน ของ พระลูกวัด มีรั้วสแตนเลส ลายธรรมจักรประดับ เสาหงส์คาบโคมไฟโดยรอบ ตัวอุโบสถสร้างจาก สแตนเลส ทั้งหลัง ยกเว้นพื้นที่ปูด้วยหินแกรนิต ด้านหน้ามี พระสิวลี ประดิษฐานอยู่ ส่วนด้านหลังมีพระพุท มหา ลาภประดิษฐาน เป็นประธาน ซึ่งกำลังรอช่างจากทาง ภาคเหนือมาประดับ อัญมณีต่างๆ หากเสร็จสมบูรณ์แล้ว คง จะงดงามมาก โบสถ์หลังนี้มีประตูเข้าทั้งด้านหน้า และ ด้านหลัง ด้านละ 2 ช่อง เหนือช่องประตูเป็น ภาพพระพุทธ โสธร ช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ทำจากสแตนเลส ขึ้นรูป และอ็อคอาร์กอน หน้าบันและ หน้าต่างเป็นรูปพระพุทธเจ้า และเทวดา ต่างๆ ด้วยเทคนิคกัดกรดและลงสีเหลือง ส่วนด้านนอกรอบอุโบสถแกะ ลายสแตนเลส เป็นรูป พระอรหันต์ 80 องค์ ชายล่างเป็นภาพแสดงเสวยชาติของ พระพุทธเจ้า โดยวิธีพ่นแอร์บรัช เช่นเดียวกับภาพชาดก 10 ชาติของ พระพุทธเจ้าในอุโบสถ
ขอขอบคุณ http://www.paiduaykan.com/

วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำที่ร่มเย็น

วัดหงษ์ทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา

170802

วัดหงษ์ทอง จ.ฉะเชิงเทรา มีทัศนียภาพที่สวยงาม ถูกห้อมล้อมด้วยผืนน้ำทะเล มี พระธาตุคงคามหาเจดีย์ฯ บรรจุพระธาตุพระอรหันต์ในทะเลเป็นแห่งแรกของโลก เป็นที่กราบไหว้บูชารำลึกถึงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ
และพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นการสืบสาน อายุพระพุทธ
ศาสนาให้ครบ 5,000ปี
การเดินทาง
รถยนต์ : อยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางจากกรุงเทพด้วยเส้นสุขุมวิทสายเก่าสุดเขต จ.สมทรปราการ รอยต่อ สมุทรปราการกับฉะเชิงเทรา ถ้าวิ่งจากเส้นถนน บางนา- ตราด ให้กลับรถที่ กม 38 เเล้วเลี้ยวเตัดเข้า ถนนสุชขุมวิท สายเก่า วิ่งไปเรื่อยๆ จะเจอ การเคหะบางพลีเมืองใหม่อยู่ทางด้านขวามือ ให้ขับตรงไปอีก จนเจอ สามแยกตัด ถนนสุขุมวิท สายเก่า ให้เลี้ยวซ้ายเเล้ววิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ไม่นานจะเจอป้ายบอกทางเป็นระยะๆ อยู่ฝั่งขวามือ มีธรรมจักรเป็นจุดสังเกต

ขอขอบคุณ http://www.taangrod.com/

วัดหงษ์ทอง

paragraph_11_501

วัดหงษ์ทอง ตั้งอยู่ที่ ต.สองคลอง อ.บางประกง จ.ฉะเชิงเทรา คลองหงษ์ทองในพื้นที่นี้นับว่าเป็นคลองชายฝั่งทะเลที่ขุดเลียบแนวตะเข็บ ระหว่าง อ.บางประกงของฉะเชิงเทรา กับ อ.คลองด่านของสมุทรปราการ นั่นคือจากถนนสุขุมวิทสายเก่า หากไม่เลี้ยวซ้ายเข้าวัดหงษ์ทอง ตรงไปอีกนิดเดียวก็เข้าเขตจังหวัดสมุทรปราการ หรืออีกเพียง ๑๐ กิโลเมตรก็จะถึงสถานตากอากาศบางปูอันลือลั่นมาแต่อดีตนั่นเอง ความเป็นมาของวัดหงษ์ทอง พระครูปรีชาประภากร (ปราชญ์ ปภากโร ศรนิล) เจ้าอาวาสวัดหงษ์ทอง ย้อนอดีตให้ฟังถึงความเป็นมาที่สิ่งปลูกสร้างสำคัญของวัดล้วนปลูกสร้างอยู่ “ในทะเล” จนถือเป็น “UNSEEN ของแปดริ้ว” ว่า สมัยที่ตัวท่านเองยังเป็นฆราวาสชื่อนายปราชญ์ ศรนิล ประกอบอาชีพเกษตรกรรมอยู่ที่บ้านเกิดนี้ เมื่อถึงวันพระหรือวันสำคัญทางศาสนา ชาวบ้านหงษ์ทองต้องเดินลุยโคลนสูงท่วมเข่า ลุยป่าชายเลนไปทำบุญที่วัด ซึ่งอยู่ไกลออกไปหลายกิโลเมตร เมื่อปี พ.ศ. ๒๕๑๐ หลวงปู่ปานวัดคลองด่าน ได้ริเริ่มตั้งสำนักสงฆ์ขึ้น ณ ที่ตั้งวัดปัจจุบันนี้ โดย กำนันสนใจ ภิญโญ บอกยกที่ดินให้วัดด้วยปากเปล่าเพื่อชาวบ้านจะได้ประกอบศาสนกิจได้สะดวกขึ้น

ต่อมา มีบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งมารวบรวมซื้อที่ดินละแวกคลองหงษ์ทองและคลองขุดจากชาวบ้าน ที่ดินตรงนี้ถูกขายไปด้วย จนกระทั่งในปี พ.ศ. ๒๕๒๒ นายปราชญ์ ได้รับเลือกเป็นผู้ใหญ่บ้านขณะนั้น พระอาจารย์โพธิ์ วรธรรมโม (แก้วขาว) เป็นหัวหน้าสำนักสงฆ์แห่งนี้อยู่ ผู้ใหญ่ปราชญ์ ศรนิล ได้เป็นกำลังสำคัญทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวบ้านและสำนักสงฆ์ ไปเจรจาขอซื้อที่ดินบริเวณที่ตั้งสำนักสงฆ์ ๒๑ ไร่ ๒ งาน จากบริษัทเอกชนรายดังกล่าว จนบริษัทยอมขายให้ในราคา ๑๒๐,๐๐๐ บาท โดยขอเวลาผ่อนชำระ ๓ ปี ซึ่งกว่าจะชำระเงินได้ครบถ้วน ผู้ใหญ่ปราชญ์ ต้องวิ่งเต้นประสานงาน และประสานความร่วมแรงร่วมใจของชาวบ้านเป็นอย่างมาก ในช่วงปี พ.ศ. ๒๕๒๒-๒๕๒๗ นี่เอง ที่ได้พัฒนาสำนักสงฆ์จนเป็นวัด แต่แรกจะตั้งชื่อว่า วัดพระปฐมหลวงปู่ปานอุปถัมภ์ แต่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแนะนำให้ใช้ชื่อ “หงษ์ทอง” ตามชื่อคลอง “คลองวัดหงษ์ทอง” จึงเป็นวัดโดยสมบูรณ์นับจากนั้นมา โดยกล่าวได้ว่า ผู้ใหญ่ปราชญ์ ศรนิล เป็นฆราวาสคนสำคัญในการฝ่าฟันอุปสรรค บุกเบิกสร้างวัดนี้มากับมือ

Read more »

UNSEEN ใกล้กรุง วัดหงษ์ทอง ฉะเชิงเทรา

วัดหงษ์ทอง ตั้งอยู่ที่ ต. คลองสอง อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

20130929103721-1985180858

แต่เดิมทีพื้นที่ของวัดหงษ์ทองเป็นพื้นดินมีจำนวนถึง 21 ไร่ 2 งาน แต่ได้ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนเหลือพื้นที่ดินให้เห็นประมาณ 8 ไร่ พระครูปรีชาประภากร พระอธิการปราชญ์ ปภากโร ซึ่งในขณะนั้นท่านได้ดำรงตำแหน่งเป็นท่านเจ้าอากาส ได้ทำการบูรณะวัด โดยจัดสร้างเขื่อนเพื่อยุติปัญหาน้ำทะเลกัดเซาะพื้นดิน ปรับปรุงเส้นทางคมนาคมโดยรอบทั้งทางวัดและหมู่บ้านเพื่อให้เดินทางสะดวก ออกกฎระเบียบภายในวัดห้ามจัดมหรสพ เล่นพนัน และเสพของมึนเมา ส่วนนอกวัดก็ได้เคร่งครัดปกครองสงฆ์โดยการมิให้ออกเรี่ยไรชาวบ้าน รวมถึงได้ก่อสร้างถาวรวัตถุของวัดในบริเวณเดิมที่ดินที่ถูกน้ำเซาะกัดกิน สิ่งปลูกสร้างต่างๆ เหล่านี้ จึงดูเสมือนปลูกอยู่ในทะเล แต่จริงๆแล้วทุกอย่างล้วนอยู่ในพิกัดของโฉนดวัดทั้งสิ้น

จากพื้นที่ในบริเวณวัด จะมีทางเดินเชื่อมไปยังพระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์ ซึ่งสร้างขึ้นเมื่อปี 2542 เจดีย์มีด้วยกัน 3 ชั้น แต่ละชั้นจะมีภาพวาดแสดงเรื่องราวเกี่ยวกับพระพุทธศาสนา รวมถึงประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ส่วนชั้นบนสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามบรรจุพระอรหันต์ธาตุ สามารถมองเห็นทัศนียภาพท้องทะเลและแผ่นดินในมุมสูงได้อย่างสวยงามถึง 360 องศา ทางขวาของพระธาตุจะเป็นพระอุโบสถ บริเวณด้านหลังมีเรือรบจำลอง รูปหล่อของพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หันหน้าออกปากอ่าว

ในระหว่างทางเดินนั้น ช่วงแรกของสะพานจะประดับด้วยพญานาค จุดกึ่งกลางทางเดินมีรูปปั้นของตัวละครในเรื่องพระอภัยมณี เช่นพระอภัยมณี นางยักษ์ผีเสื้อสมุทร สุดสาคร นางเงือก โดยมีสะพานไม้รอบๆ ให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้เช่นกัน

สามารถมาที่วัดหงษ์ทองได้ทุกวัน
วัดเปิดตั้งแต่เวลา 06.00-20.00 น.
ช่วงต้นเดือนเมษายนของทุกปีจะเปิดโอกาส ให้พุทธศาสนิกชนมาบวชเนกขัมมะ (ชีพราหมณ์) ที่วัด หรือหากท่านใดสนใจบวชเนกขัมมะ สามารถติดต่อกับทางวัดได้โดยตรง ผู้สนใจสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 038-528 367

Read more »

วัดหงษ์ทอง คลองสอง บางปะกง

2550

วัดหงษ์ทองเป็นวัดที่ตั้งอยู่ในทะเลอ่าวไทย อยู่ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา พี่เล็กได้ยินชื่อมานานแล้ว วันนี้มีโอกาสชวนแม่บ้านไปทำบุญจึงเดินทางทางบางบ่อ พอโผล่แยกสุขุมวิทสายเก่าก็เลี้ยวซ้ายไปทางบางปะกง ขับไปสักพักก็จะเจอป้ายชื่อวัดทางขวามือ (มีป้ายบอกทางอยู่ตลอดทาง)

ถ้านึกภาพไม่ออกก็ลองตั้งต้นสมุทรปราการ ขับผ่านบางปู เลยมาก็จะถึงคลองด่าน แยกบางบ่อ แล้วก็จะเข้าเขตฉะเชิงเทรา(บางปะกง) ก็จะถึงตำบลคลองสอง ซึ่งเป็นที่ตั้งของวัดหงษ์ทอง

ขอขอบคุณ http://thaimisc.pukpik.com/

เส้นทางการเดินทางวัดหงษ์ทอง

การเดินทางมาวัดหงษ์ทองนั้น ใช้เส้นทางถนนฉะเชิงเทรา – บางปะกง
ขับตรงมาเรื่อย ๆ ประมาณ ๒๖ กิโลเมตร จากฉะเชิงเทรา
จะลอดใต้สะพานลอยถนนบางนา – ตราด เข้าสู่ถนนสุขุมวิทสายเก่า
ขับไปอีก ๑๔.๕กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดหงษ์ทองอยู่ทางซ้ายมือที่ กม.๖๒ – ๖๓
สองข้างทางที่ผ่านมาจะผ่านนาเกลือ บ่อกุ้งและบ่อเลี้ยงหอยแครง
เมื่อขับตรงเข้าไปประมาณ ๑๐๐ เมตร จะพบร้านขายอาหารทะเลแห้งของชาวบ้าน ๒ – ๓ ร้าน
ของทะเลเหล่านี้มาจากชาวบ้านแถบนี้บ้าง รับมาบ้างขายในราคาย่อมเยา
มีทั้งปลากุเลา ปลาเข็มทะเล ปลากระบอก ปลากระตัก ปลาหมึกแห้ง กุ้งแห้ง
ผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านที่นี่ตากแห้งแบบธรรมชาติไม่ฟอกสี
ไม่ปะปนสารอันตราย เปิดขายตั้งแต่ ๗ โมง ถึงทุ่มกว่า ๆ

หลังจากผ่านร้านขายของตรงเข้าไปอีกเล็กน้อยจะเห็นบ่อปลาข้างหน้าอยู่
สามารถขับรถอ้อมบ่อไปได้ทั้งทางซ้ายและทางขวา โดยจะไปบรรจบกัน
ที่ปากทางเข้าวัด ทางซ้ายซึ่งไกลกว่านั้นถนนเรียบกว่า

แต่หากจะชมวิถีชีวิตของชาวประมง ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก
ที่ปลูกบ้านอยู่ริมคลองหงษ์ทองแล้วละก็ ต้องเลี้ยวขวาแต่สภาพถนน
ซึ่งปริ่มน้ำยามน้ำทะเลขึ้น ออกจะเฉอะแฉะเป็นหลุมเป็นบ่อนิดหน่อย
ไม่เหมาะกับรถที่ใต้ท้องรถต่ำ และรถที่เจ้าของกลัวผุจากน้ำเค็ม
ระหว่างทางจะเห็นบ้านชาวเลยกพื้นสูงหนีน้ำยามน้ำทะเลขึ้นอยุ่ประปราย
เห็นเรือประมงของชาวบ้านป่าชายเลน และระบบนิเวศทางน้ำด้วย

Read more »

วัดหงษ์ทอง สักการะพระธาตุพระอรหันต์ ชื่นชมความงามโบสถ์กลางทะเล Unseen เมืองฉะเชิงเทรา

หลายๆคนอาจคิดว่า ฉะเชิงเทราหรือแปดริ้ว มีทะเลด้วยหรือ ?? คำถามนี้เราไม่ปล่อยให้ท่านสงสัยนานเกินไป เว็บไซต์สวัสดีแปดริ้วดอทคอม ขอเฉลยว่า มีค่ะ แต่ทะเลที่ว่านั้น ไม่ใช่ชายทะเลแบบชายหาดบางแสนหรือพัทยา ที่สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่ทะเลของเราเป็นทะเลแบบป่าชายเลน ซึ่งมีอาณาบริเวณอยู่ที่ อ.บางปะกง นั่นเอง และสถานที่ที่ทางเว็บไซต์สวัสดีแปดริ้วดอทคอม ขอแนะนำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่ง ที่ไม่ควรพลาดคือ วัดหงษ์ทอง

วัดหงษ์ทองแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ตามประวัติได้เริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2533 และพระครูปรีชา ประภากร เข้ารับตำแหน่งเจ้าอาวาส ตั้งแต่ ปี 2534 จนถึงปัจจุบัน ได้ตั้งกฎระเบียบต่าง ๆ ในวัดไว้อย่างเข้มงวด เช่น ห้ามมิให้พระออกเรี่ยไร มิให้เสพสิ่งเสพติดทุกชนิด มิให้ดูโทรทัศน์ ฟังเพลง เล่นหวยล๊อตเตอรี่ มิให้จัดงานมหรสพ เป็นต้น

พระครูปรีชา ประภากร ได้เป็นผู้นำชาวพุทธปฏิบัติศาสนกิจอย่างสม่ำเสมอ ในช่วงวันสำคัญทางศาสนาต่างๆ และได้พัฒนาวัดหงษ์ทองแห่งนี้ให้เจริญและเป็นที่รู้จักแก่บุคคลทั่วไป รวมทั้งมีการก่อสร้างสิ่งต่างๆมากมาย ภายในวัดหงษ์ทอง อาทิเช่น ได้ก่อสร้าง “ศูนย์พัฒนาจิต ศาลาปฏิบัติธรรมกรรมฐาน ศรนิลอนุสรณ์” กว้าง 18วา ยาว 30วา ตั้งอยู่ในทะเล มูลค่า 10 ล้านบาท สร้างเมื่อปี 2527–2541

ซึ่งปัจจัยทั้งหมดที่นำมาใช้สร้างศูนย์พัฒนาจิตฯ ได้มาจากการบริจาคด้วยความศรัทธาของพสกนิกร ซึ่งเป็นพุทธศาสนิกชนร่วมสร้างถวายเป็นพระราชกุศล เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในปีกาญจนภิเษก ฉลองศิริราชสมบัติครบ 50 ปี

ขอขอบคุณ http://www.sawasdee-padriew.com/

 

 

วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ

1368643923-00059-o

วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางปะกง ในบริเวณพื้นที่ชายทะเลที่เป็นป่าชายเลน มีทางเดินเชื่อมจากบริเวณวัดที่ ชายฝั่งไปยังพระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์ และอุโบสถซึ่งอยู่ในทะเล เจดีย์มี 5 ชั้นมีภาพวาดเกี่ยว กับพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ไทย และประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ส่วนชั้นบนสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามบรรจุพระอรหันต์ธาตุ สามารถมองเห็นทัศนียภาพท้องทะเลและแผ่นดินในมุมสูงได้สวยงาม ทางเดินที่ทอดยาวไปในทะเลไปยัง “พระธาตุคงคามหาเจดีย์” ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทาง และมีข้อ ความและคติเตือนใจให้อ่านเล่นเพลินๆอีกด้วย จุดกึ่งกลางของทางเดินวัดหงษ์ทอง มีรูปปั้นพระอภัยมณี มีนางยักษ์ พระอภัย และตัวละครอีกหลายตัวตามวรรณคดี โดยมีสะพานไม้รอบๆ ให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้

ขอขอบคุณ http://pantip.com/

ถานที่ท่องเที่ยวทั่วไทย-วัดหงษ์ทอง

วัดหงษ์ทอง ตั้งอยู่หมู่ที่ 9 ตำบลสองคลอง อำเภอบางปะกง ในบริเวณพื้นที่ชายทะเลที่เป็นป่าชายเลน มีทางเดินเชื่อมจากบริเวณวัดที่ชายฝั่งไปยังพระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์ และอุโบสถซึ่งอยู่ในทะเล เจดีย์มี 5 ชั้นมีภาพวาดเกี่ยวกับพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ไทย และประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ส่วนชั้นบนสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามบรรจุพระอรหันต์ธาตุ สามารถมองเห็นทัศนียภาพท้องทะเลและแผ่นดินในมุมสูงได้สวยงาม

การเดินทาง จากกรุงเทพฯ ใช้เส้นทางกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ แยกเข้าถนนสุขุมวิทสายเก่า ไปจนถึง กม.ที่ 62 – 63 จะมีทางแยกขวาผ่านนาเกลือและบ่อกุ้งไปตามทางดินประมาณ 400 เมตรหรือเดินทางตามถนนบางนาตราด หรือทางด่วนบูรพาวิถี และแยกขวาเข้าบางบ่อ ไปบรรจบกับสุขุมวิทสายเก่าแล้วเลี้ยวซ้ายไปยังวัดก็ได้
หากเดินทางมาจากฉะเชิงเทรา ใช้เส้นทางฉะเชิงเทรา– บางปะกง ประมาณ 26 กิโลเมตร ลอดใต้สะพานลอยถนนบางนา – ตราด มาบรรจบกับถนนสุขุมวิทสายเก่า แยกขวาไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะเห็นทางเข้าวัดหงษ์ทองอยู่ทางซ้ายมือ

ขอขอบคุณ http://www.touronthai.com/

วัดหงษ์ทอง จังหวัดฉะเชิงเทรา

DSCN1510 (Medium) (1)

วัดหงษ์ทอง จ.ฉะเชิงเทรา มีทัศนียภาพที่สวยงาม ถูกห้อมล้อมด้วยผืนน้ำทะเล มี พระธาตุคงคามหาเจดีย์ฯ บรรจุพระธาตุพระอรหันต์ในทะเลเป็นแห่งแรกของโลก เป็นที่กราบไหว้บูชารำลึกถึงพระปัญญาคุณ พระบริสุทธิคุณ
และพระมหากรุณาธิคุณ ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระอรหันต์ทั้งหลาย เป็นการสืบสาน อายุพระพุทธ
ศาสนาให้ครบ 5,000ปี

การเดินทาง
รถยนต์ : อยู่จังหวัดฉะเชิงเทรา เดินทางจากกรุงเทพด้วยเส้นสุขุมวิทสายเก่าสุดเขต จ.สมทรปราการ รอยต่อ สมุทรปราการกับฉะเชิงเทรา ถ้าวิ่งจากเส้นถนน บางนา- ตราด ให้กลับรถที่ กม 38 เเล้วเลี้ยวเตัดเข้า ถนนสุชขุมวิท สายเก่า วิ่งไปเรื่อยๆ จะเจอ การเคหะบางพลีเมืองใหม่อยู่ทางด้านขวามือ ให้ขับตรงไปอีก จนเจอ สามแยกตัด ถนนสุขุมวิท สายเก่า ให้เลี้ยวซ้ายเเล้ววิ่งไปตามทางเรื่อยๆ ไม่นานจะเจอป้ายบอกทางเป็นระยะๆ อยู่ฝั่งขวามือ มีธรรมจักรเป็นจุดสังเกตุ

ขอขอบคุณ http://www.outsidethailand.com/

วัดหงษ์ทอง

wathongthong

วัดหงษ์ทอง หรือ วัดกลางน้ำ ตั้งอยู่ที่ อำเภอบางปะกง ในบริเวณพื้นที่ชายทะเลที่เป็นป่าชายเลน มีทางเดินเชื่อมจากบริเวณวัดที่ ชายฝั่งไปยังพระธาตุคงคามหาเจดีย์ปรีชาประภากร ปราชญ์ ศรนิล อนุสรณ์ และอุโบสถซึ่งอยู่ในทะเล เจดีย์มี 5 ชั้นมีภาพวาดเกี่ยว กับพุทธศาสนาและพระมหากษัตริย์ไทย และประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ส่วนชั้นบนสุดเป็นเจดีย์สีทองอร่ามบรรจุพระอรหันต์ธาตุ สามารถมองเห็นทัศนียภาพท้องทะเลและแผ่นดินในมุมสูงได้สวยงาม ทางเดินที่ทอดยาวไปในทะเลไปยัง “พระธาตุคงคามหาเจดีย์” ระหว่างทางเดินจะมีป้ายบอกทาง และมีข้อ ความและคติเตือนใจให้อ่านเล่นเพลินๆอีกด้วย จุดกึ่งกลางของทางเดินวัดหงษ์ทอง มีรูปปั้นพระอภัยมณี มีนางยักษ์ พระอภัย และตัวละครอีกหลายตัวตามวรรณคดี โดยมีสะพานไม้รอบๆ ให้สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้
วัดหงษ์ทอง
ภายใน“พระธาตุคงคามหาเจดีย์” ชั้นล่างประดิษฐานหลวงพ่อพุทธโสธรจำลอง และพระพุทธรูปอื่นๆอีกมากมายไว้ให้ผู้มีจิตศรัทธา ได้สักการะ และทางวัดได้มีการจัดให้มีการตักบาตรพระร้อย คือการตักบาตรโดยใช้เงินเหรียญ (สามารถแลกเหรียญได้กับทางวัด) ซึ่งมีพระพุทธรูปเป็นร้อยๆรูปตั้งอยู่ สามารถเดินได้โดยรอบ เมื่อขึ้นไปที่บริเวณชั้น 2 ของอาคารจะพบกับ หุ่นขี้ผึ้งเหมือนรูปจริง ของหลวงปู่สด หรือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนทฺสโร) วัดปากน้ำภาษีเจริญ และบริเวณใกล้เคียงกัน มีองค์พระแก้วมรกตจำลอง ประดิษฐานอยู่ บริเวณชั้น 2 นี้ ยังเป็นแหล่งจัดแสดงภาพวาดของพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่อดีตจนถึงรัชกาลปัจจุบันและพระบรม วงศานุวงศ์ และยังมีจุดชมวิว ซึ่งเมื่อมองออกไปจะเห็นทะเลเมื่อถึงเวลาน้ำขึ้น จะดูเหมือนอาคารนี้ลอยอยู่ในน้ำเลยทีเดียวชั้นบน
สุดของ“พระธาตุคงคามหาเจดีย์” มีเจดีย์สีเหลืองทองตั้งเด่นอยู่ Read more »

จารึกวัดพระธาตุพนม

ชื่อจารึก จารึกวัดพระธาตุพนม
ชื่อจารึกแบบอื่นๆ –
อักษรที่มีในจารึก ไทยน้อย
ศักราช พุทธศักราช ๒๑๕๗
ภาษา ไทย
ด้าน/บรรทัด จำนวนด้าน ๑ ด้าน มี ๑๘ บรรทัด
วัตถุจารึก หินทราย
ลักษณะวัตถุ รูปใบเสมา
ขนาดวัตถุ กว้าง ๔๘ ซม. สูง ๖๓ ซม.
บัญชี/ทะเบียนวัตถุ ๑) กองหอสมุดแห่งชาติ กำหนดเป็น “นพ. ๑”
๒) ในหนังสือ ศิลาจารึกอีสานสมัยไทย – ลาว กำหนดเป็น “จารึกวัดพระธาตุพนม ๒”
๓) ในหนังสือ อุรังคนิทาน กำหนดเป็น “ศิลาจารึกของเจ้าพระยานคร” Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .