วัดบางพลีใหญ่ใน สมุทรปราการ

วัดบางพลีใหญ่ใน อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ
วัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัดสมุทรปราการ วัดนี้อยู่ริมลำคลองสำโรง ห่างจากประตูน้ำสำโรงประมาณ 13 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 40 กว่าไร่ เนื้อที่ตั้งวัดประมาณ 35 ไร่เศษ อยู่ติดกับ ตลาดน้ำโบราณบางพลี ในอุโบสถมีพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไปนาม หลวงพ่อโต วัดนี้จึงมีชื่อว่า วัดหลวงพ่อโต อีกชื่อหนึ่ง ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือในพิธีโยนบัวหรือรับบัวทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11

ท่องเที่ยว
การเดินทางจากกรุงเทพฯ หรือจังหวัดต่าง ๆ มายังวัดนี้สะดวกสบายมากด้วยทางรถยนต์ และทางเรือ
ทางรถยนต์:
– เข้าทางถนนสาย บางนา-ตราด ประมาณกิโลเมตรที่ 12 ข้ามสะพานคลองชวดลากข้าว แล้วจะมีทางเลี้ยวเข้าสู่อำเภอบางพลี ทางด้านขวามือประมาณ 3 กิโลเมตรครึ่ง ก็จะถึงวัด
– อีกทางหนึ่งเข้าถนนเทพารักษ์ข้างสถานีตำรวจสำโรงประมาณ 13 กิโลเมตร ก็ถึงวัด ส่วนทางเรือก็มีเรือโดยสารอยู่ที่ท่าเรือสำโรง มีเรือโดยสารออกทุกระยะประมาณไม่เกิน 30 นาที เรือก็จะถึงวัดบางพลีใหญ่ใน นับวาการคมนาคมสะดวกสบายมาก

Read more »

วัดบางพลีใหญ่ใน

วัดบางพลีใหญ่ในเป็นชื่อของวัดพระอารามหลวงชั้นตรีที่มีประวัติความเป็นมาอันยาวนานและมีชื่อเสียงแห่งหนึ่งของ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เพราะเป็นวัดที่ใช้ประดิษฐานหลวงพ่อโตซึ่งเป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย ปางมารวิชัยและเป็นหนึ่งในพระสามพี่น้อง วัดแห่งนี้เดิมมีชื่อว่า วัดพลับพลาชัยชนะสงคราม

ประวัติวัดบางพลีใหญ่ใน (ประวัติโดยย่อ)

วัด บางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของจังหวัด สมุทรปราการ วัดนี้อยู่ริมคลองสำโรง ห่างจากประตูน้ำ สำโรง ประมาณ 13 กิโลเมตร มีเนื้อที่ 40 กว่าไร่

ทางประวัติศาสตร์ พระนเรศวรทรงยาตรากองทัพ ขับไล่ข้าศึกมาทางทิศตะวันออก ของกรุงศรีอยุธยา มาถึงตำบลหนึ่งไม่ปรากฏนาม ทางทำพิธีพลีกรรมบวงสรวงตามตำรับพิชัยสงคราม เมื่อชนะสงครามแล้ว พระองค์ทรงกลับมาสร้างพลับพลานี้และเรียกชื่อวัดนี้ว่า วัดพลับลพาชัยชนะสงคราม ต่อมา เรียกชื่อตามตำบลที่ทำพิธีพลีกรรมบวงสรวงว่า ตำบลบางพลี จึงเรียกวัดพลับพลาชัยชนะสงครามว่า วัดบางพลี ต่อมามีพระองค์ใหญ่ คือหลวงพ่อโต มาประดิษฐานในอุโบสถ และมีวัดบางพลีใหญ่กลางอยู่ด้านนอก จึงเรียกวัดพลับพลาชัยชนะสงครามว่า วัดบางพลีใหญ่ใน หรือวัดหลวงพ่อโต มาจนตราบเท่าทุกวันนี้

Read more »

วัดบางพลีใหญ่กลาง

พระศากยมุนีศรีสุเมธบพิตร วัดบางพลีใหญ่กลาง อ.บางพลี จ. สมุทรปราการ เป็นพระพุทธรูปปางสีหไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ยาว 26 วา 1 ศอก 9 นิ้ว กว้าง 3 วา 1 ศอก สร้างเมื่อปีพ.ศ. 2521 เสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2544 โดยพระครูพิสารวุฒิกิจ เจ้าอาวาสวัดบางพลีใหญ่กลางรูปปัจจุบัน แรงบันดาลใจในการสร้างพระนอนท่านเล่าว่า “จากประสบการณ์ที่อยู่ในสมณะเพศได้เดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ จึงเกิดความคิดที่จะทำอะไรสักอย่างหนึ่งเพื่อเป็นการสร้างกุศล และให้ประชาชนมาทำบุญที่วัดมากๆเหมือนกับวัดอื่นๆ ที่เคยพบเห็น” พระนอนดังกล่าวนี้ ภายในมีห้องปฏิบัติกรรมฐาน มีภาพเขียนเป็นเรื่องราวเทวดานรก และเรือสำเภาหน้าวัดด้านริม คลองสำโรงและ มีอวัยวะภายใน โดยเฉพาะหัวใจจะบรรจุด้วยเพชรนิล จินดา น้ำพันจันทร์ และทองคำ ดันสื่อความหมายถึงความแข็งแกร่งและศักดิ์สิทธิ์ เพื่อประชาชนมาปิดทองที่หัวใจพระนอนเปรียบเสมือนปิดทองหัวใจพระพุทธเจ้า

วัดบางพลีใหญ่กลาง
วัดบางพลีใหญ่กลาง ตั้งอยู่บริเวณคลองสำโรงฝั่งเหนือ ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากวัดบางพลีใหญ่เล็กน้อย สร้างขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ. 2367 ชาวบ้านละแวกบางพลี เรียกว่า วัดกลาง คงเป็นเพราะตั้งอยู่ท่ามกลางระหว่างวัดบางพลีใหญ่ในกับวัดคงคาราม (วัดยายหนู) ซึ่งเป็นวัดร้างไปแล้ว เดิมที่ตั้งวัดเป็นที่ดินของนายช้างหมื่นราษฎร์ โดยนาย น้อย หมื่นราษฎร์ พี่ชายเป็นผู้สร้างขึ้นและได้ขนานนามวัดว่า “วัดน้อยปทุมคงคา”เพราะได้ขุดสระปลูกบัวหลวงไว้ด้วย ต่อมาเปลี่ยนนามวัดใหม่ว่า “วัดราษฎร์ศรัทธาธรรม” และครั้งสุดท้ายเปลี่ยนเป็น “วัดบางพลีใหญ่กลาง” โดยมิปรากฏแน่ชัดว่าเปลี่ยนใน สมัยเจ้าอาวาสรูปใด

Read more »

นมัสการองค์หลวงพ่อโตวัดบางพลี

1371494734-Image00098-o

วัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ริมคลองสำโรง ตำบลบางพลีใหญ่ ห่างจากบึงตะโก้ประมาณ 500 เมตร เดิมชื่อวัดพลับพลาไชยชนะสงคราม เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปองค์ใหญ่สมัยสุโขทัยปางมารวิชัยลืมเนตร หน้าตักกว้าง 3 ศอก 1 คืบ เนื้อเป็นทองสัมฤทธิ์เป็นพระประธานในโบสถ์ เป็นที่เลื่อมใสของประชาชนโดยทั่วไปนาม หลวงพ่อโต วัดนี้จึงมีอีกชื่อว่า วัดหลวงพ่อโต ชาวบางพลีได้อัญเชิญหลวงพ่อโตจำลองลงเรือในพิธีโยนบัวหรือรับบัวทุกปี ในวันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11
ติดกับวัดยังมีตลาดริมน้ำโบราณที่มีอายุยาวนานกว่า 140 ปี ที่ยังคงสภาพเดิมให้นักท่องเที่ยวได้เดินชมและเลือกซื้อซึ่งมีทั้งอาหารและ ของใช้ต่างๆ

ประวัติวัดบางพลีใหญ่ใน
วัดบางพลีใหญ่ในเดิมชื่อ วัดพลับพลาไชยชนะสงครามชาวบ้านบริเวณใกล้เคียงเรียกวัดนี้ว่า วัดใหญ่หรือ วัดหลวงพ่อโตทางประวัติศาสตร์จากโบราณคดีจารึกสืบต่อกันมาแต่ครั้งโบราณกาล ว่า วัดนี้สร้างขึ้นในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช หลังจากเสียกรุงศรีอยุธยา มาถึง 2 ครั้ง ในปี พ.ศ 2112 และ พ.ศ 2310 สมเด็จพระนเรศวรมหาราชได้ทรงกอบกู้อิสรภาพ สู่ความเป็นไทยอีกครั้งหนึ่ง จนอาณาเขตของประเทศ (สยาม) ขยายออกไปอีกอย่าางกว้างขวาง

Read more »

วัดบางพลี จ.สมุทรปราการ

1372061867-Image00077-o

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปที่วัดวัดบางพลีใหญ่กลางมา ฝนตกพรำๆตลอดเลยครับ ได้รูปมานิดหน่อย
หวังว่าพอจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะครับ แก่ผู้สนใจ อยากไปเที่ยวทำบุญที่วัดนี้กัน
วัดบางพลีใหญ่กลาง ตั้งอยู่ ตำบลบางพลีใหญ่ อำเภอบางพลี ไม่ไกลจากวัดบางพลีใหญ่ใน ภายในวัดมีวิหารประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ขนาดใหญ่ ลงรักปิดทองตลอดทั้งองค์ ความยาวขององค์พระนอนตั้งแต่ปลายเกศจนถึงพรบาท 52 เมตร 50 เซนติเมตร สูง 18 เมตร ภายในองค์พระนอนเป็นอาคาร 4 ชั้น ชั้นที่ 1 เป็นห้องพักสำหรับผู้มาปฏิบัติธรรม ชั้นที่ 2 และ3 เป็นสถานที่จัดแสดงจิตกรรมฝาผนังเกี่ยวกับพุทธศาสนา ส่วนชั้นที่ 4 เป็นที่ประดิษฐานหัวใจขององค์พระนอนให้ผู้ที่มานมัสการได้ปิดทอง สมเด็จธีรญาณมุนีเจ้าคณะภาค 1 วัดปทุมคงคา ประทานนามพระพุทธรูปว่า “สมเด็จศากยมุนีศรีสุเมธบพิธ” แต่ชาวบางพลีนิยมเรียก “พระนอนบางพลี”

การเดินทาง

จากแยกบางนา ใช้เส้นทางถนนบางนา-ตราดมุ่งหน้าไปทางจังหวัดชลบุรีถึงกิโลเมตรที่ 12 ให้กลับรถแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าทางถนนบางพลี-กิ่งแก้ว ประมาณ 3 กิโลเมตร ให้เลี้ยวซ้ายถนนทางเข้าที่ว่าการอำเภอบางพลีไปประมาณ 1 กิโลเมตร จะถึงวัดบางพลีใหญ่กลาง

ขอขอบคุณ http://pantip.com/

วัดบางพลี

Prawat_wat01

 

ขอขอบคุณ http://www.watbangpleeyainai.org/

 

นมัสการหลวงพ่อโต วัดบางพลีใหญ่ใน จ.สมุทรปราการ

65572f9d6

ที่วัดหลวงพ่อโต มีรูปหล่อจำลองหลวงพ่อวัดดังมากมายให้สักการะกัน เช่น หลวงพ่อโสธร หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโตวัดป่าเลไลย์ หรือจะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็มีให้บูชามากมาย เช่น บูชาราหูล เจ้าแม่กวนอิม หมอชีวกโกมารภัจจ์ ศาลพระพรหม ตลอดจนการทำสังฆทาน ก็จะมีศาลาสำหรับให้ประชาชนได้ถวายสังฆทานกัน ตั้งแต่เช้า 8.00 น. โดยถวายสังฆทานเป็นรอบๆ ได้ตลอดเวลา และถ้าท่านจะทำทานเลี้ยงปลาก็ที่ท่าน้ำริมคลอง หรือสายๆ หน่อยก็สามารถเดินเที่ยวตลาดโบราณบางพลี 150 ปี

การเดินทาง วัดบางพลีใหญ่ใน ตั้งอยู่ที่ ถ.บางนา – ตราด กม.13 ฝั่งเขาเข้ากรุงเทพฯ ถึงก่อนโฮมโปร โลตัส บางพลี กม.12 ถ้ามาจาก จ.ชลบุรี มุ่งหน้ากรุงเทพฯ เมื่อผ่าน บ.ไทยซัมมิท ถ.บางนา – ตราด กม.16 ผ่านทางเข้าสนามบินสุวรรณภูมิ ให้ชิดซ้ายทางคู่ขนาน เห็นโชว์ รูมรถยนต์มิตซูบิชิ ก็เลี้ยวซ้ายไปตามป้ายบอกทางอีก 3 – 4 กม.

ขอขอบคุณ http://www.oknation.net/

 

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

DTHB391 Wat Phitchaya 2007

วัดพิชยญาติการามวรวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหารเดิมเป็นวัดร้าง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัตบุนนาค) ครั้งดำรงยศเป็น พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ได้ปฏิสังขรณึ้นใหม่เมื่อปี พ.ศ. ๒๓๘๔ ในรัชกาลที่ ๓ เนื่องจากท่านมี เรือกำปั่นค้าขายกับต่างประเทศอยู่หลายลำ จีงหาชี้อวัสตุก่อสร้างส่วนใหญมาจากจีน ถาวรวัตถุที่ก่อสร้างขี้นจีงมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีน สิ่งสำคัญในพระอาราม มีพระอุโบสถขนาดย่อม หลังคาแบบเก๋งจีน ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันทั้ง สองด้านเป็นลายปูนปั้นมังกรสอดสีประดับกระเบื้อง เพดานตามระเบียง เขียนลยดอกไม้สอดสี เสาพาไลเป็นศิลากลม ฐานของพาไลสลักศิลาเป็นรูปในเรื่องสามก๊กด้วยฝีมีองดงาม บานประตูหน้าพระอุโบสถเขียนลารดน้ำเป็นรูปเชี่ยวกางเหยียบสิงโต บานประตูกลางเป็นลายรดน้ำรูปเทวดาถือพระขรรค์เหยียบราชสีห์ ภายในพระอุโบสถฝาผนังและเสาภายในมีภาพจิตรกรรมรูปลายดอกไม้ ผนังบานกกหน้าต่างด้านนอกเขียนรูปต้นไม้สวรรค์ต่าง ๆ เช่น ต้นนารีผลและต้นกัลปพฤกษ์ หลังพระประธานเขียนเป็นรูปชุ้มเรือนแก้ว ลานหน้าพระอุโบสถปูด้วยแผ่นศิลาจากเมืองจีน เสมาสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นเสมาคู่ ชุ้มเสมาช่างไทย ออกแบบ และสั่งและสลักศิลาสำเร็จมาจากเมืองจีน พระประธาในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีพระนามว่า พระสิทธารถ

Read more »

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร ตั้งอยู่ริมคลองบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน เดิมเป็นวัดร้าง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ครั้งมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาศรีพิพัฒน์ราชโกษา ได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ประมาณ พ.ศ. ๒๓๗๒ – ๒๓๗๕ ในรัชกาลที่ ๓ เนื่องจากสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยขณะนั้นเป็นจางวางพระคลังสินค้า มีเรือสำเภาค้าขายกับจีน จึงได้นำอับเฉาเรือ กระเบื้องสี และหินมาจากจีน สถาปัตยกรรมวัดนี้มีลักษณะแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยนั้น เมื่อบูรณะวัดเสร็จแล้ว ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๓ ทรงพระราชทานนามว่า “วัดพระยาญาติการาม” ในสมัยรัชกาลที่ ๔ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดพิชยญาติการาม” คนทั่วไปเรียกว่า “วัดพิชัยญาติ”

พระอุโบสถวัดนี้มีขนาดย่อม หลังคาแบบเก๋งจีน ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันทั้งสองเป็นปูนปั้นมังกรสอดสีประดับกระเบื้อง เพดานตามระเบียงเขียนรูปดอกไม้สอดสี เสาพาไลเป็นศิลากลม ฐานสลักศิลาเป็นเรื่องสามก๊ก ฝีมืองดงามหาดูได้ยาก บานประตูหน้าพระอุโบสถเขียนลายรดน้ำเป็นรูปเซี่ยวกางเหยียบสิงห์โต บานประตูกลางเป็นลายรดน้ำรูปเทวดาถือพระขรรค์เหยียบราชสีห์ ภายในพระอุโบสถ ฝาผนัง และเสาภายใน เขียนลายดอกไม้ ต้นไม้สวรรค์ เช่น นารีผล และกัลปพฤกษ์ หลังพระประธานเขียนเป็นรูปซุ้มเรือนแก้ว ลานหน้าพระอุโบสถปูด้วยแผ่นศิลาจากเมืองจีน พระปรางค์ องค์ใหญ่สร้างในสมัยรัชกาลที่ ๓ เลียนแบบปรางค์ สมัยอยุธยาประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้น ๔ องค์ หันพระพักตร์ไปสู่ทิศทั้งสี่ ส่วนพระปรางค์องค์เล็ก ๒ องค์นั้น องค์ทิศตะวันออกเป็นที่ประดิษฐานพระโพธิสัตว์ศรีอาริยเมตไตรย องค์ทิศตะวันตกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง ๔ รอย จำหลักด้วยแผ่นศิลา

Read more »

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหารเดิมเป็นวัดร้าง สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิชัยญาติ (ทัตบุนนาค) ครั้งดำรงยศเป็น พระยาศรีพิพัฒน์รัตนราชโกษา ได้ปฏิสังขรณึ้นใหม่เมื่อปี พ. ศ. ๒๓๘๔ ในรัชกาลที่ ๓ เนื่องจากท่านมี เรือกำปั่นค้าขายกับต่างประเทศอยู่หลายลำ จีงหาชี้อวัสตุก่อสร้างส่วนใหญมาจากจีน ถาวรวัตถุที่ก่อสร้างขี้นจีงมีลักษณะสถาปัตยกรรมแบบจีน สิ่งสำคัญในพระอาราม มีพระอุโบสถขนาดย่อม หลังคาแบบเก๋งจีน ไม่มีช่อฟ้าใบระกา หน้าบันทั้ง สองด้านเป็นลายปูนปั้นมังกรสอดสีประดับกระเบื้อง เพดานตามระเบียง เขียนลยดอกไม้สอดสี เสาพาไลเป็นศิลากลม ฐานของพาไลสลักศิลาเป็นรูปในเรื่องสามก๊กด้วยฝีมีองดงาม บานประตูหน้าพระอุโบสถเขียนลารดน้ำเป็นรูปเชี่ยวกางเหยียบสิงโต บานประตูกลางเป็นลายรดน้ำรูปเทวดาถือพระขรรค์เหยียบราชสีห์ ภายในพระอุโบสถฝาผนังและเสาภายในมีภาพจิตรกรรมรูปลายดอกไม้ ผนังบานกกหน้าต่างด้านนอกเขียนรูปต้นไม้สวรรค์ต่าง ๆ เช่น ต้นนารีผลและต้นกัลปพฤกษ์ หลังพระประธานเขียนเป็นรูปชุ้มเรือนแก้ว ลานหน้าพระอุโบสถปูด้วยแผ่นศิลาจากเมืองจีน เสมาสมัยรัชกาลที่ ๓ เป็นเสมาคู่ ชุ้มเสมาช่างไทย ออกแบบ และสั่งและสลักศิลาสำเร็จมาจากเมืองจีน พระประธาในพระอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปสมัยสุโขทัย มีพระนามว่า พระสิทธารถ

ขอขอบคุณ : http://th.wikipedia.org/wiki/วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

โครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม สามเณรธรรมาสน์ทอง จัดอบรมหลักสูตรการเทศน์ที่ถูกต้องแก่สามเณร

bdad31d10a4eccc971312e5aa42be481-0

สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ร่วมกับสำนักงานพุทธศาสนาแห่งชาติ และกรมศาสนา แถลงข่าวเปิดโครงการส่งเสริมวิชาการเทศนาธรรม “สามเณรธรรมาสน์ทอง” ณ วัดพิชยญาติการาม เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร โดยมี สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ที่ ๓ จากซ้าย) ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยพระเถรานุเถระ ข้าราชการ ประชาชน ร่วมในงาน เพื่อเป็นการอนุรักษ์การเทศนาธรรมแบบดั้งเดิม โดยพัฒนาแนวทางหลักสูตรการเทศน์ของประเทศไทยให้เป็นมาตรฐาน ด้วยการจัดอบรมและส่งเสริมให้สามเณรได้มีความรู้ความเข้าใจต่อการเทศนาธรรม สามารถเผยแผ่หลักธรรมคำสอนอย่างถูกทำนองคลองธรรม ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งกําลังธรรมสําคัญช่วยสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ยืนยาว ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.thammastong.com

ขอขอบคุณ http://www.newswit.com/

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร หรือ วัดพิชัยญาติ

2030-07bd

ตั้งอยู่เชิงสะพานพุทธ บริเวณที่เดิมเรียกว่าวงเวียนเล็ก ในแขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ริมคลองบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน เดิมเป็นวัดร้าง แต่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ครั้งมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาศรีพิพัฒน์ราชโกษา ได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ประมาณ พ.ศ. 2372 – 2375 ในรัชกาลที่ 3 เนื่องจากสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยขณะนั้นเป็นจางวางพระคลังสินค้า มีเรือสำเภาค้าขายกับจีน จึงได้นำอับเฉาเรือ กระเบื้องสี และหินมาจากจีน สถาปัตยกรรมวัดนี้มีลักษณะแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยนั้น เมื่อบูรณะวัดเสร็จแล้ว ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระราชทานนามว่า “วัดพระยาญาติการาม” ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดพิชยญาติการาม” หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “วัดพิชัยญาติ”

ขอขอบคุณhttp://www.web-pra.com/

สถานที่ปฏิบัติธรรม สำหรับสาวๆออฟฟิศ-วัดพิชัยญาติ

07

ตอนนี้ไม่ว่าสาวในแวดวงไหนต่างก็ยกให้ธรรมะเป็นของอินเทรนด์แบบว่ากำลังมาอย่างแรง ก่อนปีใหม่นี้ถือโอกาสชวนให้สาวๆ ออกจากบ้านไปชำระล้างจิตใจให้สงบและบริสุทธิ์ด้วยการปฏิบัติธรรม เพราะเชื่อว่าถ้ามีธรรมะในใจ จะช่วยให้สติมา ปัญญาเกิด สามารถเปลี่ยนให้มีความสุขและสดใสกว่าเดิม เชื่อเถอะว่าไม่ว่า พ.ศ. นี้หรือ พ.ศ. ไหน ประโยชน์ที่คุณจะได้ไม่มีวันเอ๊าต์เทรนด์แน่นอน

สถานที่ ปฏิบัติธรรม ออฟฟิต ทำงาน วัด

สาวที่มีปัญหาขี้วีน หงุดหงิดง่าย หรือเพิ่งประสบปัญหาหนักในชีวิต
วัดอินทรวิหาร ถนนวิสุทธิกษัตริย์ เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร.0-2628-5550-4

สาวที่ไม่เคยศึกษาธรรมะและไม่มีเวลาทำบุญ
วัดปทุมวนารามราชาวิหาร ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ โทร.0-2658-3885,0-2251-6478

สาวที่มีปัญหาเรื่องความอยากและบ้าช็อปปิ้ง
วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฏิ์ราชวรมหาวิหาร เลขที่ 3 ถนนมหาราช เขตพระนคร กรุงเทพฯ โทร.0-2222-6011,0-2222-4981

Read more »

ปูชนียวัตถุและถาวรวัตถุที่สำคัญของวัดพิชัยญาติ

200px-S5000088re

พระอุโบสถ สร้างเป็นศิลปะแบบจีน ไม่มีช่อฟ้า ใบระกา เนื่องจากสมัยก่อนเป็นวัดอยู่ในสวน จึงสร้างเพื่อหลบบรรดากิ่งไม้ ผลไม้ที่จะหล่นหรือหักไปกระทบหลังคาพระอุโบสถได้ องค์พระประธานในอุโบสถ เป็นพระพุทธรูปปั้น ปางมารวิชัย เป็นพระพุทธรูปโบราณรุ่นเดียวกับพระพุทธชินราชชินศรี โดยอัญเชิญมาจากวัดพระวิหาร หลวงเมืองพิษณุโลก นามว่า “พระสิทธารถ” หรือที่ชาวบ้านทั่วไปจะเรียกท่านว่า “หลวงพ่อสมปรารถนา” ซึ่งเป็นที่เคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก พระพุทธรูปประดิษฐานหน้าองค์พระประธาน เป็นพระพุทธรูป ปางมารวิชัย โดยสมเด็จพระเจ้าที่ยาเธอเจ้ากรมพระนครสวรรค์วรพินิต ทรงหล่อเมื่อ พ.ศ. 2465 นามว่า พระวรวินายก พระปรางค์องค์ใหญ่ วัดโดยรอบ 33 วา 2 ศอก ส่วนสูงตลอดยอดนภศูล 21 วา 1 ศอก 10 นิ้ว เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปปั้น 4 องค์ หันพระพักตร์ไปสู่สี่ทิศ มีพระปรางค์องค์เล็ก 2 องค์ ขนาดวัดโดยรอบ 15 วา ส่วนสูงตลอดนภศูล 11 วา 1 ศอก 1 คืบ 2 กระเบียด ทิศตะวันออกเป็นที่ ประดิษฐานพระโพธิสัตว์พระศรีอาริย์ องค์ทิศตะวันตกเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธบาทจำลอง 4 รอย จำหลักด้วยแผ่นศิลา สัณนิฐานกันว่าเป็นของเก่า แต่ไม่ทราบว่านำมาจากที่ไหน
นอกจากนี้แล้วยังเป็นที่รู้จักกันดีว่า แม่ชีทศพร (หรือธนพร) จำพรรษาอยูที่วัดนี้

ขอขอบคุณ https://sites.google.com

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร

ประวัติวัดพิชยญาติการามวรวิหาร

images

วัดพิชยญาติการามวรวิหาร หรือ วัดพิชัยญาติ ตั้งอยู่เชิงสะพานพุทธ บริเวณที่เดิมเรียกว่าวงเวียนเล็ก ในแขวงสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่ริมคลองบ้านสมเด็จเจ้าพระยา เขตคลองสาน เดิมเป็นวัดร้าง แต่สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาพิไชยญาติ (ทัต บุนนาค) ครั้งมีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาศรีพิพัฒน์ราชโกษา ได้ปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่ประมาณ พ.ศ. 2372 – 2375 ในรัชกาลที่ 3 เนื่องจากสมเด็จเจ้าพระยาองค์น้อยขณะนั้นเป็นจางวางพระคลังสินค้า มีเรือสำเภาค้าขายกับจีน จึงได้นำอับเฉาเรือ กระเบื้องสี และหินมาจากจีน สถาปัตยกรรมวัดนี้มีลักษณะแบบไทยผสมจีน ซึ่งเป็นแบบพระราชนิยมในสมัยนั้น เมื่อบูรณะวัดเสร็จแล้ว ได้น้อมเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ทรงพระราชทานนามว่า “วัดพระยาญาติการาม” ในสมัยรัชกาลที่ 4 พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเปลี่ยนชื่อวัดใหม่เป็น “วัดพิชยญาติการาม” หรือที่คนทั่วไปเรียกกันว่า “วัดพิชัยญาติ”

ขอขอบคุณ https://sites.google.com

. . . . . . .
. . . . . . .