วีรกรรม ณ ทุ่งสำริดของท้าวสุรนารี หรือที่ชาวไทยเรียกกันด้วยความคุ้นเคยว่าย่าโม ภรรยาปลัดเมืองนครราชสีมา ซึ่งนำชาวโคราชลุกขึ้นสู้รบกับกองทัพของเจ้าอนุวงศ์แห่งเวียงจันทน์ ที่เข้ายึดเมืองโคราชจนแตกพ่าย และสามารถกอบกู้เมืองโคราชได้สำเร็จ ยังเป็นเรื่องที่ผู้คนรำลึกถึงคุณงามความดี และกราบขอพรจากย่าโมอยู่เสมอ นอกจากนั้นยังมีวัดศาลาลอยสถานที่สำคัญซึ่งใช้เป็นสถานที่บรรจุอัฐิของย่าโม
ตามตำนานแห่งการสร้างวัดศาลาลอยเล่าว่าในปี พ.ศ.2370 ภายหลังจากชนะศึกแล้ว ย่าโมและท่านพระยาปลัดสามีได้แวะพักทัพในการเดินทางเพื่อกลับเมืองโคราช ระหว่างนั้นท่านได้สั่งทำแพเสี่ยงทายเป็นรูปศาลา และให้ลอยน้ำไปตามลำตะคอง โดยตั้งจิตอธิษฐานว่าถ้าแพลอยไปหยุดลงตรงที่ใดจะสร้างวัดขึ้นไว้เป็นอนุสรณ์ ซึ่งแพนั้นก็ได้ลอยมาติดตรงริมฝั่งลำตะคองอันเป็นที่ตั้งของวัดศาลาลอยแห่งนี้ ต่อมาภายหลังเมื่อย่าโมได้ถึงแก่อสัญกรรมลงเมื่ออายุ 81 ปี ในปี พ.ศ.2396 พระยาปลัดสามีของท่านได้ให้ก่อเจดีย์บรรจุอัฐิของย่าโมไว้ที่วัดศาลาลอย วัดแห่งนี้จึงเป็นที่เคารพสักการะของชาวโคราชสืบมาจนถึงปัจจุบัน
สถานที่ตั้ง
ต.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา แยกจากถนนรอบเมืองไปราว 500 ม.
ความเชื่อและวิธีการบูชา
ชาวโคราชและชาวต่างถิ่นนิยมเดินทางมาสักการะรูปปั้นและเจดีย์บรรจุอัฐิย่าโมที่วัดศาลาลอยนี้ เพื่อบนบานขอพรย่าโมให้ปกป้องคุ้มครอง โดยเฉพาะในเรื่องของความรักและคู่ครอง มีความเชื่อว่าย่าโมจะสามารถดลบันดาลให้สมหวังได้ในที่สุด และเมื่อได้รับความสำเร็จดังใจอธิษฐานแล้ว ก็มักจะแก้บนด้วยเพลงโคราชที่มีทั้งนักร้อง และนักรำแต่งตัวสวยงาม เพราะเชื่อว่าย่าโมนั้นชอบฟังเพลงโคราชเป็นชีวิตจิตใจ
ขอขอบคุณ http://www.rakkorat.com/