ยลโลหะปราสาทหนึ่งเดียวในโลก ที่ วัดราชนัดดาฯ

ในยุคสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 นั้น นอกจากจะเป็นยุคที่เศรษฐกิจของประเทศสยามจะรุ่งเรืองสุดๆ แล้ว ก็ยังถือว่าเป็นยุคทองของการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาอีกต่างหาก เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นผู้ที่มีศรัทธาในศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก ในสมัยนั้นจึงได้มีการโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดขึ้นหลายแห่ง รวมทั้งบูรณปฏิสังขรณ์วัดเก่าอีกหลายวัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นวัดราชโอรสาราม วัดเทพธิดาราม วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม และอีกมากมายหลายวัดซึ่งก็ล้วนแล้วแต่สวยงามต่างกันไป

สำหรับ “วัดราชนัดดาราม ราชวรวิหาร” ที่ฉันจะพามาชมในวันนี้ก็เป็นอีกวัดหนึ่งที่รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2389 ในปลายรัชกาลของพระองค์

ยลโลหะปราสาทหนึ่งเดียวในโลก ที่ วัดราชนัดดาฯ

ส่วนเหตุที่วัดแห่งนี้มีชื่อว่าวัดราชนัดดา หรือแปลว่า หลานของพระมหากษัตริย์นั้นก็เนื่องจากว่าพระองค์โปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดแห่งนี้ขึ้นเพื่อพระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี (ภายหลังทรงเป็นพระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4)

Read more »

วัดราชนัดดารามวรวิหาร

โลหะปราสาท “วัดราชนัดดารามวรวิหาร” สร้างในสมัยรัชกาลที่ 3
ชื่อสามัญ
วัดราชนัดดารามวรวิหาร
ประเภท
พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร
ที่ตั้ง
ที่ตั้ง ถ. มหาไชย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ
( ที่อยู่ : ที่ตั้ง ถ. มหาไชย แขวงบวรนิเวศ เขตพระนคร กรุงเทพฯ )

พระประธาน

พระพุทธรูปสำคัญวัด ราชนัดดาราม อยู่ที่ถนนมหาไชย สร้างเมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๙ เป็นวัดที่รัชกาลที่ ๓ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแด่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี มีเจ้าพระยายมราชเป็นแม่กองออกแบบ เจ้าพระยาศรีพิพัฒน์เป็นแม่กองสร้างโลหะปราสาท วัดนี้แปลกกว่าวัดอื่น คือ โปรดเกล้าฯ ให้สร้างธรรมเจดีย์ปราสาทแทนการสร้างพระเจดีย์ (นับเป็นแห่งที่ ๓ ของโลก) มีความสูง ๓๖เมตร ประกอบด้วย เจดีย์ล้อมรอบ ๓๗ องค์ เพื่อให้เท่ากับ “โพธิปักขียธรรม ๓๗ ประการ” ปัจจุบันโลหะปราสาทแห่งนี้เหลืออยู่เพียงแห่งเดียวในโลก เนื่องจากโลหะปราสาทที่ประเทศอินเดียและศรีลังกาได้ปรักหักพังไปหมดแล้ว

ขอขอบคุณ http://www.phuttha.com/

วัดราชนัดดา – โลหะปราสาท และพระบรมสารีริกธาตุ

001

หลังแรกสร้างในสมัยพุทธกาล ที่ประเทศอินเดีย บริเวณทิศตะวันออกของเมืองสาวัตถีในสมัยก่อน มีเรื่องเล่าว่า นางวิสาขา อุบาสิกาคนสำคัญในพุทธศาสนา ครั้งหนึ่งนางไปฟังธรรมตามปรกติแล้วลืมทิ้งเครื่องประดับอันมีค่าไว้ ปรากฏว่า พระอานนท์ พบเข้าและเก็บรักษาไว้ให้
เมื่อนางวิสาขาทราบความจึงหมายใจจะมอบเครื่องประดับนั้นถวายเป็นพุทธบูชา แต่นั่นเป็นการผิดวินัยสงฆ์ นางจึงออกอุบายขายเครื่องประดับนั้นแต่ด้วยความที่มีราคามหาศาลถึง ๙ โกฏิ (๑ โกฏิ เท่ากับ ๑๐ ล้าน)

โลหะปราสาทหลังที่สองสร้างขึ้นที่อนุราธปุระ หรือเมืองหลวงเก่าของศรีลังกา สร้างขึ้นในสมัยของ พระเจ้าทุฏคามนี ราวพุทธศักราช ๓๘๒ มีขนาดใหญ่โตไม่แพ้หลังแรก มีความสูงถึง ๙ ชั้น มีห้องจำนวน ๑,๐๐๐ ห้องเท่ากัน ประดับด้วยงาช้างและอัญมณีงดงามยิ่งนัก หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดง ปัจจุบันเหลือเพียงซากเสานับพันต้นเป็นอนุสรณ์

Read more »

วัดราชนัดดา

วัดสำคัญที่สร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์นั้น มีวัดเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งอยู่ฟากฝั่งธนบุรี ในเขตจังหวัดนนทบุรี ส่วนอีก ๒ วัดคือ วัดเทพธิดาราม และวัดราชนัดดา วัดเทพธิดารามกับวัดราชนัดดานั้นอยู่ติดกัน พอลงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ เลี้ยวซ้ายก็จะถึงวัดราชนัดดา วัดราชนัดดานี้รัชกาลที่ ๓ สร้างพระราชทานเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ “พระนางโสมนัสวัฒนาวดี” ตั้งแต่ครั้งยังทรงเป็นหม่อมเจ้า ด้วยมีพระเมตตาเพราะเห็นว่ากำพร้าบิดาตั้งแต่ยังทรงพระเยาว์ พระนางโสมนัสวัฒนาวดีเป็นธิดาของพระองค์เจ้าลักขณานุคุณกับหม่อมงิ้ว พอประสูติได้ปีเดียว พระบิดาก็สิ้นพระชนม์ พอถึงคราวที่พระเจ้าหลานเธอจะเกศากันต์ (โกนจุก) จึงสร้างวัดนี้เป็นการเฉลิมพระเกียรติ พระนางโสมนัสวัฒนาวดี ทรงเป็นพระมเหสีในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๔ แต่มีอายุสั้นนักจึงสิ้นพระชนม์เมื่อมีอายุเพียง ๑๙ พรรษา เป็นความอาลัยรักแก่พระราชสวามี รัชกาลที่ ๔ จึงทรงสร้างวัดอุทิศพระราชกุศลขึ้นใหม่ คือสร้างวัด “โสมนัสวิหาร” และก่อนที่รัชกาลที่ ๓ จะสวรรคตนั้น ได้เคยมีพระราชแระแสกับเสนาบดีผู้ใหม่ไว้ว่า “ทุกวันนี้คิดสละห่อวงใหญ่ให้หมด อาลัยอยู่แต่วัดสร้างไว้ใหญ่ สร้างไว้โตหลายวัด ที่ยังค้างอยยู่ก็มี ถ้าชำรุดทรุดโทรมไป จะไม่มีผู้ช่วยบำรุง เงินในพระคลังที่เหลือ จับจ่ายใช้ราชการแผ่นดิน มีอยู่ ๔ หมื่นชั่ง ขอสักหมื่นเถิด ถ้าผู้ใดเป็นเจ้าแผ่นดินแล้วให้ช่วยบอกแก่เขา ขอเงินรายนี้ให้ช่วยทะนุบำรุงวัดที่ชำรุด และวัดที่ยังค้างอยู่นั้นเสียให้แล้วด้วย”
ด้วยพระราชกระแสนี้ทำให้ รัชกาลที่ ๔ ไม่ทำนุบำรุงวัดราชนัดดา แต่กลับไปโปรดสร้างวัดโสมนัสวิหารแทน ซึ่งเป็นการสร้างเพื่อองค์เดียวกัน คือ พระเจ้เาหลานเธอของรัชกาลที่ ๓ และเป็นพระมเหสีของรัชกาลที่ ๔
Read more »

วัดราชนัดดาราม “ประตู” สู่กรุงรัตนโกสินทร์

วัดราชนัดดารามเป็นพระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร ซึ่งพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้สถาปนาขึ้น ณ ริมคลองรอบกรุง ด้านทิศตะวันออกของพระบรมมหาราชวัง เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัส พระราชนัดดาองค์เดียวที่ทรงสถาปนาขึ้นเป็นพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าฯ ดำรงพระอิสริยยศเสมอพระราชโอรสธิดา ซึ่งในรัชกาลต่อมา พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าโสมนัสทรงได้รับการสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระนางนาฏโสมนัสวัฒนาวดี บรมอัครราชเทวี พระอัครมเหสีพระองค์แรกในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ดังนั้น วัดราชนัดดารามจึงเป็นพุทธสถานที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น

นอกจากจะเป็นพระอารามที่แสดงให้เห็นถึงพระเมตตาที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีต่อพระราชนัดดาแล้ว ยังเป็นปูชนียสถานที่มีความพิเศษไม่เหมือนที่ใด เนื่องจากเป็นที่ตั้งของโลหะปราสาทแห่งที่สามของโลก และเป็นโลหะปราสาทที่เหลือเพียงแห่งเดียวในโลก

Read more »

วัดราชนัดดาราม วรวิหาร

wat_ratchanatdaram01

รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้าฯ สร้างพระราชทานแก่พระเจ้าหลานเธอ หม่อมเจ้าหญิงโสมนัส ซึ่งต่อมาภายหลังรัชกาลที่ 4 ทรงสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระนางโสมนัสวัฒนาวดี

พระอุโบสถ สร้างแบบศิลปะสมัยรัชกาลที่ 3 เสาพาไลสี่เหลี่ยม หน้าบันเป็นลายปูนปั้น พระประธาน
หล่อด้วยทองแดง รัชกาลที่ 4 ทรงพระราชทานนามว่า “พระเสฏฐตมุนี”

โลหปราสาท เป็นปราสาทศิลปะไทยองค์แรกและองค์เดียวของไทยและถือเป็นองค์ที่ 3 ของโลก
เริ่มสร้างในสมัยรัชกาลที่ 3 แล้วเสร็จและปฏิสังขรณ์ครั้งใหญ่
ในสมัยรัชกาลที่ 5 และ 6 โดยยอดปราสาท 37 ยอดนั้นหมายถึงโพธิ์ปักขิยธรรม 37 ประการ ห้องกลางมีบันไดไม้เวียนรอบแกน
ที่เป็นเสาไม้ใหญ่ขึ้นไปข้างบน ตรงกลางสร้างเป็นมณฑปภายในเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

กุฏิสงฆ์และหอระฆัง สร้างแบบศิลปะสมัยรัชกาลที่ 3 จากถนนกลางวัดด้านข้างหอระฆังสามารถเดินผ่านสะพานข้ามคลองไปยังวัดเทพธิดาราม
ที่สร้างอยู่คู่กันได้ด้วย

ขอขอบคุณ http://www.tripsthailand.com/

วัดราชนัดดารามวรวิหาร โลหะปราสาท

0021

ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมมหากาฬ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์
ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ใกล้กับวัดเทพธิดาราม
ขึ้นทะเบียนโบราณสถาน เมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2389
บนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ พระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา
คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างโลหะปราสาท
แทนการสร้างเจดีย์ นับเป็นโลหะปราสาทแห่งที่ 3 ของโลก
โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรม
ในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐาน
พระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67 ขั้น
ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้

Read more »

วัดราชนัดดาราม กรุงเทพ

111005815

วัดราชนัดดาราม สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เพื่อพระราชทานให้ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าโสมนัสวัฒนาวดี พระราชนัดดา ซึ่งต่อมาเป็นพระอัครมเหสีในรัชกาลที่ ๔

จุดเด่นของวัดราชนัดดารามที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ โลหะปราสาท ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่า สร้างมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๓ แต่ก็มาเสร็จสมบูรณ์เอาในสมัยรัชกาลที่ ๙ นี่เอง ใช้เวลาสร้างกว่า ๑๖๐ ปี โลหะปราสาทที่วัดราชนัดดารามนับเป็นหนึ่งในสามแห่งของโลก และเป็นแห่งเดียวที่ยังคงเหลืออย่างสมบูรณ์ แห่งแรกที่อินเดียนั้นพังทลายไม่เหลือซาก ส่วนแห่งที่สองที่ศรีลังกาก็พังทลายเหลือแต่กองอิฐ ที่เรียกว่าโลหะปราสาท ไม่ได้หมายความว่าตัวปราสาททั้งหมดทำมาจากโลหะ แต่ทำจากโลหะแค่ยอดดำๆ ทั้ง ๓๗ ยอดเท่านั้นเอง

Read more »

ลักษณะทางสถาปัตยกรรมที่สำคัญ-วัดราชนัดดารามวรวิหาร

พระอุโบสถ ก่ออิฐถือปูน หลังคาทรงไทยจั่วซ้อน 3 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินและสีเหลือง ประดับช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ ที่ชั้นลด หน้าบันด้านหน้าและด้านหลังมีลวดลายเหมือนกัน คือหน้าบันสลักไม้ลายใบเทศ มีการออกลายให้มีความสัมพันธ์กันภายในกรอบสามเหลี่ยมหน้าบัน โดยใช้ดอกลายเป็นตัวเชื่อม ส่วนล่างหน้าบันสลักเป็นลายกระจังปฏิญาณ ลายประจำยามก้ามปู และลายกระจังรวน การทำหน้าบันสลักไม้ในสมัยรัชกาลที่ 3 มักสลักเป็นภาพนูนต่ำ ลงรักปิดทองกระจกสี ประดับกระจกสี ปิดทองบานประตู หน้าต่าง ด้านนอกเป็นลายรดน้ำพุ่มข้าวบิณฑ์ กลางดอกลายเทพพนม บานประตูหน้าต่างด้านในและส่วนลึกของช่องประตูเป็นภาพเขียนสีลายทวารบาล ส่วนลึกของบานหน้าต่างเป็นภาพรามเกียรติ์และอดีตชาติของพระพุทธเจ้า บานหน้าต่างด้านในเป็นรูปเทพต่าง ๆ ฐานพระอุโบสถยกพื้น 2 ชั้น ฐานชั้นแรกตั้งเสาระเบียงรองรับเชิงชายหน้าจั่วและหลังคา เสาเป็นเสาเหลี่ยมลบมุมไม่มีลวดลายที่ปลายเสา มีระเบียงรอบพระอุโบสถ ปลายเสาบันไดประดับด้วยสิงโตหิน ภายในพระอุโบสถมีดาวเพดานเขียนสี ฝาผนังตรงข้ามพระประธานมีรูปเหมือนของเจ้าอาวาสองค์ที่ 5 ส่วนบนของภาพนี้เป็นภาพแสดงนรกภูมิ ส่วนฝาผนังอีก 3 ด้าน เป็นภาพแดนสวรรค์และภาพเทพชุมนุม ภาพเหล่านี้เขียนด้วยสีฝุ่นทำให้ชำรุดลบเลือนได้ง่าย

Read more »

วัดราชนัดดารามวรวิหาร

ที่ตั้ง เลขที่ 70 ถนนมหาไชย แขวงสำราญราษฎร์ เขตพระนคร กรุงเทพ

อาณาเขต

ทิศเหนือ จรด ราชดำเนินกลาง
ทิศใต้ จรด คลองวัดเทพธิดาราม
ทิศตะวันออก จรด ถนนมหาไชย
ทิศตะวันตก จรด ถนนซอยวัดราชนัดดาราม ถนนบ้านดินสอ
ประวัติ
วัดราชนัดดารามวรวิหารเป็นพระอารามชั้นตรีชนิดวรวิหาร พระบามสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติแก่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี (ต่อมาได้ดำรงตำแหน่งเป็นพระอัครมเหสีองค์แรกของรัชกาลที่ 4 มีพระนามว่า สมเด็จพระนางเจ้าโสมนัสวัฒนาวดีบรมราชเทวี) จึงทรงพระราชทานนามว่าวัดราชนัดดาราม เมื่อ ปี พ.ศ.2386

Read more »

วัดราชนัดดาราม วรวิหาร พระอารามหลวง ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร

watrajanadaram3

วัดราชนัดดารามวรวิหาร (วัดราชนัดดา) เป็นวัดสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมมหากาฬ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงสร้างบนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ ๒๕ ไร่ เพื่อพระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี (ซึ่งภายหลังเป็นพระมเหสีในรัชกาลที่ ๔) โดยทั้งสองพระองค์เสด็จวางศิลาฤกษ์เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๙

ดเด่นของวัดราชนัดดาที่ประชาชนมองเห็นได้ทั่วไปเมื่อผ่านมาทางถนนพระราชดำเนิน คือ โลหะปราสาท ซึ่งสร้างโดยพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้สเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. ๒๓๘๙ เนื่องจากทรงมีพระราชศรัทธาทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและทรงทราบว่าในสมัยโบราณมีการสร้างโลหะปราสาทเพียง ๒ ครั้งในโลก คือ หลังแรกนางวิสาขา แห่งเมืองสาวัตถี สร้างยอดปราสาททำด้วยทองคำ หลังที่สอง พระเจ้าทุฏฐคามณี แห่งกรุงอนุราธปุระ ลังกา ทรงสร้างเมื่อราว พ.ศ. ๓๘๒ หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดง พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้ทรงสร้างโลหะปราสาทเพื่อเป็นเกียรติแก่พระนครแทนการสร้างพระเจดีย์เช่นพระอารามอื่น นับเป็นโลหะปราสาทแห่งที่ ๓ ของโลก โดยสร้างเป็นปราสาทสูง ๓ ชั้น มียอดทั้งหมด ๓๗ ยอด กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน ๖๗ ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้

Read more »

โลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร

OLYMPUS DIGITAL CAMERA

โลหะปราสาทสร้างในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นโลหะปราสาทองค์แรกและองค์เดียวของไทย และถือเป็นองค์ที่ 3 ของโลก สร้างอยู่ในพื้นที่วัดราชนัดดาราม และอยู่ในบริเวณ ลานพลับพลามหาเจษฏาบดินทร ยอดปราสาทประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ

โลหะปราสาท ตั้งอยู่ ณ ด้านตะวันตกของพระอุโบสถ ก่อสร้างขึ้นโดยพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แทนการสร้างเจดีย์ โลหะปราสาทนี้ สร้างขึ้นตามประวัติพระพุทธศาสนา ถือเป็นโลหะปราสาทองค์ที่ 3 ของโลก โดยโลหะปราสาทหลังแรก สร้างขึ้นในสมัยพุทธกาลโดยนางวิสาขามหาอุบาสิกา บุตรีธนัญชัยเศรษฐีแห่งเมืองสาวัตถี เป็นปราสาท 2 ชั้น 1,000 ห้อง ยอดปราสาททำด้วยทองคำ ที่ชื่อว่า “มิคารมาตุปราสาท” ส่วนโลหะปราสาทหลังที่ 2 สร้างโดยพระเจ้าทุฏฐคามณี กษัตริย์แห่งกรุงอนุราธปุระลังกา ในราวปีพุทธศักราช 382 เป็นปราสาท 9 ชั้น 1,000 ห้อง มีความกว้างและความสูงแต่ละด้าน 100 ศอก หลังคามุงด้วยแผ่นทองแดง ผนังเป็นไม้ประดับด้วยหินมีค่าและงาช้าง

Read more »

วัดราชนัดดารามวรวิหาร

วัดราชนัดดารามวรวิหาร หรือ “วัดราชนัดดา” ตั้งอยู่ใกล้กับป้อมมหากาฬ ติดกับลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งเป็นพลับพลารับแขกเมือง เชิงสะพานผ่านฟ้าลีลาศ ใกล้กับวัดเทพธิดาราม ขึ้นทะเบียนโบราณสถานเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2492

ประวัติ
วัดราชนัดดารามวรวิหาร สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2389ตรงกับปลายรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว บนสวนผลไม้เก่าเนื้อที่ประมาณ 25 ไร่ พระราชทานเป็นเกียรติแก่พระราชนัดดา คือ พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าหญิงโสมนัสวัฒนาวดี

พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวโปรดเกล้า ฯ ให้สร้างโลหะปราสาท แทนการสร้างเจดีย์ นับเป็นโลหะปราสาทแห่งแรกของไทย โดยสร้างเป็นอาคาร 7 ชั้น มียอดปราสาท 37 ยอด หมายถึงโพธิปักขิยธรรมในพระพุทธศาสนา 37 ประการ ยอดปราสาทชั้น 7 เป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ กลางปราสาทเป็นช่องกลวง มีบันไดเวียน 67 ขั้น ให้เดินขึ้นไปดูทิวทัศน์ข้างบนได้

Read more »

วัดไชยศรี

245744

วัดไชยศรี ตั้งอยู่ที่บ้านสาวะถี สร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2408 สิ่งที่น่าสนใจคือ ภาพจิตรกรรมฝาผนัง ที่ดูสวยงามแปลกตาฝีมือนายทอง ทิพย์ชา ช่างพื้นบ้านชาวมหาสารคาม ภาพจิตรกรรมที่วัดนี้จะเขียนทั้งภายในและภายนอกสิม (โบสถ์) สิ่งที่สะดุดตาอันดับแรกคือการใช้สี ช่างจะเขียนด้วยสีฝุ่นโทนสีคราม เหลือง ขาว มองสบายตา ลักษณะการเขียนภาพเน้นสัดส่วนที่เกินจริง อารมณ์ของภาพดูสนุกสนาน ตัวละครจะออกท่าทางโลดโผน เรื่องราวที่เขียนบนฝาผนังด้านนอกเป็นรูปนรกแปดขุม ภาพพระเวสสันดร นิทานพื้นบ้านเรื่องสังข์สินไชย ภาพทวารบาล ส่วนด้านในจะเล่าเรื่องพุทธประวัติ ปกติวัดในต่างจังหวัดยังคงเคร่งตามประเพณีเดิม คือผู้หญิงไม่สามารถเข้าไปภายในโบสถ์ได้ ซึ่งวัดไชยศรีก็เป็นวัดหนึ่งที่ยังรักษาธรรมเนียมนี้อยู่

ขอขอบคุณ http://news.truelife.com

 

เที่ยว วัดไชยศรี (วัดใต้) น้ำพอง จ.ขอนแก่น

วัดไชยศรี 6

“สิม” ในภาษาอีสานหมายถึงโบสถ์ มาจากคำว่า สีมา สิมมา หรือพันธสีมา ที่ปรากฏในคำจารึกบนแผ่นหินที่ประกาศเจตนาของผู้สร้าง ปักไว้ด้านหลังสิม ซึ่งมีปรากฏอยู่ทั่วไป ความหมายของสิม หมายถึงเขต หรืออาณาเขตที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้ทำกิจกรรมในพระพุทธศาสนา เช่น เป็นเขตที่พระสงฆ์ใช้ประชุมทำสังฆกรรมบรรพชา และอุปสมบทพระภิกษุสงฆ์

“สิม” วัดไชยศรี จ.ขอนแก่น
ในภาคอีสาน มี “สิม” เก่าแก่อันทรงคุณค่า ทรงเสน่ห์ อยู่ไม่น้อย โดยหนึ่งในนั้นก็คือ สิม “วัดไชยศรี” หรือ “วัดใต้” ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 8 บ้านสาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งอยู่ห่างจากตัวจังหวัดขอนแก่นไปประมาณ 21 กิโลเมตร

วัดไชยศรี เป็นวัดเก่าแก่ที่มีโบสถ์หรือสิม ที่มีอายุกว่าร้อยปีเศษ เดิมมุงหลังคาด้วยแผ่นไม้ ซึ่งมีเอกลักษณ์ คือ หลังคามีปีกยื่นทั้งสองข้างแบบสถาปัตยกรรมอีสานดั้งเดิม ต่อมาในปี พ.ศ.2525 หลังคาได้ทรุดโทรมจึงได้มีการรื้อและทำหลังคาขึ้นใหม่ เป็นแบบสถาปัตยกรรมรัตนโกสินทร์ ซึ่งเป็นที่นิยมในสมัยนั้น ส่วนฝาผนังทั้งด้านในและด้านนอกยังคงมีสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ โดยเฉพาะจิตรกรรมฝาผนัง หรือ “ฮูปแต้ม” ที่ยังคงมีความเด่นชัด

Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .