เที่ยวอยุธยา ไหว้หลวงพ่อมงคลบพิตร วัดมงคลบพิตร จ.พระนครศรีอยุธยา

182849-165

วัดมงคลบพิตรเป็นวัดเดียวในละแวกนี้ที่ได้รับการบูรณะให้ดีอย่างสมัยใหม่ ข้างในวิหารมีพระมงคลบพิตร พระขนาดใหญ่ที่ถูกเผาสมัยเสียกรุงศรีอยุธยา

สันนิษฐานกันว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยตามพงศาวดารวิหารพระมงคลบพิตรนั้น เดิมประดิษฐานอยู่ด้านทิศตะวันออกของ พระราชวังหลวง บางคนสันนิษฐานว่า เคยประดิษฐานอยู่กลางแจ้งที่วัดชีเชียงมาก่อน ในปี พ.ศ. ๒๑๔๖ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดฯ ให้ชลอมาไว้ทางด้านทิศตะวันตก แล้วให้สร้างมณฑปขึ้นครอบไว้ โดยมีหลักฐานจากภาพวาดของชาวตะวันตกที่เข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองว่าเป็นรูปร่างคล้ายๆมณฑป

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๒๔๖ แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือ ยอดมณฑปต้องอสนีบาต (ฟ้าผ่า) ไฟไหม้เครื่องบนมณฑปหักพังลงมาต้องพระเศียรหัก สมเด็จพระเจ้าเสือ จึงโปรดฯให้แปลงมณฑปเป็นวิหารแต่ยังคงส่วนยอดของมณฑปไว้ แล้วซ่อมพระเศียรพระพุทธรูปใหม่ กระทั่งในรัชกาล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงบูรณะปฏิสังขรณ์ใหม่หมด เปลี่ยนหลังคาคล้ายในปัจจุบัน เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งสุดท้ายวิหารและพระพุทธรูปถูกไฟไหม้ ชำรุดทรุดโทรม เครื่องบนวิหารหักลงมาต้องพระเมาฬี และพระกรข้างขวาหัก

ในปี พ.ศ. ๒๔๗๔ สมัยพระยาโบราณราชธานินทร์ ตำแหน่งสุมุหเทศาภิบาลมณฑลอยุธยา คุณหญิงอมเรศร์สมบัติกับพวก ได้ขอยื่นเรื่องซ่อมแซมวิหาร แต่รัฐบาลไม่อนุญาต เนื่องจากต้องการที่จะรักษาตามแบบอย่างทางโบราณคดี โดยจะออกแบบให้ปูชนียสถานกลางแจ้งเหมือนไดบุซึของญี่ปุ่น แต่ด้วยเวลานั้นรัฐบาลยังไม่มีงบประมาณพร้อมในการดำเนินการ
Read more »

วิหารพระมงคลบพิตร

สันนิษฐานกันว่า สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนต้นราวแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โดยตามพงศาวดารวิหารพระมงคลบพิตรนั้น เดิมประดิษฐานอยู่ด้านทิศตะวันออกของ พระราชวังหลวง บางคนสันนิษฐานว่า เคยประดิษฐานอยู่กลางแจ้งที่วัดชีเชียงมาก่อน ในปี พ.ศ. ๒๑๔๖ สมเด็จพระเจ้าทรงธรรมโปรดฯ ให้ชลอมาไว้ทางด้านทิศตะวันตก แล้วให้สร้างมณฑปขึ้นครอบไว้ โดยมีหลักฐานจากภาพวาดของชาวตะวันตกที่เข้ามาในรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าปราสาททองว่าเป็นรูปร่างคล้ายๆมณฑป

ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๒๔๖ แผ่นดินสมเด็จพระเจ้าเสือ ยอดมณฑปต้องอสนีบาต (ฟ้าผ่า) ไฟไหม้เครื่องบนมณฑปหักพังลงมาต้องพระเศียรหัก สมเด็จพระเจ้าเสือ จึงโปรดฯให้แปลงมณฑปเป็นวิหารแต่ยังคงส่วนยอดของมณฑปไว้ แล้วซ่อมพระเศียรพระพุทธรูปใหม่ กระทั่งในรัชกาล สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ทรงบูรณปฏิสังขรณ์ใหม่หมด เปลี่ยนหลังคาคล้ายในปัจจุบัน เมื่อเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งสุดท้ายวิหารและพระพุทธรูปถูกไฟไหม้ ชำรุดทรุดโทรม เครื่องบนวิหารหักลงมาต้องพระเมาฬี และพระกรข้างขวาหัก

Read more »

วัดมงคลบพิตร

072

วัดมงคลบพิตร เป็นวัดโบราณสำคัญแห่งหนึ่งในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
โดยที่ตั้งของวัดมงคลบพิตรและพระราชวังโบราณตั้งอยู่ติดกัน นักท่องเที่ยวจึงนิยมเข้ามา
นมัสการหลวงพ่อมงคลบพิตรก่อนจะเข้าชมพระราชวังโบราณ และบริเวณทางด้านหน้าวิหารวัด
พระมงคลบพิตร มีร้านค้าตั้งเรียงรายมากมายหลายร้าน จำหน่ายผลิตภัณฑ์พื้นเมืองแทบทุกชนิด
เช่น ปลาตะเพียน เครื่องจักสานเครื่องหวาย มีดอรัญญิก ผลไม้กวน และขนมชนิดต่างๆ
เหมาะสำหรับผู้สนใจซื้อสินค้าพื้นเมืองและของที่ระลึกต่างๆ

ประวัติ
วิหารพระมงคลบพิตร ถ้าตามพระราพงศาวดารฯบริเวณที่ตั้งวิหารนี้เคยเป็นวัด
ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมเพราะระบุว่าโปรดอัญเชิญพระพุทธรูปขนาดใหญ่
นามว่า “มงคลบพิตร” มาจากพื้นที่ทางตะวันออกต่อจากนั้นก็ทรงก่อมณฑปครอบ

ครั้นถึงรัชกาลสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ โปรดเกล้าให้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์
พระมงคลบพิตรขึ้นอีกครั้งหนึ่ง โดยโปรดให้ทำบัวหงายคั่นระหว่างพระเกตุมาลากับพระรัศมี
ส่วนพระวิหารนั้นก็โปรดให้รื้อเครื่องบนออก แล้วก่อหลังคาให้เหมือนดังพระวิหารทั่วไป

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ต่อมาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ใหญ่สององค์เมื่อ พ.ศ.2035 องค์แรกทางทิศตะวันออกเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระราชบิดา และองค์ที่สอง คือองค์กลางเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระบรมเชษฐา ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ทรงสร้างพระวิหารขนาดใหญ่และในปี พ.ศ.2043 ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา (16 เมตร) หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร พระนามว่า “พระศรีสรรเพชญดาญาณ” ซึ่งภายหลังเมื่อคราวเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด ในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญชิ้นส่วนชำรุดของพระประธานองค์นี้ลงมากรุงเทพฯและบรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้นแล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า “เจดีย์สรรเพชญดาญาณ”

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ

วัดพระศรีสรรเพชญ ตั้งอยู่ในเขตพระราชวังโบราณ เป็นวัดพุทธาวาสที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา
เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง และเก็บอัฐิของพระมหากษัตริย์
เปรียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามในพระบรมมหาราชวังในกรุงเทพมหานคร
ปัจจุบันเหลือเพียงซากอิฐปูนและเจดีย์สามองค์ที่ตั้งตะหง่านเป็นจุดเด่น แต่ยังคงเป็นจุดที่
ดึงความสนใจของนักท่องเที่ยวให้เข้ามาเยี่ยมชมอยู่เสมอ และเมื่อได้ลองจินตนาการดู
ก็จะรู้สึกถึงความยิ่งใหญ่และความงดงามของกรุงศรีอยุธยาในสมัยที่ยังเป็นราชธานี

ประวัติ
วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ ใช้เป็นที่ประทับ
ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ทางตอนเหนือ
แล้วจึงโปรดฯให้ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง
จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดมหาธาตุสุโขทัย
ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา ทั้งวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา
และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ
“สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง”

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา

_MG_6069_Cover-620x392

วัดศรีสรรเพชญ์เป็นวัดในพระบรมมหาราชวัง อันเป็นวัดที่ใหญ่ที่สุด เริ่มสร้างในสมัยพระบรมไตรโลกนาถ
สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 สร้างเจดีย์ใหญ่ 2 องค์ ถวายแด่พระราชบิดา พระบรมไตรโลกนาถ (องค์ตะวันออก) และพระเชษฐาสมเด็จพระบรมราชาที่ 3 (องค์กลาง) ใน พ.ศ. 2035 และสร้างวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปทองคำ “พระศรีสรรเพชรดาญาน” ในปี 2042 เจดีย์องค์ตะวันตกสร้างในรัชสมัยต่อมาถวายแด่สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ส่วนเจดีย์รายโดยรอบบรรจุพระอัฐิของพระบรมวงศานุวงศ์

ขอขอบคุณ http://wikimapia.org/

ตำนานวัดพระศรีสรรเพชญ์และพระมงคลบพิตร

ตำนานในประวัติศาสตร์เป็นเรื่องที่มีการเล่าขานสืบต่อๆกันมาตั้งแต่ในอดีตบางตำนานก็ยังคงอยู่จนถึงปัจจุบันและบางตำนานก็ได้รับการพิสูจน์ข้อเท็จจริงทำให้มีการพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ในหลายๆครั้งมาแล้ว

ตำนานที่ผมจะนำมาเล่าในคราวนี้ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับ “วัดพระศรีสรรเพชญ์” และ “พระมงคลบพิตร” หรือบางท่านก็เรียกว่าหลวงพ่อมงคลบพิตรบางท่านอาจจะได้อ่านเรื่องราวต่างๆมาบ้างแล้วและบางท่านก็ยังไม่ทราบผมจึงจะนำข้อเขียนในหนังสือเก่าที่มีผู้เขียนไว้มาเล่าสู่กันฟังครับ…

…วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดในพระราชวัง ไม่มีพระสงฆ์ (ดังเช่นวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว) เป็นที่ข้าราชการประชุมกันรับพระราชทานน้ำพิพัฒน์สัตยา แต่แรกยกวังทำเป็นวัดในแผ่นดินสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถ จะได้ทรงสร้างอะไรไว้บ้างก็ไม่ได้กล่าวถึง มาจนถึงแผ่นดินสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ จุลศักราช ๘๓๖ ปีว่าได้ประดิษฐานพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนารถไว้ในพระมหาสถูป สันนิษฐานว่าน่าจะเป็นพระเจดีย์ใหญ่องค์หน้า หรือไม่ก็องค์กลาง ส่วนอีก ๒ องค์นั้นก็คงจะประดิษฐานพระอัฐิของพระเจ้าแผ่นดินเช่นกัน

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา

Wat-Phrasisanpeth-1

วัดพระศรีสรรเพชญ์เป็นวัดในพระบรมมาหราชวัง นับเป็นต้นแบบของวัดในพระบรมมหาราชวังของสมัยรัตนโกสินทร์ คือวัดพระศรีรัตรศาสดาราม เนื้อความในพงศาวดารฯระบุถึงจุดเริ่มต้นวัดพระศรีสรรเพชญ์ว่าคราว สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้ทรงโปลดเกล้าให้ย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือ จึงยกที่เดิมเพื่อสร้างพุทธาวาสในเขตพระราชวัง และความในพระราชพงศาวดารได้สันนิษฐานเพิ่มเติมว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 หรือพระราชโอรสของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถได้สร้างเจดีย์ขึ้นสององค์ทางองค์ตะวันออกและองค์กลาง เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิพระราชบิดาและพระเชษฎา จากนั้นในสมัย สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร) ได้สร้างเจดีย์เพิ่มอีกหนึ่งองค์ทางทิศตะวันตก เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2

ตามหลักฐานวัดพระศรีสรรเพชญ์ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญต่างๆ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยา (ปีละ 2 ครั้ง) ตลอดจนใช้เป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์อยุธยาเกือบทุกพระองค์ เป็นต้น

Read more »

พระศรีสรรเพชญ์ [ สถานที่ท่องเที่ยว – พระนครศรีอยุธยา ]

SRISANPHET-AROND

ความสำคัญ

1. อยู่ในพระราชวังหลวง เหมือนกับ

– วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ( วัดพระแก้ว ) – กรุงเทพ

– วัดมหาธาตุ – กรุงสุโขทัย

2. สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับ

3. สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิม

ให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อ

เป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์

TAT-Ayutthaya-Si_Sanphet01

วัดพระศรีสรรเพชญ์เดิมเป็นพระราชวังที่ประทับซึ่งสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างขึ้น ต่อมาพ.ศ. 1991 ในรัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ โปรดให้ย้ายพระราชวังไปสร้างใหม่ทางด้านริมแม่น้ำลพบุรี และอุทิศพระราชวังเดิมให้เป็นวัดส่วนพระองค์ของพระมหากษัตริย์จึงไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แต่ใช้เป็นสถานที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญทางศาสนา และพระราชพิธีอื่นๆ ของรัฐ อาทิ พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัฒน์สัตยา หรือเสด็จออกบำเพ็ญพระราชกุศลในวโรกาสต่างๆ เช่นเดียวกับ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในกรุงเทพฯ นอกจากนี้ยังเป็นที่เก็บพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระบรมวงศานุวงศ์ด้วย

การสร้างวัดพระศรีสรรเพชญ์จึงเป็นการย้ายศูนย์กลางความศรัทธามาสู่พระราชวัง รวมอำนาจทั้งศาสนาจักรและอาณาจักรมาไว้ที่พระมหากษัตริย์

สัญลักษณ์โดดเด่นของวัดแห่งนี้คือ เจดีย์ทรงระฆังคว่ำสามองค์ตั้งเรียงกันในแนวตะวันออก-ตะวันตก สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของกษัตริย์อยุธยา 3 พระองค์ หากเข้ามาจากด้านวิหารพระมงคลบพิตร เจดีย์องค์ขวาเป็นที่บรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ องค์กลางของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 และองค์ซ้ายของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์

dsc8537

วัดพระศรีสรรเพชญ์ …….. เป็นวัดที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เช่นเดียวกับวัดพระศรีรัตนศาสดารามที่กรุงเทพฯ และวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ทรงสร้างพระราชมณเฑียรขึ้นใหม่ แล้วโปรดฯ ยกให้เป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่างๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวัง ที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ต่อมาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ทรงสร้างพระสถูปเจดีย์องค์ตะวันออกเพื่อบรรจุอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พระราชบิดา เมื่อ พ.ศ. 2035 องค์กลางบรรจุ พระอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระเชษฐาธิราช ในปี พ.ศ. 2042 ทรงสร้างพระวิหาร และในปีถัดมา ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา หรือ 16 เมตร หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง ถวายพระนามว่า ” พระศรีสรรเพชญดาญาณ ” ซึ่งภายหลังเมื่อเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด และองค์พระก็เสียหายมาก เจดีย์องค์ที่ 3 ถัดมาทางทิศตะวันตก เป็นเจดีย์บรรจุ พระอัฐิของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 ซึ่งสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 พระราชโอรสได้โปรดให้สร้างขึ้น

ขอขอบคุณ http://www.hamanan.com/

วัดพระศรีสรรเพชญ์

วัดพระศรีสรรเพชญ์ มีพื้นที่ ๒๘ ไร่ เดิมเป็นพระราชวังหลวงของสมเด็จพระเจ้าอู่ทอง เคยมีปราสาท ๓ หลังได้แก่ พระที่นั่งไอยศวรรย์มหาปราสาท ไพฑูรย์มหาปราสาทนาน ๙๘ ปี (๘ รัชการ) จนถึงสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ พ.ศ. ๑๙๙๑ โปรดให้ย้ายพระราชวังขยายเขตไปทางด้านทิศเหนือ ริมแม่น้ำลพบุรี (คลองเมือง) แล้วถวายพื้นที่นี้เป็นเขตพุทธาวาส (ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา)

พ.ศ.๒๐๓๕ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ โปรดให้สร้างพระเจดีย์ ๒ องค์พร้อมกัน คือ องค์ทางด้านทิศตะวันออก และองค์กลาง เพื่อบรรจุพระบรมอัฐิ ของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ (พระราชบิดา) และบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ ๓ (พระเชษฐา) ตามลำดับ

พ.ศ.๒๐๔๒ – ๒๐๔๓ สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ โปรดให้สร้างวิหารหลวงนามว่า วิหารพระศรีสรรเพชญ์ และหล่อพระพุทธรูปยืนปางห้ามญาติ สูง ๑๖ เมตร พระพักตร์ยาม ๒ เมตร กว้าง ๑.๕ เมตร พระอุระกว้าง ๕.๕ เมตร ใช้ทองสำริดหล่อเป็นแกนในน้ำหนัก๐๗o๕๒๘ กิโลกรัม (๕๘๐๐๐ ชั่ง) หุ้มด้วยทองคำน้ำหนัก ๓๔๗.๗๗๖ กิโลกรัม (๒๘๖ ชั่ง) แล้วถวายนามว่า พระพุทธศรีสรรเพชญดาญาณ และเบื้องหน้ามีพระพุทธสิหองส์ประดิษฐานอีก ๑ องค์

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวง เทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานคร หรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือ และอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวัง และโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา

ต่อมาในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 2 โปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระสถูปเจดีย์ใหญ่สององค์เมื่อ พ.ศ.2035 องค์แรกทางทิศตะวันออกเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระราชบิดา และองค์ที่สองคือองค์กลางเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 3 พระบรมเชษฐา ต่อมาในปี พ.ศ. 2042 ทรงสร้างพระวิหารขนาดใหญ่และในปี พ.ศ.2043 ทรงหล่อพระพุทธรูปยืนสูง 8 วา (16 เมตร) หุ้มด้วยทองคำหนัก 286 ชั่ง (ประมาณ 171 กิโลกรัม) ประดิษฐานไว้ในวิหาร พระนามว่า “พระศรีสรรเพชญดาญาณ” ซึ่งภายหลังเมื่อคราวเสียกรุง พ.ศ. 2310 พม่าได้เผาลอกทองคำไปหมด ในสมัยรัตนโกสินทร์พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช โปรดเกล้าฯ ให้อัญเชิญชิ้นส่วนชำรุดของพระประธานองค์นี้ลงมากรุงเทพฯ และบรรจุชิ้นส่วนซึ่งบูรณะไม่ได้เหล่านั้นไว้ในเจดีย์องค์ใหญ่ที่สร้างขึ้น แล้วพระราชทานชื่อเจดีย์ว่า “เจดีย์สรรเพชญดาญาณ”

สำหรับเจดีย์องค์ที่สามถัดมาทางทิศตะวันตก สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระหน่อพุทธางกูร) พระราชโอรสได้โปรดเกล้าฯให้สร้างขึ้นเพื่อบรรจุพระบรมอัฐิของสมเด็จพระรามา ธิบดีที่ 2 เจดีย์สามองค์นี้เป็นเจดีย์แบบลังกา ระหว่างเจดีย์แต่ละองค์มีมณฑปก่อคั่นไว้ ซึ่งคงจะมีการสร้างในราวรัชกาลสมเด็จพระเจ้าปราสาททอง และมีร่องรอยการบูรณะปฏิสังขรณ์หนึ่งครั้งในราวรัชสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว บรมโกศ ในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงครามได้มีการบูรณะเจดีย์แห่งนี้จนมีสภาพที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์

oldcity02

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของวิหารพระมงคลบพิตร เป็นวัดสำคัญที่สร้างอยู่ในพระราชวังหลวงเทียบได้กับวัดพระศรีรัตนศาสดารามแห่งกรุงเทพมหานครหรือวัดมหาธาตุแห่งกรุงสุโขทัย ในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 (พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชมณเฑียรเป็นที่ประทับที่บริเวณนี้ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงย้ายพระราชวังขึ้นไปทางเหนือและอุทิศที่ดินเดิมให้สร้างวัดขึ้นภายในเขตพระราชวังและโปรดเกล้าฯให้สร้างเขตพุทธาวาสขึ้น เพื่อเป็นที่สำหรับประกอบพิธีสำคัญต่างๆ จึงเป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา พระราชวังหลวงหรือพระราชวังโบราณข้อมูล ตั้งอยู่ติดกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ทางด้านทิศเหนือ สันนิษฐานว่า สมเด็จพระรามาธิบดีที่1(พระเจ้าอู่ทอง) ทรงสร้างพระราชวังตั้งแต่เมื่อครั้งประทับอยู่ที่เวียงเล็กเมื่อ พ.ศ. 1890 และเมื่อสร้างพระราชวังเสร็จในปี พ.ศ. 1893 จึงย้ายมาประทับที่พระราชวังใหม่ริมหนองโสน ปราสาทในครั้งแรกนี้สร้างด้วยไม้อยู่ในบริเวณวัดพระศรีสรรเพชญ์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 1991 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงถวายที่บริเวณปราสาทให้เป็นวัดพระศรีสรรเพชญ์วัดในเขตพระราชวัง แล้วทรงสร้างปราสาทใหม่เลื่อนไปทางเหนือชิดกับแม่น้ำลพบุรี

เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 06.00-18.00 น. อัตราค่าเข้าชม ชาวไทยคนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศคนละ 30 บาท หรือสามารถซื้อบัตรรวมได้ ชาวไทย 60 บาท ชาวต่างประเทศ 180 บาท โดยบัตรนี้สามารถเข้าชมวัดและพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาได้ ภายในระยะเวลา 30 วัน อันได้แก่ วัดพระศรีสรรเพชญ์และพระราชวังหลวง วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดไชยวัฒนาราม พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยาและพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จันทรเกษม
Read more »

วัดพระศรีสรรเพชญ์ ติดโผสถานที่สุดหลอนในเอเชีย

b10

วัดพระศรีสรรเพชญ์ หรือ วัดพระศรีสรรเพชญ เป็นวัดหลวงในพระราชวังโบราณ อยุธยา ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา ซึ่งเป็นต้นแบบของ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพมหานคร

วัดพระศรีสรรเพชญ์ เดิมในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ใช้เป็นที่ประทับ ต่อมาสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ยกเป็นเขตพุทธาวาส เพื่อประกอบพิธีสำคัญต่าง ๆ ของบ้านเมือง จึงเป็นวัดในเขตพระราชวังที่ไม่มีพระสงฆ์จำพรรษา แตกต่างกับวัดอื่นๆ ที่มีพระสงฆ์จำพรรษา รวมไปถึงวัดมหาธาตุ สุโขทัย,วัดพระศรีสรรเพชญ์ อยุธยา และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่างก็ถูกสถาปนาขึ้นในมูลเหตุการสร้างวัดเดียวกันนั่นคือ “สร้างเพื่อเป็นวัดประจำพระราชวัง”

จนมาถึงปัจจุบันนี้ วัดพระศรีสรรเพชญ์ กลายเป้นแหล่งท่องเที่ยงที่โด่งดัง ด้วยความสวยงามที่แสดงถึงเอกลักษณ์ควมเป็นไทย จึงทำให้ทั้งคนไทนและชาวต่างชาติต่างนิยมมาท่องเที่ยวที่วัดนี้กันเป็นอย่างมาก

กระทั่งล่าสุด เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก ได้ทำการจัดอันดับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวชวนพิศวงในเอเชีย วัดพระศรีสรรเพชญ์ ของไทยเราก็ติดโผชวนหลอนด้วย เรียกได้ว่าเป็นการสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทยอีกทางเลยก็ว่าได้ ซึ่งเนชั่นแนล จีโอกราฟฟิกได้นำเสนอ 10 สถานที่สุดหลอนในเอเชีย ผ่านรายการ I Wouldn’t Go In There “วัดพระศรีสรรเพชญ์ พระนครศรีอยุธยา” ติด Top10

Read more »

. . . . . . .
. . . . . . .