คำนมัสการพระธาตุแช่แห้ง

55256855

นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 จบ)
ยา ธาตุภูตาอะตุลานุภาวา จิรังปะติฏฐิตา
นันทะกัปปะเก ปุเรเทเวนะ คุตตาวะระพุทธะธาตุง จิรัง
วันทามิหันตังชินะธาตุโย โสตะถาคะตัง
อะหัง วันทามิสัพพะทา อะหัง วันทามิ ทูระโต

ขอขอบคุณ http://www.ch.or.th/

ตำนานพระธาตุแช่แห้ง ปรากฎในธรรมพระเจ้าเลียบโลกทรงพระพุทธทำนาย

ff1

ปรากฏในอดีตกาลองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณแล้วเสด็จประทับ ณ พระเชตะวันมหาวิหารถึงพรรษาที่ ๒๕ พรรษา วันหนึ่งเวลาใกล้รุ่งพระองค์ทรงเล็งเห็นด้วยพระญาณว่า เราตถาคตเมื่อตรัสรู้แล้ว บัดนี้อายุเราได้ ๖๐ ปี เมื่ออายุแห่งเราได้ ๘๐ ปีเราก็จะดับขันธ์ปรินิพพาน ยังเหลือเวลาอีก ๒๐ ปีที่เราตถาคตจะดำเนินไปโปรดเทศนาสั่งสอนเทวดา มนุษย์และเวไนยสัตว์ทั้งหลาย ในเมื่อพระองค์ทรงเล็งเห็นดังนั้นแล้ว พระพุทธเจ้าตนมีพระมหากรุณาจะเสด็จจึงเรียกเอาพระอรหันต์สาวกมีพระอานนท์เป็นผู้ถือบาตร พระรัตนเถร พระโสภณเถร พญาเมืองกุสินารามีพระนามพญาอโศกถือรองเท้าและไม้เท้าเสด็จตามพระพุทธเจ้าตามอุปฏฐาก ส่วนพญาอินทร์ก็ลงมาถือฉัตรกันแดดกันฝนให้พระผู้เป็นเจ้า พระองค์ได้โปรดเทศนาชาวเมืองกุสินาราเป็นปฐมฤกษ์ พระก็เสด็จออกจากเชตวนอาราม ในวันเดือนเกี๋ยง แรม ๑ ค่ำ ไปยังเมืองคูลวา เมืองแกว เมืองลังกา เมืองสวนตาล เมืองจีน เมืองฮ่อ เมืองลื้อ เมืองเขิน เมืองพระยาก เมืองเชียงแสน เมืองเชียงราย ดอยนภยาว ไปจอมแว ดอยคระชาว เมืองลำปาง เมืองแพร่แล้วเสด็จมาถึงยังเมืองนันทบุรีเสด็จประทับอยู่ที่ริมน้ำห้วยไคร้ Read more »

ประวัติพระธาตุแช่แห้ง

จากประวัติเก่าแก่ของเมืองน่าน เป็นระยะเวลายาวนานกว่า ๖๐๐ ปี ที่เมืองน่านดำรงอยู่ในฐานะนครที่มีเจ้าผู้ครองนคร แม้บางครั้งเมืองน่านจะตกอยู่ใต้อำนาจของกรุงสุโขทัย และกรุงรัตนโกสินทร์ก็ตาม แต่ด้วยชัยภูมิที่ตั้งของเมืองน่าน เป็นเมืองค่อนข้างเร้นลับ ยากแก่การเดินทางไปถึงของผู้คน และวัฒนธรรม ศิลปกรรมภายนอก เมืองน่านจึงสร้างสมมรดกทางศิลปกรรม และวัฒนธรรม ด้วยเอกลักษณ์ของตนเอง
สำหรับองค์พระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ที่สร้างไว้แต่เดิมนั้น แม้บางยุคบางสมัยจะถูกละทิ้งให้รกร้างไปบ้าง แต่ต่อมาได้มีเจ้าผู้ครองนครองค์อื่นๆ บูรณปฏิสังขรณ์องค์พระเจดีย์ให้สูงใหญ่ยิ่งๆขึ้น ปัจจุบันสูงประมาณ ๒ เส้นเศษ
จึงนับว่าพระธาตุแช่แห้งนี้ เป็นปูชนียสถานสำคัญ และศักดิ์สิทธิ์เก่าแก่โบราณของจังหวัดน่าน ซึ่งมีอายุกว่า ๖๐๐ ปีมาแล้ว (นับถึง พ.ศ. ๒๕๔๐) โดยปกติจะมีงานเทศกาลนมัสการเป็นประจำทุกปี ระหว่างวันขึ้น ๑๑ ค่ำ – ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ (เดือน ๖ เหนือ) จะอยู่ในราวๆเดือนมีนาคม
เรื่องราวประวัติความเป็นมาของพระธาตุแช่แห้ง ตามที่ประมวลมาให้เป็นที่รู้จักกันนี้คงเป็นเพียงสังเขปปะติดปะต่อกันกับประวัติศาสตร์ของเมืองน่าน หากจะเจาะลึกให้ละเอียดลงไปอีก คงต้องขออ้างข้อความตามพงศาวดารเมืองน่านบางตอน ปรากฏข้อความ ดังนี้ Read more »

พระธาตุแช่แห้ง จังหวัดน่าน

111_2

พระธาตุแช่แห้ง ตั้งอยู่ภายใน วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ ทางฝั่งตะวันออกของแม่น้ำน่าน บริเวณที่เป็นศูนย์กลางเมืองน่านเดิม หลังจากที่ย้ายมาจากเมืองปัว ซึ่ง พระธาตุแช่แห้ง เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต

พระธาตุแช่แห้ง เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ สร้างในสมัยเจ้าพระยาการเมือง (เจ้าผู้ครองนครน่านระหว่าง พ.ศ.1869-1902) เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระมหาชินธาตุเจ้า 7 พระองค์ พระพิมพ์เงิน และพระพิมพ์ทอง ที่ได้รับพระราชทานจากพระมหาธรรมราชาลิไท เมื่อครั้งที่เจ้าพระยาการเมืองเสด็จไปช่วยสร้างวัดหลวงอภัย (วัดป่ามะม่วง จังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน) ในปีพ.ศ. 1897 Read more »

พระธาตุแช่แห้ง

200px-Phra_That_Chae_Haeng,_Province_de_Nan

พระธาตุแช่แห้ง พระอารามหลวง วัดพระธาตุแช่แห้ง หมู่ 3 บ้านหนองเต่า ตำบลม่วงตี๊ด อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน เดิมเป็นวัดราษฎร์ ปัจจุบันเป็นพระอารามหลวง ประดิษฐานอยู่ ณ อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน อยู่ห่างจากตัวเมืองออกไปประมาณ 3 กิโลเมตร องค์พระธาตุตั้งอยู่บนเนินเขาลูกเตี้ย ๆ เป็นสีทองสุกปลั่ง สามารถมองเห็นได้แต่ไกล เนื่องจากสูงถึง 2 เส้น เป็นอนุสรณ์ของความรักและความสัมพันธ์ ระหว่างเมืองน่านกับเมืองสุโขทัยในอดีต

รูปแบบสถาปัตยกรรม
ตัวพระธาตุตั้งอยู่บนเชิงเนินปูด้วยอิฐ ลาดขึ้นไปยังยอดเนิน กว้างประมาณ 20 วา มีบันไดนาคขนาบทั้งสองข้าง องค์พระเจดีย์เป็นแบบล้านนา ฐานเป็นสี่เหลี่ยมซ้อนกันขึ้นไปจนสูง ใช้แผ่นทองเหลืองบุรอบฐาน แล้วลงรักปิดทอง จากพงศาวดารเมืองน่านกล่าวว่า พระยาการเมือง เจ้านครน่านได้อัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจาก กรุงสุโขทัย มาประดิษฐานไว้ที่ดอยภูเพียงแช่แห้ง และตามตำนานกล่าวว่า พระพุทธเจ้าได้เสด็จมาประทับสรงน้ำที่ริมฝั่ง แม่น้ำน่านทางทิศตะวันออก ที่บ้านห้วยไค้ และเสวยผลสมอแห้ง ซึ่งพระยามลราชนำมาถวาย แต่ผลสมอนั้นแห้งมาก พระพุทธเจ้าจึงทรงนำผลสมอนั้นไปแช่น้ำก่อนเสวย และทรงพยากรณ์ว่า ต่อไปที่นี่จะมีผู้นำพระบรมสารีริกธาตุมาประดิษฐาน จึงเรียกพระสถูปที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุแห่งนี้ว่า พระธาตุแช่แห้ง Read more »

วัดพระธาตุจอมกิตติ อ. เชียงแสน จ. เชียงราย

วัดพระธาตุจอมกิตติ – ข้อมูลทั่วไป

268_1206703637_jpg_652

วัดพระธาตุจอมกิตติ ตั้งอยู่บนเนินเขานอกตัวเมือง เป็นเจดีย์ทรงมณฑปที่สร้างขึ้นโดยพระเจ้าพังคราช เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ต่อมาในปี พ.ศ.2030 หมื่นเชียงสงได้ก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่ครอบทับองค์เดิม บริเวณพระธาตุจอมกิตติ มีพระธาตุขนาดเล็กตั้งอยู่อีกองค์หนึ่ง คือ พระธาตุจอมแจ้ง และมีจุดชมทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงอยู่หลังองค์พระธาตุจอมแจ้ง มีบันไดนาค 339 ขั้น เป็นทางเดินขึ้นไปนมัสการหรือจะนำรถขึ้นไปจอดบนพระธาตุก็ได้

ขอขอบคุณ http://www.ezytrip.com/

วัดพระธาตุจอมกิตติ

วัดพระธาตุจอมกิตติ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย (อยู่ถนนเลียบแม่น้ำเชียงแสน – เชียงของ) ตามพงศาวดารกล่าวว่า พระเจ้าพังคราช โปรดเกล้าฯ ให้สร้าง เมื่อ พ.ศ. 1483 สมัยเดียวกับการสร้างพระธาตุจอมทอง เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ เป็นเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสองสมัยเชียงแสน ต่อมาในปี พ.ศ. 2030 หมื่นเชียงสงได้ก่อสร้างเจดีย์องค์ใหม่อยู่อีกองค์หนึ่ง คือ พระธาตุจอมแจ้ง
มีบันไดนาค 339 ขั้น เป็นทางเดินขึ้นไปนมัสการหรือจะนำรถขึ้นไปจอดบนพระธาตุได้ สิ่งสำคัญภายในวัด ได้แก่ พระเจดีย์ทรงปราสาทยอดทรงระฆัง หลังคารูปบัวคว่ำ พระเจ้าพังคราชโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.1483 เพื่อบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ต่อมาเจ้าสุวรรณ คำล้าน เจ้าเมืองเชียงแสน ได้สร้างครอบเจดีย์องค์เดิมไว้ เมื่อปี พ.ศ.2030 ตามรูปแบบสถาปัตยกรรมองค์เจดีย์ในปัจจุบัน

พระธาตุจอมกิตติ(1 ใน พระธาตุ 9 จอม พระธาตุศักดิ์สิทธิ์ประจำ จ.เชียงราย)
ที่ตั้ง วัดพระธาตุจอมกิตติ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โทร. o- ๕๓๖๕- o๕๓๔ มีพระครูวิกรมสมาธิคุณเป็นเจ้าอาวาส Read more »

พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองเชียงแสน

จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.1 ริคเตอร์ ที่ชายแดนประเทศลาวเมื่อวันที่ 17 พ.ค. ได้ส่งผลให้พระธาตุจอมกิตติ ในเมืองโบราณเชียงแสน ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหวราว 60 กิโลเมตร เกิดความเสียหาย โดยยอดของพระธาตุได้หักสะบั้นลงมา

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของกรมศิลปากรพบว่ายอดของพระธาตุได้รับความเสียหายหลายส่วน โดยเฉพาะอัญมณีประดับยอดฉัตร 9 ชนิด ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานบรรจุในยอดฉัตร เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ(พระเกศาธาตุ)เมื่อ ปี พ.ศ. 2519 ปรากฏว่าได้หลุดออกมา 5 เม็ด โดย ณ วันนี้กรมศิลปกรสามารถตามหาพบแล้ว 3 เม็ด ส่วนอีก 2 เม็ดยังคงหาไม่พบ ซึ่งหากว่าไม่สามารถหาอัญมณีที่หายไปได้ ทางกรมศิลปากรจะทำหนังสือไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานเม็ดพลอยสี ที่เหมือนกับเม็ดเก่ามาประดับไว้ในยอดฉัตรดังเดิมต่อไปในการทำการบูรณะองค์พระธาตุจอมกิตติ
Read more »

วัดพระธาตุจอมกิตติ WATPHRATHATCHOMKITTI

IMG_07

วัดพระธาตุจอมกิตติ มีประวัติมาช้านาน ตั่งแต่สมัย 30 ปี ก่อนพุทธกาล เมื่อพระพุทธเจ้า ได้เสด็จมาเยือนพระเจ้า
สิงหนวติ ปฐมกษัตริย์แห่งพันธุสิงหนวตินคร หรือเมืองโยนกนครราชธานีไชยบุรีศรีช้างแสน ในฐานะพระญาติ และได้ประทานพระ
เกศาซึ่งได้บรรจุไว้ในเจดีย์ที่สร้างขึ้นบนดอยน้อย หรือดอยจอมกิตติ
ครั้นสมัยพระเจ้าพังคราช พุทธศตวรรษที่ 9 ได้รับพระบรมธาตุส่วนพระนลาฏ (หน้าผาก) รวม 16 องค์ แบ่งไปบรรจุ
ที่ดอยจอมทอง เมืองพะเยา 5 องค์ บรรจุไว้ที่ดอยน้อย 11 องค์ ในสมัยพ่อขุนผาเมือง พุทธศตวรรตที่ 18 ได้บรรจุพระบรมธาตุรวม
ุไว้อีก ส่วนพระอุระ (ทรวงอก) 8 องค์ พระรากขวัญ (ไหปลาร้า) 5 องค์ รวมแล้วมีพระบรมธาตุบรรจุไว้ในเจดีย์จอมกิตตินี้ถึง 25 องค์

หลังจากนั้นก็มีการบูรณะ และขยายฐานองค์พระธาตูเรื่อยมาจนปัจุบัน มีฐานกว้าง 8.70 เมตร สูง 25 เมตร
นอกจากองค์พระธาตุจอมกิตติแล้ว ในบริเวณวัดยังมีพระธาตุจอมแจ้ง ซึ่งเจ้าสุวรรณคำล้านนา สร้างในปี พ.ศ. 2030 มีพระอุโบสถ์
ซุ้มประตูโขง บันไดนาค ศิลปะแบบล้านนาที่งดงาม ที่บรเวณหน้าโบสถ์ยังสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของแม่น้ำโขงได้อย่างสวยงาม
และที่เชิงดอยยังมีพระพุทธโยนกมิ่งมงคลเชียงแสนองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่บริเวณบ่อน้ำทิพย์อันศักดิ์สิทธิ์ Read more »

ที่มาของพระธาตุจอมกิตติ ก่อนยอดฉัตรหัก

268_1206703637_jpg_652

จากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด ๖.๑ ริคเตอร์ ที่ชายแดนประเทศลาว เมื่อวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๐ เป็นผลให้พระธาตุจอมกิตติ พระธาตุองค์สำคัญและเก่าแก่ในเมืองโบราณเชียงแสน ซึ่งตั้งอยู่บนยอดดอยน้อยหรือดอยจอมกิตติ ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ที่อยู่ห่างจากจุดเกิดแผ่นดินไหวราว ๖๐ กิโลเมตร เกิดรอยร้าวในส่วนองค์พระธาตุ รวมทั้งในส่วนยอดฉัตรและยอดปลีได้หักพังลง

ทั้งนี้จากการตรวจสอบของกรมศิลปากร พบว่า ยอดขององค์พระธาตุจอมกิตติได้รับความเสียหายหลายส่วน โดยเฉพาะอัญมณีประดับยอดฉัตร ๙ ชนิด ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานบรรจุในยอดฉัตร เพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุ (พระเกศาธาตุ) เมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๙ ปรากฏว่าได้หลุดออกมา ๕ เม็ด โดย ณ เวลานี้ กรมศิลปกรสามารถตามหาอัญมณีประดับยอดฉัตรพบแล้ว ๓ เม็ด ส่วนอีก ๒ เม็ดยังคงหาไม่พบ ซึ่งหากว่าไม่สามารถหาอัญมณีที่หายไปได้ ทางกรมศิลปากรจะทำหนังสือไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานเม็ดพลอยสีที่เหมือนกับเม็ดเก่ามาประดับไว้ในยอดฉัตรดังเดิมต่อไป ในการทำการบูรณะองค์พระธาตุจอมกิตติ Read more »

ความเป็นมาของ วัดพระธาตุจอมกิตติ

23

วัดพระธาตุจอมกิตติ เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ ที่เป็นสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเปรียบเสมือนเป็นองค์แทนพระองค์ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญเพียรเผยแพร่หลักธรรมแห่งพุทธศาสนา เพื่อการหลุดพ้นจากบ่วงกรรมความทุกข์ทั้งปวง อันจะนำพาความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตของผู้ที่เคารพและศรัทธา

ตามคติความเชื่อของชาวล้านนามาตั้งแต่โบราณกาล เชื่อกันว่าการได้ทำบุญวัดประจำปีเกิด หรือการได้ไปทำบุญวัดที่เป็นมงคลนามทั้งเก้า รวมถึงการได้ไปนมัสการสักการะพระธาตุเก้าจอม จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล “อยู่เย็นเป็นสุข” หรือ ตามคติล้านนาว่า “อยู่ดีกินหวาน” ประสบความสำเร็จทั้งการงาน การเงิน การดำเนินชีวิตได้สมดังปรารถนา

วัดพระธาตุจอมกิตติ ถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มีอัศจรรย์ปาฏิหาริย์มาก จากคำบอกเล่าของบรรพชนมักได้ยินได้ฟังอยู่เสมอว่า ทุกวันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ ของบางเดือน จะเกิดปรากฏการณ์พิเศษเกิดขึ้นอยู่เสมอๆ เช่น การปรากฏลำแสงพวยพุ่ง สุขสว่างสดใสเป็นรัศมีสีแดง สีเหลือง สีขาว ขึ้นรอบองค์พระธาตุ หรือ พาดผ่านขึ้นสู่ท้องฟ้าบ้าง หรือการปรากฏความร่มเย็นเป็นสุขมีฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลที่แห้งแล้วบ้าง หรือปรากฏกลิ่นหอมโรยรื่นอบอวลชวนให้จิตใจสดชื่นแจ่มใสบ้าง ซึ่งปรากฏการณ์เหล่านี้สำแดงออกมาโดยอัศจรรย์ด้วยพุทธานุภาพเป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่ผองชนที่เคารพเลื่อมใสเป็นอันมาก Read more »

แผนที่เดินทางนมัสการพระธาตุ 9 จอม

ตำนานบูชาพระธาตุเก้าจอม
พระธาตุเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวพุทธ ที่เป็นสถานที่เก็บพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อันเปรียบเสมือนเป็นองค์แทนพระองค์ไว้ให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้บูชา ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงบำเพ็ญเพียรเผยแพร่หลักธรรมแห่งพุทธศาสนา เพื่อการหลุดพ้นจากบ่วงกรรมความทุกข์ทั้งปวง อันจะนำพาความเป็นสิริมงคลมาสู่ชีวิตของผู้ที่เคารพและศรัทธา
ตามคติความเชื่อของชาวล้านนามาตั้งแต่โบราณกาล เชื่อกันว่าการได้ทำบุญวัดประจำปีเกิด หรือการได้ไปทำบุญวัดที่เป็นมงคลนามทั้งเก้า รวมถึงการได้ไปนมัสการสักการะพระธาตุเก้าจอม จะทำให้เกิดความเป็นสิริมงคล “อยู่เย็นเป็นสุข” หรือ ตามคติล้านนาว่า “อยู่ดีกินหวาน” ประสบความสำเร็จทั้งการงาน การเงิน การดำเนินชีวิตได้สมดังปรารถนา Read more »

พระธาตุจอมกิตติ จังหวัดเชียงราย

jom-kitti-x

ที่ตั้ง วัดพระธาตุจอมกิตติ ตำบลเวียง อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โทร. o- ๕๓๖๕- o๕๓๔ มีพระครูวิกรมสมาธิคุณเป็นเจ้าอาวาส

ประวัติพระธาตุ ตามตำนานกล่าวว่า กษัตริย์แห่งราชวงค์โยนกองค์ที่ ๒๔ คือ พระเจ้าพังคราช พร้อมด้วยโอรส คือ พระเจ้าพรมมหาราช ได้รับพระบรมสารีริกธาตุจากพระเถระเจ้าชาวโกศล เมืองสุธรรมาวดี นามว่า พระพุทธโฆษาจารย์ รวม ๑๖ องค์ พระเจ้าพังคราชจึงทรงโปรดแบ่งพระบรมสารีริกธาตุออกเป็นขนาดใหญ่ ๑ องค์ ขนาดกลาง ๒ องค์ ขนาดเล็กอีก ๒ องค์ ประธานแก่พระยาเรือนแก้ว เจ้าเมืองไชยนาราย์ ซึ่งพระยาเรือนแก้วได้สร้างเจดีย์ประดิษฐานไว้ ณ. ดอยจอมทองที่เหลืออีก ๑๑ องค์ ทรงโปรดให้นำพระโกศแก้ว พระโกศเงิน มารองรับพระบรมธาตุ พระราชทานให้พระเจ้าพรหมมหาราชนำไปประดิษฐานไว้ที่ดอยน้อย หรือดอยจอมกิตติที่พระเจ้าสิงหนวัตนิ ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงค์โยนกได้เคยบรรจุพระบรมสารีริธาตุ ทั้ง

๑๑ไว้ด้วยกัน ในปี ๑๔๘๓ ในระยะต่อมาเจดีย์พระธาตุทรุดโทรมมากเจ้าฟ้าเฉลิมเมือง เจ้าเมืองเชียงแสน ได้ร่วมกับศรัทธาชาวเมืองบูรณะปฏิสังขรณ์ขึ้นอีกครั้งในปี ๒๒๓๗ Read more »

วัดพระธาตุจอมกิตติ

ประวัติวัด และพระบรมธาตุ[แก้]พระเจ้าพังคราช เป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรโยนกเชียงแสน ขึ้นครองราชย์เมื่อ พ.ศ. 1458 [1] มีราชโอรสคือ พระเจ้าพรหม ทรงสร้างวัดพระธาตุจอมกิตติ เป็นเจดีย์ย่อเหลี่ยมไม้สิบสอง เพื่อบรรจุพระบรมธาตุ นอกกำแพงเมืองเชียงแสน

พระธาตุเจดีย์ หรือบรมธาตุเจดีย์ มีลักษณะฐานล่างเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส ถัดขึ้นไปเป็นฐานปัทม์ย่อมุมเป็นเรือนธาตุ (ย่อมุมรองรับ) ซึ่งมีซุ้มทิศประดิษฐานพระพุทธรูปประทับยืนปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน ส่วนยอดเป็นองค์ระฆังกลม ตำนานการสร้างพระธาตุจอมกิตติค่อนข้างจะสับสนพอ ๆ กับตำนานเมืองเชียงแสน

ศิลาจารึกวัดพระธาตุจอมกิตติได้กล่าวไว้ว่า เมื่อตอนที่พระพุทธองค์ได้เสด็จมา ณ ที่นี้ พระองค์ได้ทรงดึงพระเกศาและประดิษฐานไว้ที่พระธาตุจอมกิตติ แล้วพระองค์จึงทรงพยากร์ว่า แว้นแคว้นแห่งนี้จะคงสืบพระพุทธศาสนาดำรงได้ครบ 5000 ปี

บางตำนานบอกว่า เมืองเชียงแสนนั้นเกิดมาตั้งแต่สมัยพระพุทธองค์ยังดำรงพระชนม์ชีพ และเคยเสด็จมายังเชียงแสน ประทานเส้นพระเกศาให้ไว้ จึงสร้างพระธาตุขึ้นมาเพื่อประดิษฐาน Read more »

วัดพระธาตุช่อแฮ Wat Phrathat Chohae ?จ.แพร่

wat-phrathatchohae1

เป็นวัดและโบราณสถานสำคัญตั้งอยู่บนเนินเขา เป็นที่เคารพสักการะของชาวแพร่ สร้างขึ้นสมัย พระมหาธรรมราชา ( พระเจ้าลิไท ) กษัตริย์แห่ง ราชวงศ์สุโขทัย ครั้งยังทรงเป็นพระมหาอุปราชา เมื่อปี พ.ศ.1879 พระองค์ทรงมีความเลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนาได้ทรงอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ มาประดิษฐานไว้ ณ เจดีย์วัดพระธาตุช่อแฮ และได้รับการบูรณะต่อเนื่องกันมาจนถึงยุคสมัยราชวงศ์ล้านนาเสื่อมอำนาจลง วัดพระธาตุช่อแฮเริ่มขาดการบูรณะและทรุดโทรมลง จนได้มีการบูรณะอีกครั้งในยุคปัจจุบันโดย ครูบาศรีวิชัย เมื่อปี พ.ศ.2476

วัดพระธาตุช่อแฮ ถือเป็น วัดพระธาตุประจำปีเกิดของผู้ที่เกิดปีขาล
สถานที่ตั้งวัดพระธาตุช่อแฮ ถนนทางหลวง 1022 ตำบลช่อแฮ อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .